Skip to main content

ถ้าไฟไหม้บ้าน

คอลัมน์/ชุมชน

ถ้าไฟไหม้บ้านคุณจะนำสิ่งใดไปด้วย...


 


ตื่นเช้าขึ้นมาถามเพื่อนด้วยคำถามนี้ เพราะเมื่อคืนมีเหตุที่เกือบทำให้เกิดความหายนะในชุมชน โชคดีที่ฉันตื่นไว ได้ยินเสียงเปาะแปะเหมือนเสียงฝนตกรดหลังคา แต่ฟังอีกทีทำไมเสียงน้ำแปลก ๆ ก็เลยลุกขึ้นมา มองไปที่หน้าต่าง เห็นแสงสว่างจ้าอยู่ที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งมีหญ้าแห้งขึ้น และมีคนนำที่นอนเก่า ๆ มาทิ้งไว้


 


แสงอะไรนะ...ฉันคว้าแว่นตา และกุญแจบ้าน เดินออกไปดูที่รั้ว


 


อุแม่เจ้า เปลวเพลิงลุกเกือบถึงหลังคาบ้านที่อยู่ติดกับบริเวณไฟไหม้ บ้านนั้นเป็นออฟฟิศ ซึ่งวันหยุดยาวแบบนี้คงไม่มีใครอยู่ ฉันวิ่งเข้าบ้าน คว้าโทรศัพท์เรียก 191 บอกว่าเกิดเหตุที่ไหน แต่เจ้ากรรมฉันได้ยินเพียง "ฮัลโหล" คำเดียว แล้วก็ไม่มีเสียงอันใดตอบกลับมา วิ่งเข้ามาเรียกเพื่อน และโทรเรียกคนข้างบ้านออกมาช่วยกันดับ  สักครู่เพื่อนบ้านก็ออกมาช่วยกันตักน้ำดับไฟ มีคนพยายามโทร 191 แต่ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับฉัน


 


เราดับไฟได้ แต่ก็ไม่แน่ใจนัก เพราะเกรงว่าจะมีเชื้อไฟหลงเหลืออยู่ สักครู่มีรถดับเพลิงวิ่งเข้ามา แสดงว่าตำรวจได้ยินเสียงฉันตอนที่โทรไป


 


เห็นหมายเลขโทรศัพท์ข้างรถดับเพลิงว่า 199 คือแจ้งเหตุเพลิงไหม้  บางทีเรื่องบางเรื่องที่ดูเหมือนจะรู้แต่ก็ไม่รู้ ฉันรู้สึกว่าเมื่อเกิดเหตุ คนจำเพียงหมายเลข 191 เท่านั้น เมื่อมีไฟลุกโชติช่วงอยู่หน้าบ้าน เลข 199 ข้างรถดับเพลิงก็ถูกจำจนตาย คงไม่บ่อยนักที่เราจะได้ใช้หมายเลขนี้  แต่มีไว้ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะยามเกิดเหตุนั้น ช้าเพียงนิดเดียวก็อาจสายเกินไปก็ได้


 


กว่าจะได้นอนก็ตีสี่ครึ่ง แมวสองตัวแอบมองที่ข้างประตูหน้าตาตื่นตระหนก เช้ามาฉันคุยกับเพื่อนว่า ถ้าคุมไฟไม่ได้ หรือถ้ามีลมสักนิด บ้านเรือนแถวนี้คงวอดวายหมด ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะนำสิ่งใดใส่รถออกไปบ้าง สิ่งแรกที่ฉันคิดคือ แมว จับใส่รถก่อน กระเป๋าสตางค์ แว่นตา จากนั้นก็ต้องรีบถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ ยก CPU ใส่รถ และถ้ามีเวลาเหลือก็จะยกหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปด้วย  เพราะงานทั้งหมดของฉันอยู่ในนั้น อีกอย่างที่น่าจะต้องหยิบไปด้วยคือ ซีดีทั้งหลายที่เก็บข้อมูลภาพถ่ายและงานเขียนเอาไว้ อย่างอื่นไม่มีก็ได้ ส่วนเพื่อนบอกว่าสิ่งแรกที่จะนำใส่รถคือแมวเช่นกัน กับกระเป๋าสตางค์ เธอไม่ได้นึกถึงคอมพิวเตอร์


 


คิดได้แค่นี้จริง ๆ  อาชีพนักเขียนและช่างภาพนั้น งานของเราเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาแล้ว ยากที่จะนึกย้อนกลับไปเขียนใหม่ หรือถ่ายภาพใหม่ให้เหมือนเดิมได้  อย่างอื่นเราต่างไม่สนใจ เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น อาหาร หนังสือ ล้วนเป็นสิ่งที่หาใหม่ได้


 


พลันคิดจบ ก็รู้สึกสุขใจแปลก ๆ ว่า ชีวิตเรานี้ช่างมีสมบัติน้อยจริง ๆ เราช่างไม่มีอะไรผูกติดกับชีวิตเสียเลย รู้สึกถึงอิสระต่อสิ่งพันธนาการทั้งปวง


 


ครึ่งวันผ่านไป ขณะเขียนถึงบรรทัดนี้ ก็พลันคิดได้ว่าทำไมฉันลืมสิ่งสำคัญในชีวิตไปอีกอย่างหนึ่ง "กล้องถ่ายรูป" อุปกรณ์การทำมาหากินที่ไม่ควรหลงลืม  และไม่ใช่สิ่งหนักหนาในการขนย้าย!!


 


ฉันลืมไปได้อย่างไรนี่!


คุณล่ะ ถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ นึกจะนำอะไรติดตัวไปบ้าง