Skip to main content

"การเดินทางของเจ้านกกระเรียน"

คอลัมน์/ชุมชน

เทศกาลลอยกระทงปีนี้ ผู้เขียนไปเที่ยวศาลายา ถิ่นเก่าที่เคยทำงานและใช้ชีวิตอยู่หลายปี พบว่า กิจกรรมในงานยังคงเหมือนเดิม คือ จัดประกวดกระทงและนางนพมาศ แค่เพียงย้ายสถานที่จัดงานเพื่อให้ผู้คนนำกระทงไปลอยที่คลองขุดหน้าตึกอธิการฯ แทนสระน้ำศาลาไทยเดิม และ ปรากฏการณ์ฝูงนกกระเรียนนับร้อยที่บินว่อนทั้งในขบวนแห่กระทง ราวกับว่าหากขาดนกกระดาษในงานลอยกระทงปีนี้จะเชย…


ตอนแรกที่ผู้เขียนได้ยินข่าว ท่านผู้นำของประเทศได้เชิญชวนพี่น้องชาวไทยให้ช่วยกันพับนกเพื่อส่งกำลังใจและยุติความรุนแรงที่มีต่อประชาชนใน ๓ จังหวัดภาคใต้นั้น ตัวเองยังงง ๆ อยู่นะว่า "มันช่วยได้ยังไง" และคิดต่อว่า"เอ…ถ้าเราพับนกส่งไปแล้ว แปลว่าหน้าที่เราหมดแค่นี้ใช่ไหม" หรือไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่เพียงให้นกเป็นสัญลักษณ์แทนความรู้สึกแบ่งปันความเจ็บปวดของพี่น้องร่วมชาติที่กำลังถูกกระทำความรุนแรง…


ต่อเมื่อ นโยบายการพับนกเพื่อสันติภาพ ได้ถูกกำหนดในทางปฏิบัติว่า รัฐบาลจะนำนกจำนวนทั้งสิ้น ๖๒ ล้านตัว ส่งมอบพื้นที่ภายในวันที่ ๕ ธันวาคมศกนี้ (ส่วนใครที่โชคดีเก็บได้นกของ ฯพณฯ ท่านสามารถนำมารับรางวัลเรียนฟรี มีงานทำด้วย) เอาล่ะสิ …แล้วในทางปฏิบัตินกกระเรียนกระดาษเป็นล้าน ๆ ตัวเนี่ย จะเดินทางมาจากไหนกันล่ะ?? ยิ่งใกล้วันส่งมอบ (ซึ่งไม่รู้จะไปทางบก หรืออากาศ) ข่าวการเดินทางของนกก็คืบคลานมาเรื่อย ๆ


ส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นได้ด้วยตาตนเองคือ ตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ได้มีการวางกรงนกขนาดยักษ์ไว้รอรับนกที่ลูกค้านำมาฝากส่งให้ห้างฯ เป็นนางนกต่อ เอ้ย..ผู้ส่งต่อ ส่วนน้อง ๆ จากมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นทีมอาสาสมัครเข้าไปจัดกิจกรรมเสริมความรู้เรื่องยาเสพติดและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนกรุงเทพฯ และปริมณฑลถูกโรงเรียนปฏิเสธชั่วคราว เพราะเด็กนักเรียนหลายแห่งถูกเกณฑ์ให้พับนกในวิชาเรียน หรือคาบกิจกรรม


ในรถโดยสารภาคอีสาน เส้นทางอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ทั้งเช้าและเย็น ระหว่างเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน นักเรียนน้อยทั้งหญิงและชายนั่งพับนกกระดาษกันแบบเอาเป็นเอาตาย คุยกันได้ความว่า ช่วยคุณครูด้วยความสงสารเพราะครูได้โควต้านกมาพับ ๑,๒๐๐ ตัว และโรงเรียนบนดอยแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีเด็กดอยใจดีชนเผ่าต่าง ๆ กว่า ๓๐๐ คนก็ยังอุตส่าห์ได้โควต้าพับนกตั้ง ๒,๐๐๐ ตัว


ยังมีข่าวเมาท์อีกเยอะเกี่ยวกับการเดินทางของนกจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งจ้างศิลปินในสังกัดให้ช่วยกันพับนกเพื่อสร้างภาพองค์กร และพรรคการเมืองพรรคหนึ่งตั้งโต๊ะให้ประชาชนมานั่งพับนกเพื่อหาเสียง ฯลฯ ข่าวเหล่านี้ จึงทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่า การเดินทางของเจ้านกกระเรียนเหล่านี้น่าเหนื่อยใจจริงๆ


แล้วยังมีบรรยากาศการพับนกเพื่อสันติภาพในมุมที่แตกต่างมาเล่าสู่กันฟังแถมท้ายด้วย คือว่า บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งมีลูกสาววัย ๘ ขวบ ต้องทำการบ้าน(ในวันหยุด) ที่ครูไม่ได้สอน โดยสั่งให้เจ้าตัวเล็กพับนกมาส่งคนละ ๔ ตัว แม่เด็กเลยต้องโทรศัพท์ตามพี่ชาย ซึ่งเป็นลุงของเด็กให้มาสอนทุกคนในครอบครัวให้พับนก เออ..ทุกคนดูครึกครื้นและสนุกสนานกับการพับนกที่ไม่ต้องเครียดกับเรื่องจำนวน และเวลาที่จำกัด


ตรงข้ามกับบ้านของผู้เขียนเอง น้าสาวซึ่งทำงานฝ่ายเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในกระทรวงที่มีเสาธงสูงที่สุดในประเทศ รับนโยบายจากหัวหน้าที่ (ดัน) ไปรับโควต้านกมา ๕๐๐ ตัว แต่มีพนักงานทั้งหมดในแผนก ๖ คน เมื่อน้าผู้เขียนรับคำสั่งและกระดาษใหม่เอี่ยมที่หัวหน้าฝ่ายให้นำมาพับนกที่บ้านเพราะท่าน (ดัน)ไปรับโควต้านกมา ๕๐๐ ตัว แต่มีพนักงานทั้งหมดในแผนก ๖ คนแล้วต้องเสร็จภายใน ๑ คืน ทุกคนในครอบครัวจึงไม่ต้องหลับต้องนอน ทำให้บรรยากาศการพับนกเต็มไปด้วยความขึ้งเครียด และทุกขเวทนา


สุดท้ายที่ทำให้ผู้เขียนแปลกใจยิ่งนัก คือ เมื่อทราบข่าวว่า เด็กนักเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองยะลานั่งพับนกกันทั้งโรงเรียน (เอากับเขาด้วยเหมือนกันตะ)


อยากรู้จังว่า เจ้านกกระเรียนจากยะลาจะเดินทางไปที่ใด ???