Skip to main content

ปรัชญาแบบแมวๆ กับชีวิตที่มีทางเลือก(เสมอ)

คอลัมน์/ชุมชน





ภาพโดย JR



บางทีชีวิตก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก ฉันมักบอกตัวเองเวลาที่ต้องทำหรือไม่ทำอะไรด้วยความจำเป็น มากกว่าด้วยความอยากทำ
(หรือไม่อยากทำ)

การไม่มีทางเลือก บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ดี มันช่วยให้เรารู้จักประมาณตน ไม่ทระนงหลงตัวเอง

เรื่องของสมอง(ความคิด) กับเรื่องของหัวใจ(ความรู้สึก) ในหลายๆ สถานการณ์อาจสวนทางกันจนทำให้บางคนสับสนกับชีวิต ไม่รู้ว่าควรทำตามเหตุผลหรือความรู้สึก

แต่สภาวะเช่นนี้ไม่เคยปรากฏสำหรับนางสาวปุยฝ้าย เพราะเธอมีปรัชญาว่า ชีวิตนี้เลือกได้(เสมอ) และการเลือกของเธออยู่นอกเหนือความน่าจะเป็นใดๆ ทั้งปวง


........


ฉันกำลังเลี้ยวรถจักรยานยนต์ออกจากวัดป่าแห่งหนึ่งในขอนแก่น สายตาก็ดันไปสะดุดลูกแมวตัวกระจ้อยร่อย กำลังคลานงุ่มง่ามออกจากกล่องกระดาษสภาพเยินๆ คล้ายถูกโยนทิ้งไว้ที่ศาลารอรถประจำทางหน้าวัด มันคงไม่ได้คลานออกมารอรถสองแถวหรือรถ บขส. เป็นแน่ ไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไง (สงสัยไม่ทันคิด) ถึงได้หยิบมันใส่กระเป๋ากลับไปบ้าน

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณหญิงปุยฝ้ายกับนางทาสผู้ภักดีอย่างอีเย็น(ฉันเอง)

ความที่ปุยฝ้ายเป็นสมาชิกตัวแรกๆ ของบ้านสี่ขา ฉันยังอ่อนต่อโลก(ของแมว)นัก จึงเผลอให้ปุยฝ้ายยึดอำนาจ และกลายเป็นแมวที่มีความมั่นใจสูง(เกินความจำเป็น)


ปุยฝ้ายเลือกตั้งแต่ที่หลับที่นอน นม อาหาร ยันทรายสำหรับขับถ่ายนั่นเทียว อาหารธรรมชาติอย่างปลาย่างใหม่ๆ ปุยฝ้ายไม่สน เธอสนแต่ของมียี่ห้อ


อาหารแมวยี่ห้อไหนลองแล้วไม่ถูกปาก เป็นอันว่าครั้งเดียวเลิก หิวให้ตายก็ไม่แตะ นมวัวยูเอชทีก็ไม่ชอบ นมผงสำหรับแมวก็ไม่ปลื้ม ปุยฝ้ายชอบนมแพะ (ซะงั้น!)

แรกๆ ฉันยังซื้อทรายสำหรับแมวอย่างสะเปะสะปะ หลายยี่ห้อสลับกันไป ถ้าปุยฝ้ายถูกใจ มันจะลงไปขับถ่ายโดยดี แต่บางยี่ห้อ ไม่รู้เพราะสีไม่สวย กลิ่นไม่ดี เนื้อทรายระคายก้นของเจ้าหล่อนหรือไงไม่ทราบ ปุยฝ้ายจะดมๆ เขี่ยๆ สักพัก แล้วก็ปีนออกจากถาดทราย มาแสดงความไม่พอใจด้วยการอึบนพื้นหน้าตาเฉย!


