พลังมหาประชาชน

ในที่สุดกลุ่มต่างๆ หลากหลายกลุ่มที่ขับไล่ คมช. ก็รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวโดย "แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" ประกาศตัวตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ท่ามกลางประชาชนเรือนหมื่น ณ ท้องสนามหลวง ในคืนเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2550 ชื่อว่า "แนวร่วมประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ (นปก.)" และล่าสุดมีวงเล็บต่อท้ายด้วยเป็น "แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (ปราบกบฎ)" มีการตั้งแกนนำขึ้นมา ทั้งหมด 7 คน คือ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาเป็นประธาน, นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำพีทีวี, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย โฆษกกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ, นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา, นพ.เหวง โตจิราการ จากสมาพันธ์ประชาธิปไตย, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ และนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน เจ้าของสถานีวิทยุชุมชน 87.75

รายชื่อของแกนนำที่มีทั้งหมอ ครู ผู้พิพากษา ผู้ใช้แรงงาน ช่วยลบภาพของการเป็นกลุ่มอำนาจเก่าไปได้ไม่มากก็น้อย

หลังจากที่นายวีระ มุสิกพงศ์ อ่านแถลงการณ์ ประกาศเจตนารมย์แล้ว ก็มีการปรึกษาประชาชนที่ร่วมชุมนุมว่าต้องการจะเคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบกหรือไม่ แน่นอนประชาชนต้องการ

มีด่านตำรวจ 2 ด่านที่สกัดกั้นการเคลื่อนขบวนของประชาชน แต่หลังจากประลองกำลังกันแล้ว ที่สุดก็ไม่อาจต้านทานแรงพลังของประชาชนไว้ได้ ตำรวจจำต้องปล่อยให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนต่อไปจนถึงหน้ากองทัพบกและตั้งเวทีปราศรัยโจมตี คมช.อย่างหนักหน่วง แต่อันที่จริง แม้จะไม่มีการประลองกำลังกันระหว่างตำรวจกับประชาชน เชื่อว่าตำรวจก็คงจะปล่อยให้ขบวนของผู้ชุมนุมผ่านไปอยู่แล้ว

ผมอยู่ในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย ได้รับรู้และพบเห็นว่าประชาชนอัดอั้นตันใจมากกับเหตุการณ์ทางการเมืองและความอยุติธรรมที่ผ่าน ๆ มา บางคนจึงระบายออกด้วยการยกแผงเหล็กที่ตำรวจเอามากั้นโยนทิ้งไปข้างทาง บางคนโห่ร้องราวกับจะออกรบ ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ซึ่งไม่รู้ตัวว่าเป็นที่เกลียดชังของม็อบ ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด

การเข้าไปในกลุ่มม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยฯ ของนายไกรศักด์ ชุณหะวัณ สะท้อนให้เห็นถึงการไม่รู้จักกาละเทศะแม้แต่น้อย เพราะนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณซึ่งมีปู่เป็นจอมเผด็จการ และบิดาถูกยึดอำนาจด้วยข้อครหาเรื่องคอรัปชั่นจากเผด็จการนั้น วิพากษ์โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาโดยตลอด ข้อมูลที่นำมาใช้วิพากษ์วิจารณ์นั้นน่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง กระทั่งเข้าร่วมปราศรัยขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเวทีของม็อบพันธมิตรฯ

ดังนั้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าประชาชนในม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยฯ จะไม่พอใจกระทั่งชิงชังรังเกียจนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นเรื่องที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ต้องรู้ว่าในสถานการณ์ที่ "เดือด" ขนาดนี้ไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่ยง

ยิ่งเมื่อเห็นสภาพของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ในอาการมึนเมา ด่าทอโต้เถียงกับม็อบแนวร่วมประชาธิปไตยฯ ด้วยท่าทางนักเลง ประชาชนจึงพากันกรูเข้าไป

คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่หากได้เห็นภาพจากสื่อ ตั้งแต่ต้นกระทั่งถึงตอนที่ตำรวจพาตัวนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ขึ้นรถนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่านายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณอยู่ในอาการมึนเมา คุมสติไม่อยู่ ถ้าใช้ "วาทกรรมของคมช." ก็อาจพูดได้ว่านายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ "ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง"

หลังจากที่คลื่นขบวนมวลมหาประชาชนในคืนวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน เคลื่อนตัวไปหน้ากองทัพบก นั้นถูกป้ายสีอย่างทันทีจากสื่อหลายแขนงไม่เว้นแม้กระทั่ง "ทีไอทีวี" ว่าผู้ชุมนุม "ยั่วยุเจ้าหน้าที่"

ผมสงสัยอย่างมากว่า "ยั่วยุเจ้าหน้าที่" นั้นแปลว่าอะไร ? ทำไมสื่อจึงไม่พูดบ้างล่ะว่าเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพ ขัดขวางการชุมนุมของประชาชน ทำไมสื่อไม่ประณามเจ้าหน้าที่ที่ขัดขวางไม่ให้ประชาชนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามากรุงเทพ เจ้าหน้าที่ลงทุนขนาดไม่ให้รถตู้ป้ายดำวิ่งรับส่งผู้โดยสารตามปกติเพราะกลัวจะมีการขนคนมาชุมนุม สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สมควรถูกประณามทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้คือการขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้นก่อนที่สื่อจะพูดไปตามบทว่าผู้ชุมนุมยั่วยุเจ้าหน้าที่ สื่อต้องคิดเสียก่อนว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการขัดขวาง ปิดกั้นประชาชนอย่างไรบ้าง

แล้วคำพูดของพลเอกสะพรั่ง กัลยาณมิตร แต่ละครั้งแต่ละคราวเป็นการยั่วยุท้าทายผู้ชุมนุมหรือไม่

พลเอกสะพรั่งกล่าวถึงม็อบที่เคลื่อนขบวนไปหน้ากองทัพบกว่า
"ถ้าพิจารณาจากการจ้างอันธพาล มาเดินแถวหน้า แต่ยอมรับว่ายังมีการแทรกซึมอยู่ ซึ่งคนพวกนี้เรียกว่าคนถ่อย ที่เป็นภาษาธรรมมะที่หมายความว่าคนที่ไม่เคารพกติกา กฎหมาย หรือคำตัดสินของศาล... ที่จริงพวกที่มาวันนั้นไม่พอมือพวกเราหรอก... (อ้างในประชาไท "สพรั่งยกตนเองเป็นฝ่ายธรรมะไม่ใช่เผด็จการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" 12/6/2550)

ถ้อยคำที่ออกจากปากของพลเอกสะพรั่ง กัลยาณมิตร นั้นเป็นการยั่วยุท้าทายประชาชนอย่างชัดเจน ดังนั้นหากสื่อยังรักความถูกต้องก็ควรจะระมัดระวังให้มากกับวาทกรรมต่าง ๆ ที่ออกมาจากคมช.

พลังของผู้ชุมนุมที่แสดงออกในคืนวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายนนั้นคือพลังของมวลมหาประชาชน ผู้รักประชาธิปไตย รักความถูกต้อง หากจะรักพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด้วยก็ไม่เป็นไร