Skip to main content

สภากาแฟ : ที่ทางของคอการเมือง

คอลัมน์/ชุมชน

ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมเดินทางออกจากบ้านบนเกาะยอ เพื่อไปซึมซับเก็บเอาบรรยากาศอันงดงามของวัฒนธรรมตามสังคมชนบทอื่น และหัวเมืองชายขอบทางปักษ์ใต้มาบ่มเพาะและขัดเกลาจิตใจอันนับวันก็ยิ่งกระด้างลงไปทุกทีให้โอนอ่อนขึ้นตามขนบเดิมที่ทรงคุณค่า



จนเวลาล่วงผ่านมาถึงวันนี้ ขณะที่ดวงตะวันเผยยิ้มแรกของเช้าฤดูฝน กลิ่นกรุ่นและไอบางๆ ของกาแฟก็โชยมากับสายลม ทายทักและชวนผมมาพบเจอกับตึกเก่าแก่ทรงชิโนโปรตุกิสอายุราวสัก 100 ปีแห่งหนึ่งใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช บรรยากาศภายในคึกคัก อบอุ่น และน่าหลงใหล ไม่น่าเชื่อว่านี่คือร้านกาแฟยามเช้า และผมเชื่อแน่ว่าจะหาบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้แน่นอนในเมืองหลวง


ผมตัดสินใจผลักประตูย่างเท้าเข้าไปหามุมดีๆ สำหรับตัวเองและปิยมิตรผู้ร่วมทาง เราสั่งกาแฟร้อนราคาถูกมาละเลียดจิบทีละน้อย พูดคุย แล้วหยิบหนังสือพิมพ์เช้าขึ้นมาอ่าน บรรยากาศโดยรอบระงมไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์การเมืองที่กำลังเผ็ดร้อนอยู่ ผมไม่รู้สึกแปลกใจมากนักกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น นั่นก็อาจเป็นเพราะเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสังคม "คอกาแฟ" ของคนพื้นถิ่นแถบนี้ ด้วยเหตุที่ผมเป็นคนพื้นที่จึงพอจะรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนใต้มาบ้าง



คนใต้เป็นคอกาแฟ รวมทั้งเป็นคอการเมืองด้วย นานแล้วที่คนในภาคใต้ทำสิ่งนี้จนคนภายนอกตีค่าให้เป็นวัฒนธรรมใหม่ของเรา อาจเป็นเพราะว่าตื่นเช้ามา อ่านหนังสือพิมพ์อ่านข่าวปัญหาบ้านเมือง แล้วมาใช้ร้านกาแฟเป็นเวทีในการถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน ร้านกาแฟจึงเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นเลย" เจ้าของร้านสภากาแฟเล่าให้ฟังก่อนที่จะละเลียดจิบกาแฟเบาๆ


กาแฟในถ้วยพร่องลงบ้างแล้ว ผมนึกถึงสิ่งที่น่าจะเป็นต้นตออันเอื้อให้เกิดวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนใต้มาหลายประการ ก็พอดีที่ผมได้พบเจอและพูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟแห่งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเป็นคนหนุ่มที่หลงใหลมนต์การเมืองเสียอย่างหนัก และนั่นจึงเป็นเหตุให้เขาตัดสินใจเปิดร้านกาแฟแห่งนี้ "สภากาแฟ"


คนในร้านเริ่มคึกคักขึ้น ผมกวาดสายตาไปทั่วเพื่อเก็บซับเอาบรรยากาศไว้ในความทรงจำ ภายในร้านประดับประดาไปด้วยภาพและข้อมูลทางการเมืองของนักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่นไว้มากมาย เพื่อเสริมอรรถรสให้ "คอการเมือง" ได้ดื่มกาแฟกันอย่างถึงอารมณ์ เสมือนที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางการเมืองเสียอย่างนั้นก็ไม่ปาน


"วัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เรียกกันว่า "สภากาแฟ" นั้น เรามองว่าสามารถหยั่งอุณหภูมิ เป็นปรอทวัดความร้อนของการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเมืองท้องถิ่นหรือการเมืองระดับชาติได้ ยิ่งในช่วงเทศกาลเลือกตั้งอย่างนี้ ผมคิดว่ามันเป็นโครงร่างที่จะชี้วัดว่าใครจะได้ใครจะตกเลยทีเดียว"



โต๊ะข้างๆ เราขอเติมชาจีนอีกกาที่มีไว้บริการฟรี ผมแว่วยินถึงเรื่องข้อมูลต่างๆ ที่พวกเขาคุยกัน ทั้งหนักหน่วงและเต็มเปี่ยมไปด้วยข้อมูลทั้งนั้นที่ต่างก็นำมาแลกเปลี่ยนถกเถียง หยั่ง "เสียง" กัน อาจกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งของลูกค้าร้านกาแฟแถบนี้เป็นหัวคะแนนของนักการเมืองก็เป็นได้

"
ใครมีข้อมูลก็จะมาแลกเปลี่ยน อาจได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ก็เลยทำให้มันแม่น ถ้านักการเมืองมาเช็คเสียงตามร้านกาแฟก็จะพอรู้ว่าตนเป็นต่อหรือเป็นรองคู่แข็งอย่างไร" เจ้าของร้านคุยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม


ตะวันทอดวงสูงขึ้นมากแล้ว ผมกับปิยมิตรผู้ร่วมทางตัดสินใจผละตัวเองออกจากร้านตอนใกล้เที่ยง เดินเลาะไปตามถนนราชดำเนินเข้าไปใจกลางเมือง สองข้างทางประปรายไปด้วยร้านกาแฟสมัยใหม่ที่ล้วนมีไว้ตอบสนองแฟชั่นของกลุ่มวัยรุ่น ผิดกับร้าน "สภากาแฟ" ซึ่งเราผ่านมาเมื่อสักครู่ ที่เป็นชุมทางทางความคิดให้คนได้มาพบปะแลกเปลี่ยนกัน


ผมมองเห็นถึงความมุ่งมั่นและประสงค์อันดีของเขาที่มีต่อบ้านเกิดอย่างแท้จริง เมื่อทราบว่าเขาต้องยอมขาดทุนเดือนละกว่าหมื่นบาทเพื่อที่จะให้มีที่ทางของ "คอการเมือง" ได้มาพบปะกันอย่างเป็นทางการ แม้ "สภากาแฟ" จะขาดทุนย่อยยับในเชิงธุรกิจ แต่เจ้าของก็ภูมิใจที่อย่างน้อยก็คุ้มค่าเมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาได้ทำอะไรให้กับสังคมไว้บ้าง และคงไม่มากนักที่ร้านกาแฟสวยๆ ดีๆ จะ ขายกาแฟในราคาแสนถูกเท่ากับราคากาแฟริมทางเดินเท้าทั่วไป หัวใจผมอิ่มเต็มเมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศอันคลาคล่ำไปด้วย "คอการเมือง" และบรรยากาศอันอบอุ่นของเจ้าของบ้าน


เช้าชื่นของวันกำลังย่ำเท้าจากไป เปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นสีครามสวย เรามองเห็นยอดพระธาตุเมืองนครสูงตระหง่านอยู่ทางตะวันตก หลายคนบอกว่าพระธาตุที่นี่ไร้เงาทอดตกลงสู่พื้นดิน จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เดินทางไปนมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตัว นานมากแล้วที่ผมไม่ได้อธิษฐานขอสิ่งใดๆ แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่วันนี้ผมอธิษฐานให้กับประเทศไทย


"ขอให้การเมืองขาวสะอาด...สักที"