Skip to main content

เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

คอลัมน์/ชุมชน







"มาแล้วครับ มาแล้ว ถังพลาสติกใหม่ๆ ใช้ตักน้ำเหมาะๆ แลกฟรีครับพี่น้อง"


ได้ยินเสียงประกาศ ฉันก็ขยับผ้านุ่งให้แน่นขึ้นแล้วออกไปยืนเท้าเอว ปั้นหน้ายักษ์อยู่หน้าประตูรั้ว ฝั่งตรงข้ามเป็นคอกควาย ควายตัวหนึ่งยืนมองดูฉันอย่างเอาใจช่วย


"อยากได้ถังน้ำไว้ใช้ไหมครับคุณพี่" คนขับชะลอรถ โผล่หน้ามาพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
"ไม่ มีแล้วเยอะแยะ" ฉันตอบแบบไร้เยื่อใย
"หมาน่ารักนะครับ" เขามองข้ามไหล่ฉัน ฉันเหลียวไปดู เห็นสมาชิกบ้านสี่ขาพยายามโผล่หน้าดูตรงรอยแยกของผ้าใบที่ฉันขึงปิดรั้วไว้ เห็นหัวสี่ห้าหัวซ้อนๆ กันสลอน


"ถอยไปเดี๋ยวนี้เลย!" ฉันแว้ด สี่ห้าหัวนั้นหดทันที
หมาตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่อยู่ริมถนนที่รถจะต้องผ่านไป
"หมีหมี หมีหมี มานี่เร้ว"ฉันตะโกนเรียก
"อ้าว นั่นก็หมาคุณพี่เหรอครับ"
"แน่นอน" ฉันพูดเต็มปากเต็มคำ


คนขับทำหน้าเสียดายนิดๆ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไป ฉันเผลอมองตามทั้งที่ตั้งใจจะไม่มอง ข้างหลังรถต่อเป็นลูกกรงมีพลาสติกคลุม แต่ก็ยังเห็นหมาๆ เบียดกันอยู่หลายสิบตัว


ฉันเบือนหน้าไปสบตากับควาย ไม่อยากเห็นสายตาละห้อยปนตื่นตระหนกของหมาบนรถ กลัวน้ำตาร่วง รู้สึกสะเทือนใจที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย
สัตว์โลกล้วนมีกรรมเป็นของตน


"หมีหมีออกมาทำไม เดี๋ยวเขาก็สอยขึ้นรถไปหรอก กลับบ้านไปไป๊" ฉันไล่หมาของเพื่อนบ้านที่วิ่งมากระดิกหาง พี่น้องของเจ้าตัวนี้เคยออกมาวิ่งเล่นแล้วถูกเกี่ยวขึ้นรถไปโดยเจ้าของไล่ตามไม่ทัน


รถกระบะติดลูกกรง (มีหลายคัน) จะขับผ่านหมู่บ้านที่ฉันอยู่เดือนละ 2-3 ครั้ง ทุกครั้งจะได้ยินเสียงหมาเล็กหมาใหญ่ร้องคร่ำครวญกันระงมจากกรงอันคับแคบนั้น
เป็นเสียงโหยหวนที่ติดหูตลอดมา


ฉันไม่เคยดูถูกวัฒนธรรมของท้องถิ่นไหนๆ เพียงเพราะความแตกต่างของการบริโภค แต่ทำใจไม่ได้กับวิธีการที่ส่งเสริมให้คนลืมความเมตตาและละเลยความรับผิดชอบ
เคยสงสัยว่าบางคนจะรู้สึกอย่างไร เมื่ออุ้มหมาของตัวเองส่งให้คนอื่นทั้งที่รู้ชะตากรรมของมัน
"เปลืองข้าวเปล่าๆ แลกถังไปก็สิ้นเรื่อง" เพื่อนบ้านคนหนึ่งแนะนำ เมื่อพิจารณาปริมาณหมาในบ้านฉัน เขาเคยแลกถังมาใช้แล้วสี่ใบ
"เลี้ยงหมาได้อะไร เลี้ยงวัวยังได้เงิน" เขาเป็นเจ้าของวัวเนื้อฝูงใหญ่ที่ขายได้ครั้งละหลายหมื่น


ส่วนฉันทำงานงกๆ หาเงินเดือนละหลายหมื่นเพื่อค่าอาหาร ค่ายา ค่ารถพาไปหาหมอ และค่าอื่นๆ อีกจิปาถะสำหรับหมาๆ แมวๆ ทั้งพิการและถูกทอดทิ้งรวมเกือบเจ็ดสิบตัว