นิสัยประหลาดอีกอย่างของปุยฝ้ายคือถ่ายแล้วไม่ยอมกลบ นับว่าผิดธรรมชาติแมวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่ามันจะหย่อนก้นฉี่หรืออึ เสร็จธุระแล้วมันจะปีนออกจากถาด เดินลอยชายจากไป ไม่แม้แต่จะหันมามอง ปล่อยให้ฉันก้มหน้าก้มหน้ากลบแทน

แรกๆ ฉันก็ทำใจ คิดว่าเป็นเฉพาะตอนเล็กๆ ที่เด็กๆ มักล้างก้นเองไม่ได้ แต่ฉันคาดผิด ทุกวันนี้ ห้าปีผ่านไป (ไวเหมือนโกหก) ฉันยังคงเป็นทาสเทวี คอยตามกลบขี้เหมือนเดิม (เวรกรรมของฉันแท้ๆ)

ปุยฝ้ายโตขึ้นเป็นแมวสาวสวย จมูกแดงแช้ด ตาหวานเชื่อม ขนนุ่มนิ่มสีเหลืองทอง ตัวอวบอ้วนชวนให้อยากอุ้มกอด แต่อย่าหวังกอดกันง่ายๆ เพราะปุยฝ้ายมีบุคลิกอันเรียกได้ว่า "สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง" แถมเล็บยังคมอีกด้วย ฉันนึกถึงเพลงคนสวยใจดำ ของระพิน ภูไท
ใบหน้างามๆ ไม่น่าใจดำเลยแก้วตา ดำเหมือนน้ำย้อมผ้า ไม่เวทนาบ้างเลยจอมขวัญ...



บทดอกสร้อยสุภาษิตที่เราเคยท่องจนขึ้นใจว่าแมวเอ๋ยแมวเหมียวนั้น
"ร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู" ใช้เป็นบรรทัดฐานสำหรับปุยฝ้ายไม่ได้เด็ดขาด


เวลาเรียกชื่อ อย่างมากเธอก็เหลือบตามอง แล้วเชิดใส่ ถ้านอนอยู่ก็จะเปลี่ยนท่านอน หันก้นให้ซะอย่างนั้น


บางวันนึกเอ็นดู เกาหูเกาคางให้ แมวตัวอื่นจะแหงนหน้าหลับตาพริ้มแบบเพลิดเพลิน แต่ปุยฝ้ายจะเบนหัวหนี ทำหน้ามุ่ย แล้วกระโดดขึ้นไปนอนในที่สูงๆ แสดงความรำคาญอย่างเปิดเผย


ถึงเวลากิน ตัวอื่นๆ จะร้องกันระงม วิ่งเข้ามารุมจานอาหาร แต่ปุยฝ้ายจะนอนเฉย เรียกให้คอแตกก็ไม่มา แสดงกิริยาให้รู้ว่ายังไม่มีอารมณ์จะกิน


จนใครๆ เขาแยกย้ายกันไปหมดแล้ว เธอจึงจะเยื้องย่างมานั่งร้องแง้วๆ อยู่ข้างจานอันว่างเปล่า สะบัดหางตบพื้นดังปุๆ แบบไม่สบอารมณ์ เป็นทำนองว่า ชั้นจะกินแล้วนะ หามาให้ชั้นกินเดี๋ยวนี้!


แมวปกติรักสะอาด แต่ปุยฝ้ายไม่ใช่แมวปกติ เธอ "เกิน" ปกติ เธอรักสะอาดแบบมีเงื่อนไข (มาก)


ปุยฝ้ายไม่ชอบกลิ่นเหงื่อ ทำงานเหงื่อโชกแล้วจะไปสุงสิงกับเธอละก็ อย่าฝัน ต้องอาบน้ำก่อน อาบน้ำเฉยๆ ไม่ได้นะต้องทาแป้งด้วย ปุยฝ้ายไม่ชอบแป้งตรางู (ผมรู้ คุณก็ใช้) ปุยฝ้ายชอบแป้งเด็กยี่ห้อที่ป้องกันความเปียกชื้นและเชื้อโรค


ที่พิเศษ (ความจริงพิลึกมากกว่า) คือปุยฝ้ายชอบโลชั่นทามือ ถ้าวันไหนฉันทาโลชั่น ปุยฝ้ายจะตะกายขึ้นมาสูดดม แล้วก็เลียเอา เลียเอา ทุกตารางนิ้วจนมือฉันเปียกไปหมด


