Skip to main content

สถานะของสายน้ำ

คอลัมน์/ชุมชน

นักสำรวจคนหนึ่งเล่าเรื่องราวการเดินทางสำรวจลำน้ำสายหนึ่งให้ฟังว่า สายน้ำที่ใสสะอาด แต่ในช่วงหนึ่งของสายน้ำ ใกล้แหล่งชุมชนมีบางช่วงที่ร่องน้ำขยายกว้างออกกลายเป็นแอ่ง ด้วยความที่อยู่ใกล้ชุมชน มันจึงมีขยะ จากเล็กๆ น้อยๆ เป็นหมักหมม จนในที่สุดเมื่อนานวันเข้า ขยะเน่า น้ำก็เน่า บางครั้งถึงกับส่งกลิ่นเหม็น ในที่สุดน้ำในแอ่งนั้นก็ไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ใดใดได้เลย

แต่เมื่อคณะสำรวจเคลื่อนลงตามสายน้ำ ไม่นานนัก พวกเขาก็พบว่า น้ำ แม้จะเป็นน้ำที่ไหลมาจากแอ่งที่เน่าเหม็นนั้น เมื่อมันไหลลงมา อาจจะผ่านรากไม้ โขดหินอีกมากมาย ในที่สุดน้ำมันก็กลับมาใสสะอาดดังเดิม สะอาดจนสามารถเอามาดื่มกินหรือใช้ประโยชน์อย่างสมประโยชน์ ว่าอย่างนี้ อาจจะหมายความว่าแท้จริงแล้วน้ำในแอ่งก้ไม่ได้เน่าเหม็น แต่เศษขยะที่อยุ่ในน้ำต่างหากที่เน่าเหม็น ในภาวะของน้ำ มันก็ยังเป็นน้ำที่ใสสะอาดอยู่ดังเดิม


กิจกรรมการเรียนรู้ครั้งหนึ่ง ที่ว่าด้วยเรื่องของน้ำ ผู้ดำเนินรายการแจกน้ำให้กับทุกคน น้ำที่ใสสะอาดกับเศษขยะเน่าเสียคนละกอง แล้วก็มีคำสั่งว่าให้เอาขยะเน่าๆ นั้นใส่ลงไปในน้ำสอาด ทำให้มันสกปรกที่สุด ดูไม่ยากนัก ในเวลาไม่นานทุกคนก็มีน้ำเน่าๆ อยู่ในมือ เมื่อทุกคนได้เพ่งพิศการผันแปรจากน้ำดีมาเป็นน้ำเน่าในมือของตนแล้ว ผู้ดำเนินรายการก็บอกให้ทุกคนแยกขยะออกจากน้ำให้ได้มากที่สุด ทำให้น้ำกลับมาเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด


ประเด็นที่ผู้ดำเนินการต้องการอาจจะประมาณว่า เราทำน้ำให้สกปรกได้ง่าย แต่การเยียวยาให้น้ำกลับมาสะอาดดังเดิมนั้นมันยากนักนั่นเอง แล้วทุกคนก็พยายยามทำ คัดแยก ตักออก กรอง น้ำก็ค่อยๆ ใสขึ้น แต่เวลาที่มีมันก็ยังไม่พอที่จะให้น้ำกลับมาใสได้ดังเดิม (หรือว่ามันจะกลับมาใสได้หรือเปล่า) แต่สิ่งที่เห็นก็คือว่า ในสภาวะของน้ำที่แท้มันไม่ได้สกปรก สิ่งที่อยุ่ในน้ำต่างหากที่สกปรก น้ำไม่ได้เน่าเหม็น แต่สิ่งที่อยู่ในน้ำต่างหากที่เน่าเหม็น


ดูเหมือนว่า ที่สุดแล้ว น้ำก็มีพลัง และมีความพยายามมากมายที่จะรักษาตัวเองอย่างดีที่สุด เข้มแข็งที่สุด ที่จะรักษาความสะอาด รักษาสภาวะของตน จากแอ่งที่เน่าเหม็น หากว่าน้ำพอจะพบหนทาง น้ำก็จะไปทันที บางครั้งทางที่ไปก็อาจจะไม่ใช่การเยียวยา แต่บางครั้ง บางทางที่น้ำไป ก็เป็นการเยียวยา นั่นก็อาจจะคือการเดินทางกลับไปสู่ภาวะเดิมแท้นั่นเอง


หากว่าชีวิตของเราเป็นดั่งสายน้ำ...จากผืนแผ่นดินที่กำเนิด สภาพแวดล้อมที่หล่อหลอม สร้างชีวิตความคิด บุคลิกภาพ ไหลไปในธารของตน ผ่านโขดหิน ผ่านรากไม้แบบของตน ยิ่งนานวัน ยิ่งไกลออกไป ชีวิตก็เก็บสะสม หลอมรวมเรื่องราวมากมายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตน เปลี่ยนภาพ เปลี่ยนกลิ่นเปลี่ยนสีไปตามวาระ ยิ่งไหลเข้าไปในเมืองใหญ่ ก็ยิ่งสะสมหมักหมม เป็นบางแห่งที่แอ่งกว้างออก น้ำนิ่งสนิท เนิ่นนาน และจนกว่าจะไหลผ่านไปได้ เมื่อนั้นภาวะของน้ำแห่งชีวิตก็อาจจะกลับไปสู่ภาวะเดิมของตน (หรือหากแอ่งนั้นขังโดยไม่มีทางไปก็ยากจะรู้ได้)


เช่นนั้นแล้ว ชีวิตย่อมยังงดงามเสมอ สภาวะของชีวิตใสสะอาด และงดงามมาแต่เดิม และความจริงมันก็ยังใสสะอาดอยู่เช่นนั้นเสมอ แต่สิ่งที่ปนอยู่ในชีวิตต่างหาก สิ่งที่ไหลเข้ามาแปดเปื้อนในชีวิตต่างหากที่มันขุ่นมัว สกปรก เมื่อใดที่ร่องธารของชีวิต นำพาชีวิตไหลผ่านแอ่งอันหมักหมมไปได้ ชีวิตก็จะกลับเข้าสู่ความใสสะอาด และนั่นคือภาวะเดิมแท้......