Skip to main content

The Classic : บางทีฉันก็อยากวิ่งตากฝนดูบ้าง

คอลัมน์/ชุมชน

1


"เมื่ออาทิตย์สาดส่องบนท้องทะเล ผมคิดถึงคุณ
เมื่อจันทร์สาดแสงในฤดูใบไม้ผลิ ผมก็คิดถึงคุณ"


ความรักของคนเราเกิดขึ้นได้ยังไงนะ ? พรหมลิขิตจะมีจริงหรือเปล่านะ ?


ฉันไม่สามารถจะตอบคำถามเหล่านั้นได้ เพราะยังไม่ค้นพบรัก เหมือนรักของจุนฮาและจูฮี ในฤดูร้อนปี 1986 และในชีวิตนี้ก็ยังไม่มีพรหมลิขิตเหมือนความรักของจีเฮกับซังมิน ในปี 2003 พรหมลิขิตที่ครั้งหนึ่งเคยเล่นตลกกับความรักของแม่และพ่อของเขาทั้งสองเมื่อ 30 ปีก่อน รักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของชีวิต เพียงแค่ได้รักกัน แต่มิได้ครอบครองกัน


จีเฮ เธออ่านจดหมายรัก ที่เธอคิดว่าเป็นจดหมายรักของพ่อและแม่ของเธอ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่แม่ของเธอ จูฮี เปิดอ่านมัน แม่ของเธอก็จะร้องไห้ทุกครั้งไป จดหมายรักทั้งหมดในกล่องใบนั้น ทำให้เธอรู้ว่าเรื่องราวความรักที่แสนมหัศจรรย์และปวดร้าวอยู่ในทีของแม่ของเธอ เป็นความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่แม่เธอมีให้ผู้ชายคนหนึ่ง แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่พ่อของเธอ


ฉันไม่รู้ว่าความรักที่เกิดขึ้นรูปแบบจะสวยงามและลึกซึ้งมากว่ากัน รักที่เกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน ในบรรยากาศแห่งท้องทุ่ง ป่าเขา และหิ่งห้อย หรือจะเป็นรักในช่วงวันเรียน ในมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่รักที่เกิดจากการทำงานที่เดียวกันในตึกสูงใหญ่ใจกลางเมืองกรุงที่แสนวุ่นวายอย่างกรุงเทพมหานคร


ฉันไม่มีจดหมายรัก หรือไดอารี่ของพ่อและแม่ให้อ่านเหมือนจีเฮ แม่ฉันบอกว่า พ่อของฉันเป็นรักแรกและรักสุดท้ายเช่นเดียวกัน แม่ของฉันเป็นแม่ครัวขายผัดไทยอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งทุก ๆ เที่ยงก็จะมีผู้ชายคนหนึ่งที่ขี้อาย ตัวเล็กผอม มานั่งกินผัดไทยกับน้ำอัดลมหนึ่งขวดทุก ๆ วัน โดยที่ไม่สั่งอย่างอื่น หรือไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ ไม่มีเลยแม้แต่น้อย จากวัน เป็นเดือน จากเดือน เป็นปี


ฉันไม่รู้ว่าในระหว่างนั้น พ่อกับแม่ได้เขียนจดหมายรักให้แก่กันหรือเปล่า หรือว่าก่อนหน้านั้นแม่หรือพ่อของฉัน มีรักที่อาจจะลืมไม่ลงอย่างเช่นจุนฮาและจูฮีหรือเปล่า ? แต่ฉันก็ดีใจที่อย่างไรฉันก็ยังได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างที่เป็นตัวก่อกำเนิดให้ฉันมีชีวิตบนโลกใบนี้


2


จุนฮา และจุนฮี พบกันโดยบังเอิญในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ในชนบทแห่งหนึ่ง ชนบทที่สวยงาม สายน้ำ สายลม ทุ่งหญ้า ความรัก และบ้านผีสิง จุนฮาสัญญากับจุนฮีว่า เขาจะพาเธอไปยังบ้านผีสิงที่อีกด้านของฝั่งแม่น้ำ เพียงแต่ว่าเขาพายเรือไปไม่เป็น ขากลับ เรือได้ลอยออกไปในแม่น้ำ ด้วยฝนตกหนัก จุนฮาแบกจุนฮีไปจนถึงหนองน้ำแห่งหนึ่ง ที่ที่ความรักก่อกำเนิด หนองน้ำที่เต็มไปด้วยหิ่งห้อย หิ่งห้อยที่เปล่งแสงวิบวับเพื่อรอคนรักที่จากไป คงเหมือนกับไฟหน้าบ้านของจุนฮี ที่ติดดับติดดับ ด้วยเพราะคนรักอย่างจุนฮายืนรออยู่ แม้ฝนจะตกหนักก็ตาม


แม้รักจะเกิดขึ้นอย่างสวยงามก็ใช่ว่ารักจะสมหวังเสมอไป รักของจุนฮากับจุนฮีก็เช่นเดียวกัน รักของคนทั้งสองคนกลายเป็นรักที่ต้องเก็บงำ ด้วยเพราะจุนฮีมีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ แตซู และจุนฮาก็เป็นเพื่อนสนิทของแตซู ที่คอยเขียนจดหมายรักถึงจุนฮีในนามของแตซู และแล้วเรื่องราวรักสามเส้าก็เกิดขึ้น


ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเจ็บปวดไปกว่ากัน รักที่เป็นไปไม่ได้ระหว่างจุนฮากับจุนฮี หรือรักที่เป็นไปไม่ได้และต้องเสียสละของแตซู แต่ไม่ว่าจะเป็นไปในทางไหน ทั้งสามคนก็คงเจ็บร่วมกัน จุนฮาเจ็บปวดที่จะต้องหนี หนีหัวใจ หนีความรัก หนีจุนฮี จุนฮีเองก็คงเจ็บปวดกับการรอคอย รอคอยหัวใจ รอคอยความรัก รอคอยจุนฮา ส่วนแตซูเองก็คงจะเจ็บปวด เจ็บปวดกับความจริง เจ็บปวดกับการที่ต้องดูแลจุนฮี ผู้หญิงที่เพื่อนสนิทของเขารักที่สุด ผู้หญิงที่รักเพื่อนสนิทของเขาที่สุด และเป็นผู้หญิงที่เขารักที่สุดเช่นเดียวกัน แล้วใครล่ะที่เจ็บปวดกว่ากัน ?


"ทำไมคุณไม่แต่งงานล่ะ ผมแต่งงานแล้วนะ"
"สมัยก่อนเราไร้เดียงสากันมากนะ แต่ตอนนี้อดีตผ่านไปหมดแล้ว ผมว่าเราปล่อยให้ความรู้สึกเป็นใหญ่ แค่เรื่องเล็ก ๆ เราก็หัวเราะร้องไห้ไปกับมัน"


จุนฮาโกหก ฉันคิดว่าจุนฮาต้องโกหก ไม่เพียงแต่เรื่องการแต่งงาน แต่เขาโกหกความรู้สึกของเขาเอง ความรู้สึกเป็นใหญ่ การหัวเราะ ร้องไห้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความเดียงสาในวัยเยาว์ แต่อีกส่วนนั่นไม่ใช่ความรักหรอกหรือ ที่สั่งให้ทำเช่นนั้น


รักของจุนฮา รักเดียวจนวันสุดท้าย ถึงแม้รักนี้จะไม่สมหวัง แต่เขาและเธอก็เป็นคนแรก คนเดียว และคนสุดท้ายของกันและกัน นั่นคือความรักที่เริ่มในปี 1986 ของจุนฮาและจุนฮี ที่ความรักนั้นยังคงส่งต่อมาถึงในปี 2003 กับรักของจีเฮกับซังมิน


ฉันเคยเป็นเหมือนจีเฮ เมื่อฉันเจอใครคนหนึ่ง ลมหายใจของฉันขาดเป็นห้วง ๆ เมื่อฉันมองเขา ฉันจ้องเขา แต่โชคร้ายที่เขาไม่เคยที่จะหันกลับมามองที่ฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าฉันจะพยายามท่องมนต์คาถาให้เขาเพียงหันมาสักครั้งก็ตาม ระหว่างเขากับฉัน คงไม่ใช่พรหมลิขิตเหมือนกับจีเฮกับซังมิน ซังมินเป็นผู้กำกับละครเวที บทที่เขาเขียนขึ้นเป็นบทที่ครั้งหนึ่งพ่อของเขาเคยใช้ แต่นั่นเป็นชีวิตจริง

"เมื่ออาทิตย์สาดส่องบนท้องทะเล ผมคิดถึงคุณ
เมื่อจันทร์สาดแสงในฤดูใบไม้ผลิ ผมก็คิดถึงคุณ"


ข้อความนี้ได้ถูกเขียนขึ้นอีกครั้งในปี 2003 โดยลูกชายของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยเขียนข้อความนี้ให้ผู้หญิงอีกคนที่เขารักที่สุดในชีวิต ซึ่งครั้งนี้ซังมินก็คงเขียนขึ้นเพื่อการนั้นเช่นกัน


บางครั้งความรักสามารถดลบันดาลให้เราทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งวิ่งตากฝนในขณะที่มีร่ม เหมือนกับซังมิน เขาทิ้ง "ร่มวิเศษ" เพื่อสร้างความรู้สึกที่วิเศษ


และเช่นเดียวกันกับจีเฮ เมื่อความรู้สึกที่วิเศษบังเกิดขึ้น เธอถือ "ร่มวิเศษ" แล้ววิ่งฝ่ากลางสายฝนออกไป เพื่อที่จะเอาร่มวิเศษอันนี้ไปคืนให้กับคนที่เธอมีความรู้สึกที่วิเศษด้วย และเขาเองก็คงรู้สึกวิเศษกับเธอเช่นเดียวกัน ฝนในวันนั้นคงจะเป็นฝนที่เย็นชุ่มฉ่ำกว่าฝนไหน ๆ ที่เคยตกมาตลอดชีวิตของจีเฮ


ฉันยังไม่เคยวิ่งฝ่ากลางสายฝน ด้วยอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกันกับจีเฮ ยังไม่เคยเจอฝนไหน ๆ ที่เย็นชุ่มฉ่ำจนคิดอยากจะวิ่งออกไปกลางสายฝน ฉันไม่เคยกลัวฝน เพียงแต่ว่ายังคงไม่มีใครที่จะวิ่งฝ่ากลางสายฝนไปด้วยกัน และถ้าหากมีวันนั้น ฝนในวันนั้นคงจะเป็นฝนที่เย็นสดชื่นกว่าฝนไหน ๆ ที่ฉันเคยเจอ และระยะทางจากใต้ต้นไม้ถึงห้องสมุดก็คงจะใกล้นิดเดียว


และฉันก็หวังว่าฝนนั้นจะไม่ให้ทำให้ฉันเป็นหวัด