Skip to main content

ภาพที่เคยถ่ายของกล้องที่หายไป

คอลัมน์/ชุมชน

ใจยังไม่นิ่ง สมองยังทำงานฟุ้งซ่านไปเรื่อยๆ วันนี้เป็นช่วงระยะเวลาที่ไม่ได้ดูทีวี ผมใช้เวลากว่าหลายชั่วโมงนั่งดูภาพถ่ายเก่าๆ เมื่ออดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพถ่ายจากกล้องถ่ายรูปแบบใช้ฟิล์ม ที่ผ่านการล้างอัดรูปแล้ว นำมาบรรจุไว้ในซองใส่เก็บไว้มานานหลายปี


เวลาที่มองดูภาพต่างๆ เหล่านี้แล้ว ทำให้อดีตที่ผ่านมาในความจำในครั้งนั้นเริ่มทำงานอีกหน ทั้งเพื่อนๆ การงานหรือจะเป็นภาพกิจกรรมในอดีตที่ผ่านมาได้ปรากฏมโนภาพขึ้นในโสตสมองอยู่นานพอควร


สำหรับภาพถ่ายแล้ว ผมว่ามันเป็นตัวเก็บประจุความทรงจำได้เป็นอย่างดี ภาพเพียงภาพเดียวแต่ยังมีเรื่องราวหลายเรื่องราวทับซ้อนกันอยู่ มีความทรงจำสุข ทุกข์ ดีใจ เศร้าใจ ของผู้คน มากมายหลายอย่างปะปนกัน


บางครั้งก็เป็นเสมือนเครื่องเตือนให้เรากลับไปมองตัวเองในอดีตว่าเป็นอย่างไร ดูตัวเองว่าเราทำอะไรมาบ้าง ทำให้ได้ทบทวนตัวเองไปในตัว เหมือนส่องกระจกดูเงาตัวเอง ประมาณนั้น


ผมจำได้ดีว่ามีความฝันว่าอยากมีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง เพราะเมื่อก่อนเวลาจะถ่ายรูปก็ต้องขอยืมกล้องของเพื่อนๆ ของพี่ๆ หรือบางทีก็ยืมของที่บ้านมาใช้ แต่ไม่ว่าจะยืมใครก็ไม่สะดวกใจเท่ากับมีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง เพราะทั้งง่ายต่อการพกพา ไม่ต้องไปยืมใครเขา อยากถ่ายอะไรก็ได้ถ่าย อยากเก็บภาพอะไรก็ทำได้ทันที


ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะทำอย่างไรดี จะซื้อกล้องถ่ายรูปหรือยืมเขาต่อไป คิดอยู่นานไม่กี่วัน ก็ตัดสินใจว่าซื้อน่าจะดีกว่ายืมคนอื่น


ต่อมาก็เริ่มเก็บเงิน, พอมีเงินเก็บได้จำนวนหนึ่งก็ตระเวนหาซื้อกล้องถ่ายรูปทั่วหลายร้าน จนมาพบกับกล้องถ่ายรูปดิจิตอลขนาดเล็กๆ ยี่ห้อหนึ่ง ที่ขนาดกระชับ ทว่าราคาแพงเอาการ ผมคิดในใจว่าจะซื้อของทั้งที น่าจะเอาแบบดีๆ ไปเลย จึงตัดสินใจซื้อกล้องตัวนั้นมาจากตู้กระจก ทั้งที่มันกำลังโชว์ตัวอยู่อย่างอายๆ


เป็นครั้งแรก ที่ผมมีอะไรของตัวเองเป็นชิ้นเป็นอัน, กล่องถ่ายรูปตัวนี้ ทำให้สิ่งที่ผมเคยคิดไว้ค่อยๆ เริ่มเป็นจริงๆ – ที่ผมฝันว่าอยากมีกล้องถ่ายรูป ส่วนหนึ่งเพราะอยากมีอุปกรณ์บันทึกภาพกิจกรรมดีๆ ของเพื่อนเยาวชนที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อชุมชนของตัวเอง เวลาไปทำกิจกรรมที่ไหนก็ถ่ายภาพเก็บไว้ แล้วนำมาเขียนเป็นเรื่องราว เป็นข่าวสาร กระจายไปตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ


ฉะนั้นถ้าใครอ่าน "หนุ่มสาวสมัยนี้" ช่วงก่อน ๆ ก็จะเห็นรูปภาพต่างๆ ที่ผมถ่ายเก็บไว้ และนำมาประกอบในข้อเขียนแต่ละตอน ซึ่งภาพถ่ายที่ถ่ายไว้ก็เก็บง่าย แค่ต่อสายเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ก็สามารถดาวน์โหลดรูปส่งให้กับประชาไทได้โดยไม่ต้องรอให้แสกนรูปจากภาพที่อัดมาเหมือนในอดีตที่ต้องใช้เวลานานมากๆ


