Skip to main content

เต้นกระทุ้งไม้ไผ่ ที่ 35,000 ฟุต เหนือมหาสมุทรแปซิฟิค!

คอลัมน์/ชุมชน

 


มิถุนายน หนึ่งปีก่อนรัฐประหาร


"ภาคเหนือของประเทศไทย เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าต่างๆ เช่นม้ง เย้า กะเหรี่ยง มูเซอ ลีซอ ซึ่งมีวัฒนธรรมการแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเป็นอยู่ แตกต่างออกไป จากคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นราบ..."


แว่วเสียงแคนและกลองประสานกับเสียงของไม้ไผ่ที่กระทุ้งลงบนท่อนไม้ใหญ่เป็นจังหวะ "กรั้บ" "กรั้บ" "กรั้บ"


"หลังจากสนุกสนานกับการโล้ชิงช้าในตอนกลางวัน ตกค่ำ หนุ่มสาวในชุดประจำเผ่าอันงดงาม ต่างรื่นเริงกับการเต้นกระทุ้งไม้ไผ่ ซึ่งจะดำเนินไปจนกระทั่งรุ่งเช้าของวันใหม่..."


เปล่านี่ ข้าพเจ้าไม่ได้ฝันไปแน่ เสียงไม้ไผ่กระทุ้งกระทบกับขอนไม้ใหญ่ดังเป็นจังหวะนั้นชัดเจน จนไม่อาจจะเป็นเสียงหัวใจเต้น แล้วยังทำนองครึกครื้นของกลองและแคนนั่นอีกเล่า


ที่ระดับเพดานบิน 35,000 ฟุต เบื้องล่างทะลุกลุ่มเมฆหมอกลงไปอาจจะเป็นหมู่เกาะใดหมู่เกาะหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิค


--- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับภาพชวนฝันหลอกลวงนักท่องเที่ยวของมัน ตามมาหลอกหลอนข้าพเจ้าสูงถึงเพียงนี้---


--- และอีกครั้งที่สนามบินเชียงใหม่ เมื่อข้าพเจ้าไปถึงบ้านเกิด


ภาพหญิงชาวม้ง อาข่า ลีซู ปว่าเกอญอ ในชุดแต่งกายประจำเผ่า สีสันสวยงาม แย้มยิ้มต้อนรับ ทักทาย นักท่องเที่ยว กลายเป็นเครื่องประดับที่ขาดเสียไม่ได้ ภายในอาคารสนามบินนานาชาติแห่งนี้ เช่นเดียวกันกับภาพของแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้อง ตุง น้ำหม้อ น้ำต้น และกาแล - รูปธรรมของน้ำใจ และวัฒนธรรมแห่งแดนดินล้านนา


ราวกับว่า พวกเขาล้วนแล้วแต่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ไม่มีทุกข์ร้อนใดๆให้ต้องกังวล


ขัดกันอย่างสิ้นเชิง กับภาพการชุมนุมเรียกร้องสิทธิทำกิน และเรื่องสัญชาติ ของพี่น้องชนเผ่าร่วมกับสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เมื่อปี 2542 หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลาแรมเดือน ก่อนเจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุม


สื่อมวลชนท้องถิ่น กล่าวหาชี้นิ้ว ผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวาย ไม่สงบ เป็นเหตุให้สนามหญ้าหน้าศาลากลางเสียชีวิตเป็นบริเวณกว้าง ข้อหาฉกรรจ์ อันไม่อาจยอมความได้ในสายตาของเจ้าหน้าที่รัฐ จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการสลายผู้ชุมนุม เพื่อรักษาความเขียวขจีของสนามหญ้าประจำจังหวัดเอาไว้


ถ้อยคำเรียกขานผู้ชุมนุมที่เป็นชนเผ่าเจือปนด้วยสำเนียงหยามเหยียด หมิ่นแคลน อัดแน่นด้วยอคติ "ม้งฝันแยกดินแดน" เป็นตัวอย่างหนึ่งของรายงานข่าวเชิงห่างไกลจากคำว่าสร้างสรรค์ กึ่งเพ้อ กึ่งฝันของผู้รายงานข่าว


และแน่นอน ไม่มีพื้นที่ทางอากาศให้สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยสื่อมวลชนส่วนกลาง ทีวีแต่ละช่อง ล้วนแต่อุทิศช่วงเวลาเสนอข่าวอันมีอยู่เป็นสัดส่วนน้อยนิด เมื่อเทียบกับภาคบันเทิง ให้กับการเกาะติดท่านผู้นำตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน สำหรับทีวีแห่งชาติ เสียงกระแอมของท่านผู้นำเป็นข่าวดังกว่าเสียงตะโกนเรียกร้องสิทธิของผู้ชุมนุม


