Skip to main content

ส.ว.สังกัดพรรค

















































































มีการสัมมนาจัดโดยวุฒิสภาที่เขาใหญ่โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประมาณ ๖๐ คน มีข่าวว่าที่ประชุมพูดถึงมีผู้เสนอให้ ส.ว.สังกัดพรรค และให้ วาระของ ส.ว.มีสามารถดำรงตำแหน่งสองวาระได้

 

ขอเรียนว่ามีผู้เสนอในคณะทำงาน แต่ไม่ใช่เป็นมติของวุฒิสภาแต่ประการใด ซึ่งไม่ได้มีการสรุปเป็นมติของที่ประชุมสัมมนาด้วยซ้ำ เป็นการมารายงานของกลุ่มย่อย

 

การที่ ส.ว.สามารถสังกัดพรรคได้นั้น จะไม่เกิดประโยชน์อันใด เพราะในการกลั่นกรองกฎหมายต้องไปฟังมติพรรค และหน้าที่ในการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระก็จะเป็นปัญหา เพราะกระบวนการสรรหามีการสรรหาโดยพรรคการเมืองอยู่แล้ว

 

ถ้า ส.ว.จะสังกัดพรรคนั้น ผมว่าไม่ต้องมีวุฒิสภาเลยจะดีกว่า เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ในการทำงาน ส.ว. ๒๐๐ คน ต้องใช้งบประมาณในการเลือกตั้ง ต้องใช้งบประมาณในด้านเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และบุคคลากร เป็นจำนวนนับพันล้านบาท การที่ไม่ต้องมี ส.ว.เสียเลยจะประหยัดงบประมาณของชาติได้เป็นจำนวนมหาศาล

 

ขอเรียนว่าในการกลั่นกรองกฎหมายของวุฒิสภา ตลอด ๔ ปี ที่ผ่านมา เราทำงานโดยไม่ต้องอาศัยใบสั่งจากพรรคการเมือง เราอ่านร่างพระราชบัญญัติแล้วแปรญัตติตามประสบการณ์ และความคิดเห็นของ ส.ว.แต่ละท่าน เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน

 

เช่น วุฒิสภาแก้ไขพระราชบัญญัติให้องค์การโทรศัพท์ต้องคืนเงินประกันค่าโทรศัพท์ ๓,๐๐๐ บาทให้แก่ผู้ขอโทรศัพท์ เพราะองค์การโทรศัพท์ไม่ได้ใช้เงินนี้แต่นำไปฝากธนาคารเฉย ๆ เป็นการเอาเปรียบประชาชน ในที่สุดรัฐสภาก็เห็นด้วยกับวุฒิสภา เราก็เลยได้เห็นการคืนค่าประกันให้กับพี่น้องประชาชน

 

วุฒิสภาได้แก้ไขให้ คนไทยมีหุ้นส่วนในการรถไฟ การท่าเรือ การขนส่งมวลชน มากกว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์

 

วุฒิสภาได้แก้ไขให้ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเมื่อมีการจัดรูปที่ดิน

 

วุฒิสภาได้แก้ไขไม่ให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยส่วนต่างระหว่างเงินกู้และเงินฝากเกิน ๕ เปอร์เซ็นต์ ( พ.ร.บ. นี้ไม่ได้ยืนยันประกาศใช้)

 

วุฒิสภาได้แก้ไขให้บริษัทข้อมูลเครดิตต้องรายงานข้อมูลเครดิตให้แก่เจ้าของข้อมูลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

 

และอีกหลาย ๆ อย่างที่เราเห็นแตกต่างจากสภาผู้แทนราษฎร แล้วรัฐสภาได้ตั้งกรรมาธิการร่วมสองสภาและสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นด้วยกับวุฒิสภาเป็นส่วนใหญ่

 

ท่านคงจะได้ยินบางท่านวิจารณ์ว่าวุฒิสภาแก้ไขกฎหมายมากมายผิดหลักการ แต่ความจริงแล้วส่วนใหญ่เวลาเข้ากรรมาธิการร่วมสองสภา ส.ว. มักจะชนะในกรรมาธิการร่วมสองสภา

 

แสดงให้เห็นว่าวุฒิสภาได้แก้ไขเพื่อเป็นประโยชน์แก้บ้านเมืองอย่างแท้จริง

 

ขอเรียนว่าผมเห็นการทำงานของ ส.ว.ส่วนใหญ่มาตลอดสี่ปีก็อดชื่นชมความขยันของ ส.ว.ไม่ได้ไม่ใช่จะมายกยอพรรคพวกด้วยกันแต่เรียนด้วยความสัตย์จริง เพื่อให้ท่านทราบบรรยากาศในวุฒิสภาว่า ถึงแม้จะเป็นผู้มีอาวุโส แต่ ส.ว.แต่ละท่านขยันจริง ๆ ขยันแปรญัตติ ขยันอ่าน ขยันอภิปราย ขยันตั้งข้อสังเกต

 

ผมว่าอาจจะเป็นเพราะทุกท่านเป็นผู้นำของแต่ละจังหวัด ก็เลยมีความกระตือรือล้นในการทำงานอย่างยิ่ง

 

ยิ่งมีอาวุโสมากยิ่งขยันเป็นพิเศษ เช่น พ.อ.สมคิด ศรีสังคม , ส.ว.แคล้ว นรปรติ ทั้งสองท่านอายุเกือบ ๙๐ ปี แต่ยังอภิปรายได้อย่างเฉียบขาดไม่หลงลืม

 

อีกหลายท่านผมดูว่าอายุ ๖๐ ปี แต่ความจริงมีอายุ ๗๐ ปี ผมแอบถามว่ารักษาสุขภาพอย่างไร ขอยกตัวอย่าง ท่านสันต์ เทพมณี ส.ว.ลำพูน ท่านบอกว่าท่านทานกล้วยน้ำว้ากับน้ำผึ้งทุกเช้า ที่ขาดไม่ได้คือการทำบุญใส่บาตรพระทุกเช้า ไม่เคยขาดมานับหลายสิบปี

 

ส่วนใหญ่ที่ผมสังเกตในวุฒิสภา ผมเห็นผู้อาวุโสที่อายุยืนเป็นคนใจเย็น สุขุม ยิ่งนิ่งยิ่งลึก มีใจเมตตา

 

ถ้าท่านเห็นผู้มีอาวุโสลองถามเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ ท่านจะได้ทึ่งกับวิธีปฏิบัติที่ต่าง ๆ กัน

 

สัปดาห์นี้ขอเล่าเรื่องในสภาแบบเบา ๆ เพราะอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศแบบเบิร์ด ๆ ซะบ้าง เพราะมีบางท่านบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องฟาดฟัน ผมก็เลยเปลี่ยนแนวบ้าง พบกันสัปดาห์หน้าครับ