Skip to main content

บทกวีเเห่งสันติสุขในครอบครัวของ ระริน มุข

คุณคนดี


เมื่อผมได้อ่านหนังสือรวมบทกวีที่ชื่อว่า "ดีจัง" ของ ระริน มุข ซึ่งเป็นหนังสือทำมือเล่มเล็ก ๆ และบางจนแทบจับไม่ติด เพราะมีความหนาเพียง 19 หน้า บรรจุบทกวีเอาไว้เพียงเเค่ 9 บท แถมแต่ละบทยังมีความยาวไม่ถึง 10 บรรทัด และแต่ละบรรทัดยังใช้คำไม่เกิน 10 คำอีกต่างหาก


ผมพบว่านอกจากคำง่าย ๆ ไม่กี่คำที่ ระริน มุข เขียนถึงความสัมพันธ์ในวัยเด็กของเขากับพ่อ แม่ พี่ น้อง และสัตว์เลี้ยงในครอบครัวของเขา จะมีพลังดึงดูดใจผมให้ อ่านบทกวีของเขา รวดเดียวจบ – ด้วยความเต็มใจแล้ว สารจากครอบครัวของเขา ที่สื่อผ่านถ้อยคำง่าย ๆ เพียงไม่กี่คำ ยังให้ทำผมเกิดความปลื้มปิติเอิบอิ่มใจ จนอยากจะลุกขึ้นไปเคาะประตูบอกรักกับคนทั้งโลก


เพราะถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะอัตคัดขัดสน


จนแม่ต้องคลุกข้าวกับปลาทูเหยาะน้ำปลาให้ลูก ๆ กิน แต่ครอบครัวของเขาก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของความอบอุ่น ที่เกิดจากความรัก ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อกัน ระหว่างพ่อแม่และลูก ๆ ที่ยังเหลือเผื่อแผ่แบ่งปันไปถึงสัตว์เลี้ยงในครอบครัว ที่มีชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยสันติสุข ตลอดจนถึงเพื่อนบ้าน


คุณคนดี


ด้วยเหตุและผลแห่งความดีงามของชีวิตนี้ ผมจึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ จากหนังสือเล็ก ๆ เล่มนี้ ด้วยการคัดบทกวีสั้น ๆ ที่ใช้คำซื่อ ๆ ง่าย ๆ แบบเด็ก ๆ ที่วิชาการทางศิลปะเรียกกันว่างานแบบ นาอีฟ แต่กินความมาก และเหลือที่ว่างไว้ให้เราได้คิดต่อ และจินตนาการได้อย่างลึกซึ้งกว้างขวาง ทั้ง 9 บท – มาให้คุณอ่าน


เพื่อที่เราจะได้ตระหนักร่วมกันว่า โลกนี้มีเพียงความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีที่มนุษย์มีต่อกัน ซึ่งย่อมมิใช่อุดมคติลม ๆ แล้ง ๆ แต่เป็นสัจจะของชีวิตเพียงประการเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันด้วยสันติสุข ตั้งแต่สังคมเล็ก ๆ ภายในครอบครัวไปจนถึงสังคมใหญ่ ไม่ว่าผู้คนจะแบ่งแยกแตกต่างกันขนาดไหน สถานการณ์จะเลวร้ายสักเพียงใด ก็ไร้ความหมาย ถ้าหากหัวใจของผู้คนมีความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีต่อกัน ดังนี้


1. เด็กดื้อ
แม่ของฉันแพ้ของแพง ๆ
พ่อของฉันหมดแรงเพราะแพ้ควันบุหรี่
พวกแพ้ตัวหนอน
คือน้องสาวและพี่
ส่วนตัวฉันนี้…
แพ้ความหวังดีจากทุกคน.


2. อิ่มอร่อย
ถ้าแม่คลุกข้าวกับปลาทู
ลูก ๆ รู้ถึงความอร่อย
แม่เหยาะน้ำปลาเพียงเล็กน้อย
ที่ใส่เกินร้อยคือความรักจากหัวใจ.


3. ห่วงหิว
แมวที่บ้านฉันออกลูกสี่ตัว
พอลูบหัว มันร้องเหมียว เหมียว
ไม่นานพอเผลอแผล็บเดียว
มันแยกเขี้ยวคาบลูกมันหายไป
ไม่ว่าเช้าหรือเย็น
ฉันไม่เห็นมันเที่ยวไปไหน
นอกจากกินข้าวคลุกปลาทูอย่างว่องไว
แล้วรีบไปให้นมลูกกิน.