---------


วีไอพี หรือ ป.1 คะ? เสียงพนักงานสาวบริษัทรถเมล์เขียว ซึ่งมีชื่อใหม่โก้เก๋ว่า กรีนบัส โยนทางเลือกมาให้ข้าพเจ้าจากหลังแผ่นกระจกที่กั้นเราเอาไว้ คำถามของเธอทำให้ข้าพเจ้าปวดร้าว ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงเบาะนุ่มก้น แอร์เย็นเฉียบ และที่นั่งห่างๆ กันเท่านั้น


ขอรถพัดลม ธรรมดาค่ะ ข้าพเจ้าก้มหน้าลงไปพูดกับเธอ ผ่านรูกลมๆที่กว้างพอเพียงให้ผู้โดยสารล้วงเข้าไปเอาบัตรโดยสารได้เท่านั้น


จะเบาะนวดไฟฟ้า คาราโอเกะ หรือ บริการแสนสบายอื่นๆ ข้าพเจ้าก็ยังชอบเดินทางโดยรถธรรมดา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถพัดลม ที่นั่งเบียดเสียด และทางเดินแคบ อยู่ดี เพราะไม่ชอบการบีบบังคับให้ต้องดูหนังหรือรายการตลก ที่รถประเภทวีไอพีที่นั่งจำกัด และปรับอากาศทั้งชั้น 1 และชั้น 2 นำเสนอ เพื่อให้ดูว่าสมกับราคาที่แพงขึ้นเท่าตัวหรือสองเท่าตัวของรถธรรมดา


ที่สำคัญกว่านั้น รถพัดลม มีพื้นที่ให้กับชีวิตแห่งความเป็นจริง และความสัมพันธ์กับคนธรรมดา


มากกว่า เช่นเดียวกับรถโดยสารประจำทางในเมืองเล็กๆในลาว คุณไม่อาจแสร้งทำเป็นนั่งเฉยนิ่งอยู่กับ "โลกของโซฟี" หรือ "ดาวเคราะห์อันเปล่าเปลี่ยว" ได้เลย เพราะผู้โดยสารท้องถิ่นคนอื่นๆ จะโยนรอยยิ้ม และคำพูดคุยทักทายมาให้ ไม่ว่าคุณจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม


กวาดสายตาดูข้าวของยังครบไหม ปกติข้าพเจ้าเดินทางด้วยเป้เล็กๆใบเดียว แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะต้องไปอยู่เป็นปี เป้ใบใหญ่ 1 ใบ บรรจุเสื้อผ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อยืด ถุงนอน มุ้ง รองเท้าแตะ เทียนไข ไฟฉาย ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ มีด เชือกฟาง ซ้อน ส้อม ยากันยุง ยาหม่อง ยาแก้ปวดลดไข้ พลาสเตอร์


เป้ใบนี้ และขันโตกน้อยทำจากหวายและไม้ไผ่ ไม่ใช้ตะปู ที่ข้าพเจ้าอุตส่าห์หอบหิ้วมาจากตลาดเช้าเมืองเวียงจันทร์เมื่อปีกลาย กินพื้นที่กว้างกว่าชั้นวางของเหนือที่นั่ง ข้าพเจ้าจะฝากไว้ในที่เก็บของข้างตัวรถ


ส่วนเป้ใบเล็กกว่า - ที่ข้าพเจ้าใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค กล้องนิคอนแบบใช้ฟิล์ม ซึ่งข้าพเจ้าใช้มาตั้งแต่เป็นนักศึกษาสื่อสารมวลชนปีหนึ่ง และกล้องโอลิมปัสแบบอัตโนมัติใช้ฟิล์ม แฟลช เทปบันทึกเสียง เทปคาสเสท และฟิล์มอีกจำนวนหนึ่ง - ข้าพเจ้าถือติดตัวไว้ นับเป็นวิบากกรรมอันหนึ่ง ที่ต้องแบกน้ำหนักของนอกกายกว่า 3 กิโล แต่จำเป็นสำหรับงานภาคสนามนี้ไว้ตลอดเวลา


นึกย้อนไปถึงอาจารย์นักมานุษยวิทยาฝรั่งผู้หนึ่งบอกลูกศิษย์สาวที่กำลังจะไปเก็บข้อมูลภาคสนามในแถบอาฟริกาว่า ให้เตรียมรองเท้าผ้าใบใส่สบายๆไป พร้อมทั้งน้ำดื่มไม่ให้ขาดแคลน


ข้าพเจ้าไม่ห่วงเรื่องเกือก กับน้ำดื่ม เท่ากับห่วงฟิล์มที่เตรียมไปอาจจะไม่พอ


รถพัดลมของข้าพเจ้ามาโน่นแล้ว ปลายทางของมัน - เจียงฮาย