หลังๆ ฉันไม่กล้าทาโลชั่น เพราะมันไม่ใช่ประเภท "ใช้กินใช้ทาในหลอดเดียวกัน" กลัวปุยฝ้ายได้รับสารอันตราย พอปุยฝ้ายเข้ามาสำรวจมือของฉันแล้วไม่พบกลิ่นถูกใจ มันก็สะบัดก้นจากไปอย่างไม่ใยดี



ปรัชญาประสาแมวของปุยฝ้ายนั้น บางครั้งก็ทำให้ฉันต้องหันมองตัวเอง ฉันเป็นคนคิดมาก ตัดสินใจช้า ลังเล สับสน ใจอ่อน ปฏิเสธไม่เป็น ไม่เคยเด็ดขาดได้อย่างปุยฝ้ายเลยสักครั้ง


ปุยฝ้ายเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ มีแมวหนุ่มๆ มารุมสมัครรักใคร่ แต่ฝันไปเถอะ ปุยฝ้ายไม่สนใจง่ายๆ ใครเผลอเข้าใกล้เป็นโดนปุยฝ้ายตะปบ ตบผลัวะๆ หนีแทบไม่ทัน


แต่บทเธอจะสนใจใครขึ้นมา เธอจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหา ยกเท้าหน้าล็อคคอเจ้าตัว (เคราะห์ร้าย) นั้นไว้ แล้วก็เลียหน้าตาหัวหูของอีกฝ่ายอย่างจริงจังจริงใจไม่มีอ้อมค้อม แต่ถ้าฝ่ายนั้นไม่เล่นด้วย เช่นพยายามจะดิ้นหนี (ด้วยความกลัว) เธอก็จะตบผลัวะทันทีเหมือนกัน ฐานที่บังอาจขัดใจ


ดูเอาเถอะ แม้แต่เรื่องของหัวใจ ฉันก็ไม่เคยทำได้คม ชัด ลึก อย่างปุยฝ้ายเลย ฮือๆ


นอกจากปุยฝ้ายจะยึดมั่นในปรัชญาชีวิตและความคิดที่ไม่เคยติดกรอบ(แบบแมวๆ) แล้ว หล่อนยังจัดอยู่ในประเภท "สวยเลือกได้" อีกต่างหาก


คน(อยากสวย)ที่ไม่ค่อยมีทางเลือกอย่างฉัน ขอยกมือยอมแพ้ค่ะ.


 






เรื่องน้องแมวน่ารู้




เคยอ่านเจอตำนานเทพของกรีกเล่าถึงแมวว่า อาร์เทมิส เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ เป็นผู้สร้างแมวเพราะเทพอะพอลโลน้องชายสร้างสิงโตมาให้เธอกลัว เธอจึงจงใจสร้างแมวให้เหมือนสิงโตแต่ย่อส่วนลงมาเพื่อเยาะเย้ยเขา

สังเกตเห็นตุ๊กตาแมวกวักมืออยู่เรื่อยๆ สงสัยเลยไปค้นดู ได้รู้ว่าคนญี่ปุ่นเรียก "มาเนกิเนโกะ" หมายถึงแมวนำโชค ใช้เรียกลูกค้าเข้าร้าน (คงคล้ายกับนางกวักของไทยเรา) เหตุผลหนึ่งที่ใช้แมวกวัก คือความเชื่อที่ว่า ถ้าเขียนคำว่า มะเนกิเนโกะ ด้วยอักษรคันจิ จำนวนขีดของคำนี้มีความหมายในด้านดีเป็นมงคลทั้งหมด


เคยมีผู้ใหญ่เล่าถึงแมวในพระคัมภีร์ใบลานอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าการได้เผาซากแมวประหนึ่งได้ประชุมเพลิงสามเณร เวลาไปเผาซากแมวต้องห่อข้าวไปด้วยเพื่อแมวจะได้ไปกินในสัมปรายภพ


เรื่องของแมวสนุกจริงๆ ค่ะ