เพื่อนคนหนึ่งถามว่า ถ้ามีใครเอาเงินล้านมาแลกกับหมาแมวพวกนี้ จะยอมแลกไหม
"ให้เงินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ" ฉันถามเล่นๆ (แต่เอาจริง) ก็แหม คนมันงก




นึกถึงนิทาน เรื่อง คุณกลมๆ เล็กๆ ที่ฉันมักจะเล่าให้เด็กๆ ในหมู่บ้านฟัง


คุณกลมๆ เล็กๆ มีหมาตัวกลมๆ เล็กๆ แล้วก็มีเงิน เขารักหมา แล้วก็ชอบเงิน
วันหนึ่งนกยักษ์ถามว่า เธอจะเลือกอะไรระหว่างหมาที่เธอรักกับเงินที่เธอหวง
คุณกลมๆ เล็กๆ เลือกเงิน นกยักษ์จึงจับหมาไป
ผ่านไปทีละวัน ทีละวัน คุณกลมๆ เล็กๆ อยู่กับเงิน แต่เงินเห่าไม่ได้ กระโดดไม่ได้ ดีใจตอนเขากลับบ้านไม่ได้ เป็นเพื่อนเดินเล่นก็ไม่ได้
คุณกลมๆ เล็กๆ เหงามาก เขาร้องไห้คิดถึงหมากลมๆ เล็กๆ


........................


ฉันนึกถึงหมาในบ้านที่มาอยู่กันแบบต่างกรรมต่างวาระ ล้วนแต่เป็นประเภทไม่มีสกุลรุนชาติ (สำนวนยาย) แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกตัว(และอาจจะเหมือนทุกตัวในโลก) คือความซื่อสัตย์และจริงใจ


ทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านจะพบการต้อนรับอย่างตื่นเต้นดีใจ ราวกับจากไปสักห้าปี ไม่เคยมีท่าทีเบื่อหน่าย(สงสัยว่าคนทำได้หรือเปล่า)


ความอดทนเป็นเลิศ ข้าวไม่อร่อยก็ไม่เคยประท้วง บ่นยังไงไม่เคยว่า ด่ายังไงไม่เคยเถียง


เวลามีเรื่องกังวลใจ แค่ได้ดูหมากระโดดโลดเต้นเล่นกัน สมองก็โล่งได้อย่างน่าประหลาด บางตัวปีนขึ้นมามองหน้าทำตาแป๋ว กระดิกหางอย่างร่าเริง เหมือนจะชวนว่า "มาเล่นกันเถอะ"


ฉันเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงคือการให้
แต่ถึงจะไม่ได้หวังอะไร สิ่งที่ฉันได้รับกลับมามากมาย คือความรักอันบริสุทธิ์สะอาด มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล
ถามตัวเองว่าถ้ามีใครเอาเงินล้านมาแลกกับหมาแมวพวกนี้ จะยอมแลกไหม
ก็เหมือนเพลงของบิลลี่ โอแกนน่ะแหละค่ะ


เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม






เรื่องน้องหมาน่ารู้



หมาโตเร็วกว่าคนมาก เห็นได้จากคลอดออกมาไม่กี่วันก็เดินได้แล้ว ขนาดที่คนใช้เวลาเป็นปี


สงสัยไหมว่า1ปีของหมาเท่ากับกี่ปีของคน
คำตอบคือ หมาเติบโตแตกต่างกันในแต่ละปี
ในปีแรก หมาจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเท่ากับเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปีทีเดียว
หมาอายุ 2 ปีจะพอๆ กับคนอายุประมาณ 24 ปี กำลังหนุ่มสาวเต็มที่เลยค่ะ
พอปีที่ 3,4 เพิ่มอีกครั้งละ 4 ปี ช่วงนี้เปรียบได้กับคนที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
เมื่อเริ่มปีที่ 5 ขึ้นไป เทียบกับคนโดยการบวกเพิ่มอีก 5 ปีทุกครั้ง
สรุปว่าหมาแก่เร็วกว่าคน หมาพันธุ์ใหญ่มักอายุสั้นกว่าหมาพันธุ์เล็ก


หมาก็เหมือนคน แต่ละช่วง พฤติกรรม นิสัย อาหารการกิน สุขภาพจะเปลี่ยนไปตามวัย


เพราะฉะนั้น ก่อนจะเลี้ยงหมา ถามตัวเองก่อนนะคะว่ามีเวลาดูแล (และทำความเข้าใจ) มันไปตลอดทุกช่วงชีวิตหรือเปล่า


*ภาพโดย JR