Skip to main content

ชีวิต


คาลิล ยิบราน
พูดถึงชีวิตเอาไว้ประโยคหนึ่งในหนังสือปรัชญาชีวิตว่า ชีวิตคือสิ่งที่มีอยู่ในระหว่างการเกิดและการตาย ถ้อยคำประโยคนี้ของยิบราน ฟังดูราวกับวาทะของพระเจ้าที่ทอดพระเนตรดูชีวิตอันกระจ้อยร่อยของมนุษย์จากเบื้องสูง และสรุปมันออกมาเป็นภาพรวมของความเป็นจริงที่ชัดเจนที่สุด


และจากถ้อยคำประโยคนี้ของยิบราน ทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตของคนเราแต่ละคน ช่างดูไม่ผิดกับเชือกเส้นหนึ่ง ที่ถูกคมมีดของกาลเวลาคอยบั่นให้สั้นลงทุกขณะ นับตั้งแต่วันแรกที่เราลืมตาเกิดมามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ และหดสั้นลงทุกขณะที่เราเติบโตขึ้น และร่วงโรยลงตามวัย


แม้เราจะระมัดระวัง
ดูแลชีวิตของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัยจากเภทภัยต่าง ๆ ในโลก เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ให้ยาวนานที่สุด แต่เมื่อหมดเวลาที่ธรรมชาติกำหนดให้ ไม่ว่าใครจะรักโลกและชีวิตนี้มากสักเพียงใดก็ไม่สามารถต่อชีวิตนี้ให้ยืนยาวต่อไปได้อีก เหมือนดังบทกวีของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว ที่พูดเอาไว้ในตอนหนึ่งในบทกวีที่ชื่อว่า "มาจากไหนจะไปไหน ฟ้าดินใดใครเล่าเขาลิขิต" เอาไว้ว่า


ความเป็นคนของเราก็เท่านี้
ไม่ว่ามีหรือไม่มีใครลิขิต
ต่ำเพียงดินสูงเพียงฟ้าน่าเพ่งพิศ
ทุกชีวิตขับเคลื่อนไปด้วยใจกาย


เวลาเล่าเขาก็ทำให้จำกัด
ไม่อาจขัดขืนต่อขอขยาย
โอ้ ชีวิตเหมือนเชือกควั่นพันต้นปลาย
วันคืนคล้ายมีดคอยบั่นให้สั้นลง


ไม่ยกเว้นราชากระยาจก
ล้วนต้องตกดินยุ่ยเป็นผุยผง
ยามคมมีดแห่งคืนวันฟาดฟันลง
เฉียบฉับตรงเบื้องปลายสายสัมพันธ์


หลายต่อหลายครั้ง
ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมคนเราเกิดมาแล้วจึงต้องแก่ จึงต้องเจ็บจึงต้องตาย หรือถ้าคนเราทุกคนเกิดมาแล้วไม่ตาย โลกและชีวิตนี้จะเป็นอย่างไรนะ ผมพยายามหาคำตอบให้ตัวเองมากมาย แต่ก็ไม่เคยพบคำตอบที่ทำให้ตัวเองพอใจสักที


เวลา 4-5 ปีติด ๆ กันที่ผ่านมา ผมสูญเสียน้องชายไปสองคน ติดตามมาด้วยพ่อกับแม่ น้องเขยและป้า ชีวิตผมในช่วงเวลานี้ต้องอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของงานศพ คนใส่ชุดดำ พระ พิธีกรรมทางศาสนา ความเศร้าโศก และเข้า ๆ ออก ๆ วัดกับป่าช้า จนผมกลายเป็นคนไม่อยากรับรู้ข่าวคราวของความตายใคร และไม่มีกะจิตกะใจอยากจะไปงานศพใครตราบจนเท่าทุกวันนี้

นอกจากมุมมองชีวิตของ คาลิล ยิบราน มุมมองชีวิตของ รพินทรนาถ ฐากูร ในหนังสือนกเถื่อนก็เป็นมุมมองชีวิตอีกมุมมองหนึ่งที่คล้ายคลึงกัน ดังที่ท่านกล่าวเอาไว้ว่า


ชีวิตเหมือนการเดินทางข้ามทะเล
เราพบกันบนเรือแคบ ๆ
ในความตายเราถึงฝั่ง
แล้วแยกย้ายกันไปคนละโลก


โอ้ การเกิดมามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและว้าเหว่เสียจริง ๆ หนอ...


เมื่อเกิด เรามาแต่ตัว หาได้มีอะไรติดตัวมาด้วย
เมื่อตาย เราก็เอาอะไรติดไปด้วยไม่ได้
แม้ร่างกายนี้ก็ต้องคืนให้กับผืนแผ่นดิน
ในที่สุดของชีวิต.


5 กรกฎาคม 50
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่