Skip to main content

เมืองสายรุ้ง (6)

เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วที่สายรุ้งและเด่น กลับขึ้นมาจากท้องทะเล เด็กทั้งสองดำผุด ดำว่ายดูปะการังน้ำตื้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยโดยมีแม่คอยเฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิด แม่กำชับสายรุ้งนักหนาว่าไม่ให้ว่ายน้ำออกไปไกล


"แม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมว่ายน้ำได้" สายรุ้งอวด


 


พอเหนื่อยจากการดำน้ำดูปะการัง สายรุ้งและเด่นก็ขึ้นมานั่งเล่นบนพื้นทราย เงาของลำเรือหางยาวที่จอดอยู่ช่วยบังแดดไว้


 


สายรุ้งและเด่นช่วยกันปั้นเม็ดทรายเป็นปราสาท ทำคูระบายน้ำเรียบร้อย จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันขุดหลุมที่มีขนาดใหญ่ แล้วเด่นก็เป็นคนนอนลงไปในหลุมโดยให้สายรุ้งช่วยเอาทรายมากลบปิดไว้ เหลือแต่ใบหน้าที่โผล่ออกมา


 


"เย็นสบายจังเลย" เด่นบอก


แต่อันที่จริงแล้ว ใบหน้าของเด่นร้อนผะผ่าวจากเปลวแดดระริก เด่นนอนอยู่อย่างนั้นราวกับแมวขี้เกียจ แม้อากาศร้อน น้ำทะเลจะเค็มแต่เขาก็สุขใจที่ได้นอนอบตัวอยู่ใต้พื้นทราย มีลำเรืออยู่ข้าง ๆ  และมีแม่คอยเฝ้ามองอยู่


 


เด่นแหงนมองท้องฟ้าที่แตะแต้มด้วยก้อนเมฆ แต่สายตาเขาพร่าพรายด้วยประกายแดด ดังนั้นเขาจึงนอนหลับตา


 


สายรุ้งปีนขึ้นไปบนเรือหางยาว เขาจับแคมเรือไว้ เหนี่ยวตัวขึ้น เรือโคลง เขาเสียหลักแต่ก็ยังเกาะแคมเรือไว้แน่น  ในที่สุดสายรุ้งก็ปีนขึ้นไปจนได้ เขาจะให้เด่นแปลกใจที่เขาหายไป เด่นคงจะหาเขาจนทั่ว


 


สายรุ้งหมอบอยู่ในเรือหางยาว เด่นร้องเรียกเขา แต่สายรุ้งไม่ตอบ เด่นเรียกสายรุ้งอีกครั้ง สายรุ้งก็ยังไม่ตอบ เด่นจึงลุกขึ้นจากหลุมทราย มองหาสายรุ้ง เด่นเดินไปรอบลำเรือ มองลงไปยังท้องทะเล เห็นแต่กลุ่มนักท่องเที่ยวลอยตัวดูปะการังกันอยู่


"สงสัยจะแอบไปกินข้าว"


 


เด่นเดินไปหาแม่และน้าที่นั่งนอนเล่นกันอยู่ใต้ร่มของต้นหูกวาง แม่ของเด็กทั้งสองกำลังเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้วสำหรับมื้อเที่ยง


"สายรุ้งล่ะลูก"


"อ้าว! ผมคิดว่าเขาขึ้นมาแล้ว"


"ไม่ได้เล่นอยู่ด้วยกันเหรอ" อนงค์-แม่ของสายรุ้งทำท่าตกใจ แต่ที่จริงเธอเห็นแล้วว่าสายรุ้งขึ้นไปแอบอยู่บนลำเรือ


 


"ไปตามเพื่อนมากินข้าวกันเถอะ"


เด่นเดินวนอยู่รอบลำเรือสองรอบ แล้วก็นึกฉงนใจ เขาจึงปีนขึ้นไปบนเรือหางยาว


"ฉันอยู่นี่!" สายรุ้งหัวเราะ


"แม่เรียกไปกินข้าวแล้ว" เด่นพูด


ทั้งคู่เดินผ่านผืนทรายอันร้อนระอุ ร้อนจนแสบเท้า "ถ้ายืนอยู่อย่างนี้สักสิบนาที เท้าฉันคงไหม้แน่ ๆ" สายรุ้งว่า


 


แม่ช่วยสายรุ้งเช็ดตัว แล้วบอกให้สายรุ้งเปลี่ยนกางเกงที่เปียกโชกเสียก่อน  "ดูซิ ตัวดำเป็นเหนียงแล้ว"


สายรุ้งกับเด่นกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย  ทั้งคู่ดื่มน้ำเข้าไปมากเช่นกัน ความเหนื่อยบวกกับท้องที่อิ่มทำให้สายรุ้งรู้สึกง่วง


 


แม่ปูผ้าให้สายรุ้งนอน "นอนพักเสียสักงีบก็ดี"


สายรุ้งเอนกายลงบนพื้นทรายที่มีผ้าปูรองไว้ ศีรษะวางอยู่บนตักของแม่ ลมอ่อน ๆ โชยพัดมาจากทะเล สายรุ้งหลับลงแล้ว แม่เอามือลูบหน้าผากลูกชาย ความรักและความเศร้าท่วมท้นอยู่ในจิตใจเมื่อคิดไปว่าไม่ช้าไม่นานเธอและลูกชายคงต้องพรากจากกัน แล้วหากเธอจากไปแล้ว ลูกชายของเธอจะอยู่อย่างไร


 


----------


 


สายรุ้งตื่นแล้ว เขาลืมตาขึ้นและรู้สึกงงงวยในตอนแรก แต่แล้วเมื่อเห็นหน้าแม่ ความงงงวยก็หายไป


"เด่นละครับ"


"เล่นอยู่โน่น" แม่ชี้ไปที่ชายหาดสีขาว


 


แดดราแสงลงแล้ว เด่นกำลังเดินสำรวจชายหาด เขาพบสิ่งแปลก ๆ  มากมายซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งปลาดาวสีแดงซึ่งทะเลซัดขึ้นมาเกยฝั่ง ปูลมตัวเล็ก ๆ ซึ่งเขาตั้งใจจะจับให้ได้สักตัวแต่ก็ไม่เคยจับได้สักที เขาพบแมงกะพรุนด้วยเช่นกัน


"ดูสิ มันเหมือนวุ้นเลย" เด่นบอกสายรุ้งที่เดินมาสมทบ เขาใช้ไม้เขี่ยที่ไปที่แมงกะพรุน


"ฉันว่ามันเหมือนไขมันสัตว์" สายรุ้งว่า


 


เด่นนำสายรุ้งเดินไปตามความยาวของชายหาด หมู่ต้นสนทางซ้ายมือส่ายยอดตามแรงลม ท้องทะเลยามบ่ายสงบเสงี่ยมกว่าตอนสายมาก


"ฉันว่าเราเดินให้รอบเกาะนี้ดีกว่า" สายรุ้งชวน "คนขับเรือบอกว่าเกาะนี้เล็กนิดเดียว เดินแป๊บเดียวก็รอบแล้ว"


"เอาสิ"


 


เด็กทั้งสองปีนป่ายไปตามก้อนหิน เลี้ยวหายจนลับสายตาไป สายรุ้งรู้สึกตื่นเต้น เขาขึ้นไปยืนบนหินก้อนใหญ่ มองออกไปยังท้องทะเลกว้าง.