Skip to main content

ใจบางๆ

คอลัมน์/ชุมชน






* ภาพโดย JR




กดเอทีเอ็มออกมาห้าร้อยบาท มองกระดาษที่เครื่องส่งออกมาให้ (ทั้งที่ไม่อยากมอง) เห็นตัวเลขที่เหลือแล้วถอนใจ (ถอนยังไงก็ไม่ขึ้น) เฮ้อ.. จะอยู่ได้อีกกี่วันวะเนี่ย


เมื่อวานซื้อข้าวสารอีกหนึ่งท่อน (กระสอบ) ราคา (ต่อรองแล้ว) 540 บาท คาดว่าคงพอกินไปได้สัก 7-8 วัน
"อาไร้ ตัวแค่นี้ กินข้าวทีอาทิตย์ละกระสอบ" เพื่อน (ไม่สนิท) คนหนึ่งเคยถามพลางตาโตเท่าไข่ไก่เบอร์ศูนย์
"เปล่า ไม่ได้กินเอง" ฉันบอก "เอาไปเลี้ยงหมาที่บ้าน"
"เธอเลี้ยงหมากี่ตัวกันจ๊ะ พันธุ์อะไร ทำไมกินข้าวมากมายขนาดนี้"
เพื่อนซักไซ้ (ก็บอกแล้วว่าไม่สนิท)
"39 ตัว" ฉันยิ้มตอบเพื่อนที่ตอนนี้ตาโตเท่าไข่นกกระจอกเทศ
"แมวอีก 27 ตัวด้วยละ" ฉันเพิ่มเติมข้อมูล
"โห...เพิ่งรู้ว่าเธอมีฟาร์ม" สีหน้าเพื่อนออกจะทึ่ง "เพาะพันธุ์หมาแมวขายเหรอ"
"เปล่า"
"เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านอะไรเงี้ยเหรอ"
"เปล่า เลี้ยงเฉยๆ"


เพื่อนทำท่าอึ้งๆ แล้วก็คงอดใจไม่ไหว เลยถามตรงๆ
"โทษนะ เธอบ้าหรือเปล่าเนี่ย"


.........


ฉันไม่ใช่คนใจดีมีคุณธรรมมากมายอะไร บ่อยครั้งที่คิดถึงความสุขส่วนตัว อยากมีโน่นนี่ประสาคนมีกิเลส วิ่งขึ้นรถเมล์ก็ยังเคยช่วงชิงที่นั่งโดยไม่สนใจใคร กินสลัดบาร์ก็ยังเคยตั้งใจจะตักให้มากที่สุด (ด้วยชามใบจ้อยที่สุด)

แต่ความสงสารกระมัง ที่ทำให้กรีดนิ้วหิ้วลูกหมาสกปรกที่มีแต่หนังหุ้มกระดูก พุงป่อง ขี้ตาฉ่ำ ก้นแฉะน่าคลื่นไส้ตัวหนึ่งไปหาหมอ เพียงเพราะมันเดินโซเซตามฉันอย่างไม่ลดละ และฉันหาแม่ของมันไม่พบ

การจำใจประคบประหงมดูแลลูกหมาสารพัดโรคตัวแรก ทำให้เกิดความผูกพัน ฉันเริ่มสนใจรายละเอียดในชีวิตคน (และสัตว์) อื่นๆ แล้วก็ได้พบว่า มีเรื่องราวมากมายในโลกนี้ที่เราไม่เคยใส่ใจ


นึกถึงประโยคที่ว่า "แค่เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว"




ต่อจากนั้น ฉันเป็นต้องได้เจอหมาแมวป่วยบ้าง ถูกทิ้งบ้าง ถูกรถชน เดินลากขาเน่าๆ อยู่ข้างทาง ทำใจไม่ได้ก็ต้องพาไปหาหมอ ทิ้งต่อไม่ได้ก็ต้องเลี้ยงไว้


