Skip to main content

ดวงตาข้างซ้ายของฌ็อง -โดมินิก โบบี้ และมือข้างขวาของคุณยายทอบุญ

คอลัมน์/ชุมชน


หากล้มตัวลงนอน แล้วตื่นขึ้นมา ในสภาพที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ร่างกายเป็นอัมพาตไปทั้งหมด มีเพียงเปลือกตาเท่านั้นที่เปิดและปิดตามคำสั่งของกายและใจ เราจะเป็นอย่างไรบ้าง ทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แค่ไหน กว่าจะเรียนรู้จากสิ่งที่มีและทำได้ ผ่านไปในแต่ละวัน และเราคงนึกภาพอย่างนี้ไม่ออก หยั่งความรู้สึกไม่ถึง จนกว่าจะพบกับมันจริงๆ


ฌ็อง-โดมินิก โบบี้ ชาวฝรั่งเศส เป็นพ่อผู้ใจดีของลูกสองคน เขียนหนังสือ ชื่อชุดประดาน้ำและผีเสื้อหลังเป็นอัมพาตทั้งตัวแบบล็อคอิน (A.L.I.S) หมายถึง ASSOCIATION OF LOCKED-IN-SYNDROME โดยการบอกเล่าผ่านการขยับเปลือกตาซ้ายที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว สิ่งเดียวที่หลงเหลือจากการเป็นอัมพาตจากหัวจรดเท้า จากเส้นโลหิตแตกในส่วนก้านสมอง อวัยวะสำคัญซึ่งควบคุมกลไกทั้งมวลของร่างกายรวมทั้งการหายใจเพื่อคงสภาพชีวิตไว้ด้วย เขาใช้สายใยที่เบาบางที่สุดของการมีชีวิตรอดจากอัมพาต บอกเล่าผ่านเปลือกตาไว้อย่างชาญฉลาดและมีประโยชน์ที่สุดต่อผู้ป่วยอัมพาตทุกคน


ความที่เขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ เป็นบรรณาธิการบริหารของหนังสือ ELLE เขาจึงใช้ถ้อยคำที่งดงาม สละสลวยอย่างที่หาใครมาเทียบเคียงได้ยาก ในท่ามกลางความทุกข์และความเศร้าของการมีชีวิตอยู่ เขาเปรียบการเป็นอัมพาตเหมือนอยู่ในชุดประดาน้ำและความคิดของเขาเหมือนผีเสื้อที่ร่อนเร่ผ่านทุกข์


เรื่องราวผ่านเปลือกตาซ้าย เปิดโลกที่มืดดำ โลกแห่งจินตนาการของทุกคนให้แจ่มแจ้ง จากการเรียนรู้เรื่องอัมพาตผ่านการบอกเล่า จากตำราที่อ่าน และจากการคาดเดาของผู้รู้


จนมาถึงการเรียนจากตัวหนังสือผ่านเปลือกตาของเขา เหมือนท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก ฉันค้นพบคำตอบที่ค้นหามานานว่า


ทำไมคนไข้ที่นอนเป็นผักปลาอยู่นั้น ถึงได้มีน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสายได้เอง โบบี้ ให้คำตอบไว้อย่างติดตรึงใจ ราวกับว่าเปลือกตาซ้ายของเขาเล่าเรื่องราวของชีวิต ผ่านรหัสลับที่ค้นพบในสิบห้าเดือนของการเป็นอัมพาต ก่อนจะลาจากโลกนี้ไป


เหมือนดวงดาวที่รุ่งโรจน์ที่สุดตอนใกล้จะหมดแสง


เขาค้นพบคำตอบของการมีชีวิตอยู่เพื่อคนข้างหลัง ซึ่งเป็นคำตอบเดียวกันกับที่นักคิดผู้ยิ่งใหญ่ในโลกใบนี้อย่างพระพุทธเจ้าค้นพบ เป็นลมหายใจของคนที่เป็นนักประดาน้ำที่สิ้นหวังทั้งมวลในโลก เขาเขียนชื่อตัวเองไว้บนดวงดาวสีน้ำเงินใบนี้ให้เป็นนิรันดร์ ตรงข้ามกับสรรพสิ่งที่เสื่อมสลายและดับไป


แม้ตัวหนังสือที่ผ่านเปลือกตาซ้ายจะสะเทือนใจคนที่รักเขาอย่างยิ่ง หลายตอนที่อ่านแล้วต้องร้องไห้ แต่กฎการมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นทำให้หนังสือมีชีวิตชีวา ลูกสองคนของเขาคงรู้แล้วว่า การทำในสิ่งที่ยากที่สุดของพ่อของเธอเพื่อคนอื่นนั้นมีความหมายเพียงใด


เขาทำให้ฉันนึกถึง คุณยายทอบุญ แม่ของหมอคนหนึ่ง แม้คุณยายจะเป็นเพียงอัมพาตครึ่งซีก ร่างกายด้านขวายังทำงานได้ตามปกติ แต่ด้วยวัยที่แก่มากแล้วถูกรุมล้อมด้วยโรคสารพัด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง คุณยายจึงช่วยเหลือตนเองไม่ได้บนเตียงและบนรถเข็น


หลายครั้งที่คุณยายส่งเสียงดังอ้อแอ้แบบลิ้นคับปาก คุณยายพยายามจะพูดบอกอะไรที่ไม่มีใครรู้ เวลาอาบน้ำบนเตียงให้ คุณยายพยายามจะเอามือข้างขวาที่ยังใช้การได้บ้าง มาคอยจับมือเราไว้ สัมผัสที่พยายามสื่อสารผ่านบอกเรื่องราวและขอความช่วยเหลือ ถูกตีค่าเป็นความว่างเปล่าและปฎิกิริยาที่ไร้ความหมาย ไม่มีใครถอดรหัสลับของคุณยายได้เลย แม้ว่าคุณยายจะพยายามสักเพียงใด

โลกในความมืดดำของคุณยายจึงมืดมิดเสมอมา คุณยายมักนอนเดียวดายในห้องสีขาว กับรถเข็นเพื่อนยากที่จอดอย่างซื่อสัตย์ เหมือนรอรับใช้ ยิ่งนานวันเหมือนช่องทางยิ่งตีบตัน คืนวันของคุณยายผ่านไปอย่างเงียบเหงา เหมือนอยู่กันคนละโลกกับมนุษย์ธรรมดาจนวาระสุดท้าย


สิบกว่าปีที่คุณยายจากไป เมื่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ฉันจึงได้เข้าใจว่า คุณยายพยายามจะบอกอะไรแก่เราผู้โง่เขลาบ้าง โบบี้ได้บอกเล่าทั้งความรู้สึกและอารมณ์อย่างละเอียดละออ ลึกซึ้งของคนที่ตกอยู่ในชุดประดาน้ำ ทำให้ฉันได้เข้าใจว่า ทำไมคุณยายถึงส่งเสียงดังอ้อแอ้ทุกครั้งที่อาบน้ำอย่างมีความสุข หรือพบเจอลูกชาย


มือข้างขวาที่ยกมาไขว่คว้าไว้ในวันที่อยากมีใครสักคน มือที่ส่งผ่านความรู้สึกทั้งมวลมาให้และฉันคว้ามันไว้อย่างนุ่มนวล ในวันนั้นแม้ไม่เข้าใจ แม้ถอดรหัสลับของคุณยายไม่ออก แต่ฉันก็ยังหยุดทำทุกอย่างและกอดคุณยายไว้ เหมือนฉันพอจะทำอะไรได้บ้างเพียงแค่นั้น