Skip to main content

เกี่ยวสายใยชีวิตของเราไว้ ในวันที่เรายังอยู่ใกล้กัน

คอลัมน์/ชุมชน

คนเป็นพ่อมานอนโรงพยาบาลด้วยอาการเสียงแหบและผอมมาหลายเดือน คิดสงสัยว่าเป็นอะไรหนอ แต่ก็เงียบไว้และปล่อยเวลาให้ผ่าน นึกว่าจะหายกลับแย่ลง เสียงหายไป จนต้องมาหาหมอ วันมาหานึกว่าไม่มีอะไรและได้กลับบ้าน กลับกลายเป็นว่าต้องนอนโรงพยาบาลในวันนั้นและผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น หมอบอกว่าเป็นก้อนเนื้อที่กล่องเสียง


เขาเป็นพ่อของลูกสามคน ผู้ชายสองคน คนสุดท้องเป็นผู้หญิง ลูกชายคนโตอายุ 16 คนกลางอายุ 7 ขวบ และคนเล็กสามขวบ ต้องขนกันมานอนโรงพยาบาลพร้อมแม่ของเด็กๆ โชคดีที่ได้เข้านอนห้องพิเศษ เด็กๆ เลยมีที่นอน


ห้องพิเศษดูกว้างก็ยังคับแคบลงไปถนัดใจ ด้วยเด็กๆ มักจะมีสิ่งเล็กๆ ที่มาเป็นเพื่อนของพวกเขาตามวัย คนเล็กมีตุ๊กตา คนกลางมีของเล่นหลายชิ้น คนโตมีกระเป๋าใบใหญ่ใส่ของและหนังสือเต็มกระเป๋า ยังไม่นับรวมของของแม่และของพ่ออีกคนละเล็กน้อย เมื่อมาอยู่รวมกันในห้องแล้ว ทำไมมันดูมากมายจัง ฉันได้ยินคนเป็นแม่บ่นพึมพำ เมื่อแรกขนของเข้ามาในห้อง


ตอนเย็นหลังพ่อออกจากห้องผ่าตัดมาแล้ว สิ่งที่น่าตกใจสำหรับลูกๆ ก็คือ พ่อมีท่ออะไรไม่รู้ที่คอออกมาด้วย นอกเหนือจากแผลที่คอแล้ว คราวนี้พ่อไม่มีเสียงอย่างแท้จริง พ่อปวดแผลมาก ลืมตามาแล้วร้องไห้เพราะเห็นหน้าลูกเมีย ทำอย่างไรกันดี ทุกคนในห้องตกใจกันไปหมด คนเล็กร้องไห้จ้าแม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เห็นแม่พ่อร้องไห้ ตกใจที่มีท่อที่คอ หรือพ่อจะเป็นมะเร็งอย่างที่หมอพูดเกริ่นไว้


ท่อหายใจสำหรับวันที่ยังมาไม่ถึง ท่อที่บอกเราว่า อวัยวะที่ชื่อจมูกถูกลบออกจากชีวิตเราแล้ว ต่อไปนี้เราจะหายใจผ่านท่อนี้แทน เอามืออังที่จมูกจะไม่มีลมผ่านเข้าผ่านออกอีกแล้ว


เหมือนถูกตัดสัญญาณชีวิตให้เหลือเพียงแค่ต้นคอ เหมือนสัญญาณร้ายแรง


เกินคาดคิดมาถึงแล้ว แว่วเสียงหมอที่บอกในความทรงจำเมื่อแรกพบหน้า หมอบอกว่า ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจก่อนนะ ถ้าเนื้อดีก็ไม่ต้องทำอะไร ถ้าดูว่าเป็นเนื้อร้ายต้องใส่ท่อที่คอกันก้อนลุกลามแล้วหายใจไม่ได้ รอฟังผลตรวจชิ้นเนื้อให้แน่นอนอีกครั้ง


แม้ไม่ได้ฟังหมอพูด คนเป็นพ่อเริ่มรู้แล้วว่าเขาอาการหนัก เขาอาจจะเป็นมะเร็งกล่องเสียง มะเร็งที่มาถึงโดยไม่ได้ถามว่าเขามีลูกต้องดูแลหรือเปล่า


อาการปวดแผลจะทวีคูณขึ้นเมื่อถูกดูดเสมหะด้วย พ่อที่เคยเป็นเรี่ยวแรงของครอบครัว เป็นกำลังให้ลูกและเมียทั้งสี่คน นอนร้องไห้ด้วยสุดจะทนแล้ว พรุ่งนี้ของทั้งห้าชีวิตจะเป็นไปอย่างไรเล่า พ่อคร่ำครวญตัดพ้ออยู่ในแววตาและท่าทาง


