Skip to main content

ต่างกันตรงไหน... ในเมื่อเราใช้หัวใจดวงเดียวกัน

คอลัมน์/ชุมชน

คุณคงเคยขับรถเข้าไปในโรงพยาบาลบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่ไหนก็คงเหมือนกัน ที่จอดรถมักจะเต็ม ต้องขับรถวนไปเวียนมาหาที่จอดบางทีต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะลงตัว ยิ่งเป็นเวลาที่เราเร่งรีบแล้วมักจะหาที่จอดยากเป็นพิเศษ หากอากาศร้อนและเป็นเวลาใกล้เที่ยง ทุกอย่างยิ่งจะดูติดขัดไปหมด

ห้องตรวจกำลังจะปิดพักให้หมอรับประทานอาหารกลางวัน ห้องจ่ายยากำลังจะหยุดพักเช่นกัน แต่คนไข้ที่เรากำลังพามาหาหมอนี่สิ แทบจะรอให้เป็นเวลาบ่ายไม่ไหว ถึงกระนั้นก็ต้องรอเพราะมัวแต่ขับวนหาที่จอดรถ ถึงเวลาพักของหมอเสียแล้ว เข็มนาฬิกาหมุนเวลาจากสิบเอ็ดโมงเป็นเที่ยงวัน ได้แต่นั่งรอหน้าห้องตรวจที่ว่างเปล่า ถึงอย่างไรก็แน่นอนว่าได้พบหมอเวลาบ่าย


บนถนนในโรงพยาบาล เราจะใช้มาตรฐานบนท้องถนนทั่วไปคงไม่ได้ เพราะคนไข้และญาติที่เดินอยู่นั้นต่างถูกรุมล้อมด้วยความทุกข์ บางคนถือใบสั่งยาของหมอมาแล้วเดินเหม่อลอยอยู่กลางถนนแบบไม่รู้ตัว บางคนเดินร้องไห้ บางคนนั่งคร่ำครวญอยู่ริมทางเท้า


ในกฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น เพราะฉะนั้นกฎจราจรในโรงพยาบาลก็คือ อดทน ใจเย็น และมีสติตลอดเวลา แม้ต้องขับรถตามหลังคนที่เดินแบบเหม่อลอยชนิดที่เกือบชนหลัง เขาก็ยังไม่รู้ตัว ใช้เวลาเป็นห้านาทีกว่าที่เขาจะหันมามองด้วยแววตาที่อมทุกข์ และเห็นว่ามีรถขับอยู่ใกล้ๆ ตัวเขา ทันทีที่เราสบตาเขา เราแทบจะหมดแรงขับรถ ด้วยแววตานั้นแสนเศร้าและอมทุกข์เหลือเกิน


หมอนักธุรกิจคนหนึ่งเคยระเบิดอารมณ์ใส่พยาบาลเพราะไม่มีที่จอดรถ เขาจึงยกเลิกการผ่าตัด ส่งต่อคนไข้ไปรักษาที่อื่นเนื่องด้วยต้องขับรถวนหลายรอบยังไม่มีที่จอด แม้จะเข้าใจและเห็นใจแต่ก็ยังรู้สึกเศร้าแทนคนไข้และญาติที่ต้องมารับเคราะห์ในเวรวันนั้น ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าคนไข้จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าเพียงแต่เรามองด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยอมทำเพื่อคนอื่นบ้าง เหตุการณ์เศร้าๆ อย่างนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ได้แต่หวังว่าจะมีการจัดการที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปและคนไข้คนนั้นคงผ่านพ้นวิกฤติด้วยดี


ระหว่างนั่งรอตรวจ ฉันนั่งฟังความทุกข์ของคนอื่น แม่คนนี้เล่าว่าลูกคลอดก่อนกำหนดเพราะแม่ตกเลือดจากรกเกาะต่ำ ลูกถูกอบไว้ในตู้นานเป็นเดือนแต่ก็รอด ตัวเองก็แย่ป่วยออดแอดหลังคลอดลูกเลยยกลูกให้ย่าเลี้ยงดู ทั้งที่บ้านไม่ห่างกันเท่าไหร่แต่หัวใจแม่และลูกห่างเหินไกลเกินคาดคิด ตอนนี้ลูกอายุ 15 ปีแล้ว พูดจากันนานๆครั้ง บางทีลูกโกรธเพราะแม่พูดไม่ถูกใจ พาลไม่มาให้เห็นนานหลายวัน คุณว่าเพราะอะไรนะและจะทำอย่างไรดี ตัวเองป่วยเป็นโรคความดันสูงเพราะคิดมากอยู่แล้ว เธอถามพลางเช็ดน้ำตา


ถามเธอกลับไปว่า เคยกอดเขาไหม คนเป็นแม่ส่ายหน้า กลับไปดึงเขามากอดและถามทุกข์สุขอย่างที่คนเป็นแม่ทำนะ ถึงลูกจะรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งแต่เขาต้องรู้ว่าแม่รักเขาแน่นอน เริ่มต้นวันนี้เลยไม่สาย ถึงอย่างไรเราเป็นแม่ลูกกัน นั่งลงคุยกัน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ถึงเขาจะโกรธแม่อย่างไรเขาก็กลับมาหาทุกครั้งแสดงว่าหัวใจเขารักแม่เสมอ อย่าคิดมาก อย่าท้อแท้ให้มีกำลังใจ เธอยิ้ม พยักหน้าและเดินเข้าห้องตรวจไปตามเสียงเรียกชื่อ


ในบางเวลาเราไม่ได้ต้องการคำตอบที่แท้จริง ฉันเชื่ออย่างนั้น เราต้องการเพียงได้บอกเล่าเท่านั้น ได้มีใครสักคนฟังในสิ่งที่เราพูด เห็นในสิ่งที่เราเห็นและทำในสิ่งที่เราอยากทำ เหมือนเป็นเพื่อน ไม่ทอดทิ้งแม้กลางถนน แม้ไม่มีที่จะให้เป็นที่พักพิง แค่สบตาและรับรู้ย่อมมีความหมายเสมอ...