ภาพถ่ายที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์กับภาพถ่ายที่เก็บไว้ในอัลบั้มรูปมีความง่ายความสะดวกต่างๆ กันตามแต่เงื่อนไขที่จะใช้ในแต่ละครั้ง ทว่าภาพถ่ายเหล่านี้ก็ทำหน้าที่ของมันในการบันทึกความทรงจำ


ช่วงเวลาที่มีกล้องมักมีคนมายืมของผมไปใช้ และผมก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้ยืม, บางคนก็ขอให้ถ่ายรูปให้แล้วส่งให้ดู, บางทีเวลาเบื่อๆ ผมก็เอาภาพที่ถ่ายไว้มาดูเล่น เหมือนอย่างช่วงที่ไม่ได้ดูทีวี


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะมีความสุขกับความฝันเล็กๆ ของตัวเองได้ระยะหนึ่ง ก็กลับเป็นว่าความสุขเล็กๆ นี้ได้เปลี่ยนแปรเป็นความทุกข์ใจ เพราะกล้องถ่ายรูปคู่ใจกลับหายไปอย่างตามหาไม่เจอ ผมอารมณ์เสียและหงุดหงิดมาก พี่ๆ หลายคนบอกว่าจะหายได้ยังไงเพราะเวลาเอาไปไหนก็เห็นผมเอาไปด้วย บางคนก็บอกว่าผมเอาไว้ผิดที่ บางคนก็ทักว่าอาจมีคนขโมยไป ฯลฯ


ตอนแรกผมไม่ค่อยคิดอะไรมากมาย คือรู้ว่าตัวเองเศร้าใจ ทุกข์ใจ ก็พอแล้ว รู้ว่ามันหายไปก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเก็บมาคิดอยู่นานหลายวันให้ปวดหัว ระทมใจ แต่พอมาดูภาพที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้วก็อดคิดถึงมันไม่ได้


คิดถึงกล้องและคิดถึงรูปที่อยู่ในกล้อง...


กล้องถ่ายรูปที่ถูกใช้เพียงไม่กี่นานที่หายไปนั้น ได้หายไปพร้อมๆ กับเรื่องราว รูปถ่ายสำคัญๆ หลายรูปที่ไม่ได้นำมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ตรงนี้แหละครับที่ค่อนข้างเสียดายมากๆ หลายท่านที่อ่าน "หนุ่มสาวสมัยนี้" ก็อย่างงว่าทำไมช่วงหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีรูปภาพมาประกอบข้อเขียนเลย กล้องถ่ายรูปหายไปนั้นเองแหละครับ ที่เป็นเหตุให้เกิดผลแบบนี้ขึ้นมา


แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นนักที่ไม่ได้มีรูปถ่ายมาเผยแพร่ แต่สิ่งที่ฝังจิตจดจ่อในใจคือความทรงจำเก่าๆ มันก็เหมือนจะเลือนรางไปกับเวลาที่ผ่านพ้นไปแต่ละวัน แต่ละเดือน กล้องหายมันหาซื้อใหม่ได้ แต่ความทรงจำนี่สิครับ มันไม่สามารถย้อนกลับมาให้เห็นอีกแล้ว


มีคนแนะนำผมว่า ถ้ารูปที่จะถ่ายต่อไปในวันข้างหน้าหรือเหตุการณ์ที่จะพบเจอต่อไปในอนาคต จะไม่ได้บันทึกไว้ในรูปภาพในกล้องถ่ายรูปเหมือนอย่างเวลาที่ผ่านมา ก็ลองเปิดใจตัวเองให้ซึมซับ รับรู้ และจดจำเรื่องราวต่างๆ ให้มากขึ้นกว่าที่ใจเล็กๆ เคยเป็นอยู่เสียใหม่ดู


ผมคงทำได้ตามคำแนะนำ หากเพียงแต่ว่าตอนนี้ใจผมยังไม่เปิดพอที่จะซึมซับ รับรู้ และจดจำเรื่องราวต่างๆ ให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะความทรงจำสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะให้ให้เกิดความผูกพันที่ไม่อาจเลือนรางได้ ทั้งๆ ที่อยากจะลืมเลือนมัน, ดั่งเช่นเรื่องบางเรื่องที่มันยังฝังอยู่ในใจ ทั้งที่อยากลืมไปเสียเต็มประดา


000000


...ชมภาพถ่ายเก่าๆ ที่เคยบันทึกไว้นะครับ...



พระอาทิตย์ใกล้พลบค่ำที่ลำปาง



พระอาทิตย์ส่องแสงขณะที่สายฝนกำลังหลั่งสู่ผืนดิน



ประชุมในน้ำครึ่งแก้ว



ถนนสู่หมู่บ้านที่อยู่ใต้เขื่อนแม่กวงฯ เชียงใหม่



Stand Man
ที่ถนนคนเดิน เชียงใหม่



น้ำเอ่อนอง กำลังจะท่วมเชียงใหม่อีกครา



บนโต๊ะทำงานตัวเดิม



2
หนุ่มกับไปแอ่วปาย by แมงกาไซค์