Skip to main content

บทกวีที่ยังไม่มีคนอ่าน

คอลัมน์/ชุมชน

หลายครั้งที่ได้ยินผู้คนพูดกันว่า มีบทกวีบางบทที่ยังไม่มีใครเขียน บทเพลงบางเพลงที่ยังไม่มีใครขับร้อง เปรียบเปรย อุปมา อุปมัย นั่นก็ว่ากันไป ความจริง นั่นก็อาจเป็นความจริงส่วนหนึ่งหรือเปล่ามั้ง .......

เช่นนั้นแล้วหากจะว่ากันในอีกแง่มุมหนึ่งก็อาจจะยังมีบางบทกวีที่ยังไม่มีใครได้อ่าน บางบทเพลงที่ยังไม่มีใครได้ฟัง ว่าก็คือ โลกมีเรื่องราวมากมาย ถูกแขวน ถูกเก็บ หรือหล่นเรี่ยราดอยู่ตามมุมต่างๆ ของโลก นั่นก็แน่นอนทีเดียวว่า มนุษย์คนหนึ่งคงไม่สามารถตามหา พบ หรือได้ยินได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดของโลก แต่มนุษย์ มากหรือน้อยก็ได้ยินได้ฟังต่างกันออกไป ว่ากันไปตามโอกาสของแต่ละคน ด้วยเงื่อนไขปัจจัยของตนเป็นสำคัญ

ว่ากันในเรื่องที่มักมีการพูดถึงกันบ่อยๆ ในด้านงานวรรณกรรม และรวมถึงประเด็นที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจสิ่งพิมพ์ ในบ้านเมืองเรา ว่าก็คือ เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ในบรรดาคนหนุ่มสาวนั้น มากมายทีเดียวที่พวกเขาปรารถนาสร้างสรรค์ หรือได้ลงมือเรียงร้อยถ้อยคำออกมาจากชีวิต จากการเดินทาง จากชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น บอกเล่าด้วยวิธีการหลากหลายแตกต่างกันออกไป ในจำนวนเหล่านั้น น้อยคนที่ประสบผลสำเร็จในแง่ การสร้างสรรค์ และธุรกิจไปพร้อมกัน สามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยการสร้างงานวรรณกรรม อีกส่วนหนึ่งก็ล้มลุกคลุกคลาน หาเลี้ยงชีพด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ตัวเองสามารถเขียน แน่นอนอยู่เองที่ถ้อยคำอีกมากมายที่มีคนเขียนมานั้น มันหายไปในกาลเวลา.....


นอกเหนือจากความสำเร็จหรือล้มเหลว ซึ่งว่าอันที่จริงแล้ว มาตรวัดของแต่ละคน แต่ละสังคมก็ต่างกันออกไป แต่สำหรับคนเขียนกวี อะไรคือความสำเร็จ หนังสือขายดี พิมพ์ซ้ำหลายครั้ง ได้รางวัลมากมาย หากนั่นคือความสำเร็จมันก็อาจเป็นความสำเร็จของธุรกิจส่วนหนึ่ง แน่นอนว่ามันก็เป็นความสำเร็จของบทกวีด้วยนั่นแหละ เพียงแต่ว่า ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของกวีคืออะไรเล่า หากไม่ใช่ การค้นพบถ้อยคำ การเรียงร้อยมันออกมาเป็นเรื่องราว งดงาม ไพเราะ เติมเต็มความหมาย เรื่องราวของโลก แผ่นดิน และชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น หรือถ้อยคำที่ไหลหลั่งออกมาจากเลือดเนื้อ นั่นเองหรือเปล่าคือความสำเร็จใหญ่หลวง

จอห์น คิตติ้ง ตัวละครสำคัญ ในหนังฝรั่งที่ดีเรื่องหนึ่ง Dead poet society กล่าวถ้อยคำที่งดงามไว้ว่า เราไ่ม่ได้เขียนหรืออ่านบทกวีเพียงเพราะมันโก้เก๋ แต่เราเขียนหรืออ่านบทกวีเพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของมนุษยชาติ


วิถีมนุษย์นั้น นอกจากดำรงอยู่ ทำงาน ทำหน้าที่ในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตแล้ว ส่วนหนึ่งที่ต้องมีเสมอ ทั้งอาจจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็คือ มิติด้านความงาม เช่นนั้นเอง บทกวีจึงไม่ได้เริ่มต้นที่หน้ากระดาษ แต่บทกวีมันแทรกอยู่ในส่วนต่างๆ ทั้งในชีวิต ในเลือดเนื้อ ในจิตวิญญาณ หรือในเซลของเรา พร้อมกันนั้นมันก็แทรกอยู่ในผืนดิน ผืนฟ้า มหาสมุทร แม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ ใบหญ้า บทกวีดำรงอยู่ทุกที่ เพราะมันคือสิ่งที่งดงาม มันอาจเป็นเรื่องราว หรือเป็นถ้อยคำที่บอกเล่าเรื่องราวนั้น ลึกล้ำ และก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อน มันวางตนอย่างเปิดเผย สง่างาม รอผู้คนผู้จะค้นพบความงามนั้น และทุกคนสามารถพบ และซึมซับได้เท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสถาปนาขึ้นเป็นกวีเสียก่อน..... เช่นนั้นแล้วบทกวีมากมายที่ยังไม่ได้อ่าน เราอาจพบมันหล่นอยู่ริมทางข้างหน้าเรา ณ ขณะนี้......