4. ระวังไข่แตก
ฉันชอบขี่จักรยาน
ออกจากบ้านไปซื้อไข่ให้แม่
ถึงทางสี่แยก สั่นกระดิ่งแทนแตร
ตาก็แลมองรถสวนมา
ถึงทางเลี้ยวชิดใน
ค่อย ๆ เลี้ยวไปช้า ๆ
ถูกกฎกติกา
พาไข่กลับมา ไม่แตกสักใบ.


5. แมวกับหมา
น้องฉันชอบเลี้ยงแมว
มีชื่อว่า แก้วตา
พี่ฉันชอบเลี้ยงหมา
มีชื่อว่า เจ้าโจ
กินนมถ้วยเดียวกัน
ผูกสัมพันธ์แต่เล็กจนโต
ใคร ๆ เห็นร้องโอ้โฮ !
แก้วตา เจ้าโจ ไม่เคยทะเลาะ.


6. แบ่งปัน
พ่อพาฉันไปตกปลา
ใช้เวลานานโข
ตกได้หลายตัวโต
…ไชโย ! แม่ดีใจ
แม่เลยทำแกงส้ม
พร้อมกับชมฉันเสียงใส
แบ่งแกงส้มใส่ถ้วยหลายใบ
ให้ฉันถือไป…
ฝากเพื่อนบ้านช่วยชิม


7. แค่อิ่ม
ขนมอร่อย ๆ
ต้องค่อย ๆ
เล็มช้า ๆ
กินเร็ว ๆ
แข่งกับเวลา
ไม่รู้หรอกว่า
ความอร่อยเป็นไง.


8. วาดด้วยหัวใจ
ที่โรงเรียน
วิชาวาดเขียนเป็นวิชาที่ฉันโปรด
คุณครูชื่อ ปราโมทย์
คุณครูไม่เคยโกรธ
ลงโทษนักเรียน
คุณครูใจดี
ครูมีวิธีสอนวาดเขียน
คือตามแต่ใจผู้เรียน
ให้วาดให้เขียน
ให้เรียนด้วยหัวใจ.


9. ร่มเงา
โลกเรามีต้นไม้ใหญ่
แผ่กิ่ง ก้าน ใบ ตามกาลเวลา
ผลิดอกออกผลงามตา
ให้ชีวิตชีวาแก่โลกเรา
บ้านเรามีพ่อกับแม่
งอกงามให้ความรักนานเนา
ลูก ๆ ทุกคนไม่เคยเหงา
อยู่ใต้ร่มเงาของสองดวงใจ.




คุณคนดี


เมื่อคุณได้อ่านบทกวีแห่งสันติสุขนี้แล้ว และมีความรู้สึกอย่างที่ผมรู้สึก- มีความเชื่ออย่างที่ผมเชื่อ ในสังคมที่เร่งรีบและสับสนจนเราแทบไม่มีเวลาคิดถึงใครนอกจาก "เรื่องของตัวเอง" ถ้าหากคุณมีเวลาว่างสักนิดหนึ่ง พอที่จะคิดถึงใครสักคนที่คุณรัก ขอความกรุณาช่วยสละเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ อันมีค่าของคุณ ช่วยส่งสารแห่งสันติสุขอันหมดจดงดงามนี้ ส่งต่อไปเป็นของขวัญทางจิตวิญญาณมอบให้คนที่คุณรัก และอย่าลืมบอกเขาส่งต่อไปให้ใครอีกสักคนที่เขารักด้วย


เผื่อบางทีวันพรุ่งนี้
อาจจะเกิดปาฏิหาริย์
ทำให้เราตกตะลึง
เพราะตื่นขึ้นมาพบว่า
โลกนี้ทั้งโลกช่างสวยงามและน่าอยู่เสียนี่กระไร
เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหน
ก็พบแต่คนที่มีความรักและความปรารถนาดีต่อกัน
ปรากฏเกิดขึ้นมาแทนที่…
โลกที่มีแต่ความเกลียดความขัดแย้งบาดหมาง
และการทำลายล้างเข่นฆ่ากัน ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
จนเราชินชาต่อการรับรู้ในทุกวันนี้.


รักและคิดถึง
กัลยาณมิตรของคุณ


6 พฤษภาคม 2550
กระท่อมทุ่งเสี้ยวเชียงใหม่