ฉันผลักประตูห้องคนไข้เข้าไป หลังคนไข้ออกจากห้องผ่าตัดมาแล้ว ภาพแรกที่เห็นเรียกน้ำตามาคลอหน่วย พ่อแม่ลูกกอดกันกลมอยู่บนเตียง ทุกคนกำลังเสียขวัญ ลูกชายคนโตรีบบอก พ่อหายใจไม่ออก ช่วยด้วยครับ ฉันรีบบอกพวกเขาว่าใจเย็นๆ นะ ทุกคนอย่ากอดพ่อไว้นะลูก พ่อจะอึดอัดจับมือพ่อไว้ก็พอ ฉันหันไปหาคนไข้ สบตาเขาแล้วบอกว่า ต้องดูดเสมหะแล้วนะ คนไข้ส่ายหน้าบอกว่ามันเจ็บมากเลย ฉันรีบบอกว่า รับรองจะดูดให้เบามือที่สุดแล้วจะหายใจโล่งขึ้น แล้วจะฉีดยาแก้ปวดให้ทันที


ฉันหันหน้าไปมองลูกชายคนโต เขารีบพูดทันที นะพ่อครับให้เขาดูดเสมหะนะ เดี๋ยวพ่อก็ดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้พ่อก็เดินกลับบ้านได้แล้ว คนไข้พยักหน้า ฉันดูดเสมหะให้เขาอย่างนุ่มนวลที่สุด และฉีดยาแก้ปวดให้เขาทันที ตอนเขาพลิกตะแคงตัวให้ฉันฉีดยา ลูกชายรำพึงว่า พ่อผอมไปมากจริงๆ แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะขอวิตามินจากหมอให้พ่อกินบำรุง



ทุกอย่างในห้องดูสงบลง หลังปิดไฟทุกดวงในห้องลง เหลือไฟที่หน้าห้องไว้ หลังยาแก้ปวดออกฤทธิ์ คนเป็นพ่อหลับไปแล้ว เขานอนหงายหลับตาสนิท หายใจสม่ำเสมอ ลูกชายฟุบหลับอยู่ข้างเตียง มือของทั้งสองคนจับกันไว้มั่น แม่กอดลูกสาวคนเล็กแล้วหลับไปด้วยกัน


เช้าแล้ว หมอมาถึงพร้อมคำพูดที่เคยได้ยิน เป็นเนื้องอกที่กล่องเสียงนะ รอฟังผลชิ้นเนื้ออีกที ถ้าหายใจดี ไม่มีเสมหะ ไม่มีไข้ เริ่มกินได้จะให้กลับบ้านพร้อมท่อ และพยาบาลจะสอนวิธีการดูแลท่ออีกที ถ้าผลชิ้นเนื้อว่าเป็นมะเร็งต้องไปฉายแสงต่อ


ฉันเห็นคนเป็นพ่อน้ำตาร่วง ลูกชายรีบบอกไม่เป็นไรนะพ่อนะ ให้วันนี้ของเราดีก่อน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด พรุ่งนี้เป็นอย่างไรค่อยว่ากัน เอาวันนี้ก่อน พ่อกินข้าวได้ก็กลับบ้านได้แล้วนะ


หมอหันมาสบตาฉัน แล้วหันไปยิ้มให้คนไข้แล้วบอกว่าเอานะมีกำลังใจกินข้าว หายใจลึกๆ ดื่มน้ำมากๆ ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีไข้จะให้กลับบ้าน


บ่ายวันรุ่งขึ้นทุกคนได้กลับบ้านพร้อมพ่อ คนโตเดินผ่านเคาน์เตอร์สีขาวแล้วยกมือไหว้ฉัน ขอบคุณครับที่ดูแลพ่อผม เขาจับมือพ่อที่นั่งรถเข็นกลับบ้าน ฉันยิ้มให้เขาแล้วบอกว่า ขอให้พ่อหายเร็วๆ นะ ดูแลพ่อดีๆ นะ ลูกชายยิ้มแล้วพยักหน้าครับ


หลังร่างผอมๆ ของพ่อบนรถเข็นลับตาไปแล้วในบ่ายวันนั้น ฉันรู้แล้วว่าแม้พรุ่งนี้ของทั้งห้าชีวิตจะหนักหนาสาหัส ถึงอย่างไรพวกเขาทั้งหมดนั้นจะยินดีสู้ด้วยกัน แม้จะลำบากทุกข์ทนอย่างไร พวกเขายังมีกันและกันเสมอ พ่อแม่ลูก สายใยชีวิตที่ปลุกเราขึ้นมาจากปลักความทุกข์