บางตัวมีลูกติดท้องมา ฉันได้ลูกหมาลูกแมวเพิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ ต้องไล่ทำหมันกันเป็นที่เอิกเกริก บางช่วงหมาแมวถึงวัยทำหมันพร้อมๆ กัน 7-8 ตัว ต่อด้วยหมาป่วยอีก 4-5 ตัว ฉันกลายเป็นคนกระเป๋าแบนแฟนทิ้ง เหมือนเอกราช สุวรรณภูมิ (บางเวอร์ชั่นก็ไมค์ ภิรมย์พร)


"คนรักจากลา ตอนชะตาของพี่ตกต่ำ
กลับบ้านยามค่ำ เห็นเพียงห้องเปล่าใจหาย...."


ฉันพยายามจำกัดจำนวนหมาแมวอย่างสุดความสามารถ ไม่งั้นอาจจะต้องกัดก้อนเกลือกิน แต่สายตาสั้นๆ ก็ยังสะเปะสะปะไปเจออยู่เรื่อยๆ จนอยากเขกหัวตัวเอง


หนักๆ เข้าถึงกับมีคนเอาลูกหมาทั้งครอกใส่ถุงมาทิ้งไว้ให้หน้าบ้าน


เผลอแป๊บเดียว ฉันต้องตะเกียกตะกายไปกู้เงินธนาคาร ได้แค่พอซื้อที่ดินบ้านนอกได้หนึ่งกระแบะมือ เพื่อแลกกับความสบายใจของเพื่อนบ้าน(และตัวเอง) และให้หมาๆ แมวๆ มีที่เหยียดแข้งขามากขึ้นกว่าบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ


นึกถึงคำถามเพื่อนว่าเลี้ยงทำไม


ตอบง่ายๆ เลี้ยงเพราะไม่มีใครเลี้ยง เพราะไม่อยากให้มันตาย อยากให้มันหายป่วย และอยากให้มันรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายจนเกินกว่าจะแบ่งน้ำใจให้กัน   


หลังๆ พยายามทำตัวเหมือนคนเย่อหยิ่ง (เดินเชิดหน้า) ไม่อยากก้มสบตาหมาข้างถนนตัวใดทั้งสิ้น กลัวใจอ่อน


นึกถึงเพลงของหนุ่มเสก เสกสรร ชัยเจริญ


เป็นเพราะใจเราอ่อน อยากทำหัวใจขึ้นใหม่


อยากตกแต่งดวงใจเล็กๆ ให้แข็งแรงพอจะทนไหว....


แต่ก็ทนไม่ได้สักที เฮ้อ







เรื่องน้องหมาน่ารู้




ถ้าไม่อยากเพิ่มจำนวนหมาโดยประมาท ต้องรีบทำหมันค่ะ โดยทั่วไป ทำได้ตั้งแต่อายุ 6-7 เดือน


การทำหมันหมาตัวผู้ จะช่วยลดความกระวนกระวาย ความเครียด ลดอาการเห่าหอนและการหนีออกไปเที่ยว หมาตัวเมียไม่ควรฉีดยาคุมกำเนิดเกิน 2 ครั้ง เพราะมันจะมีผลทำให้มดลูกอักเสบ ถึงตายได้


การฉีดยาคุมหมาตัวเมีย ต้องฉีดก่อนที่มันจะเป็นสัด ไม่ใช่ก่อนการผสม การฉีดยาคุมเมื่อหมาเป็นสัดแล้ว ไม่มีผลต่อการคุมกำเนิด มันสามารถท้องได้ แต่จะมีผลกับการคลอด ยาคุมจะทำให้ช่องคลอดไม่ขยายตัว ลูกหมาคลอดไม่ได้ มักตายในท้อง ถ้าช่วยไม่ทัน แม่ก็จะตายด้วย


การทำหมันหมา เป็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างหนึ่ง ที่เจ้าของหมาทำได้เพื่อส่วนรวมค่ะ