Skip to main content

บ้าน

คอลัมน์/ชุมชน

โดยส่วนใหญ่ในชีวิตเมื่อเรานึกถึง "บ้าน" เรามักนึกถึงบ้านที่เป็นรูปธรรม เสา กระดาน ผนัง หลังคา ระเบียง บริเวณ นั่นก็แล้วแต่สถานะทางเศรษฐกิจของเราจะเป็นแบบไหน คนหลายคนอาจจะเรียกบ้านของคนหลายคนว่ากระท่อม แต่คนหลายคนก็อาจเรียกบ้านของคนหลายคนว่าคฤหาสน์ ปราสาท หรืออย่างไรก็สุดแท้ นั่นขึ้นอยู่กับว่าเรามองบ้านเหล่านั้นจากมุมไหน

เลยจากรูปธรรม ความหมายของบ้านก็คือที่อยู่อาศัย ในความหมายนี้ แห่งหนใดที่เป็นที่อยู่อาศัยของเรา ที่นั่นก็คือ บ้านของเรา เช่นนั้นหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นแล้ว คนที่นอนอยู่ข้างถนน ณ ที่ ๆ เขาพักอาศัย นั่นก็คือบ้านด้วยกระมัง แม้หลายครั้งพวกเขาเหล่านั้นจะถูกเรียกว่าคนไร้บ้านก็ตามที ในอีกความหมาย บ้านก็ยังเป็นเครื่องตกแต่ง มันถูกใช้เป็นเครื่องประดับฐานทางสังคม บ่งบอกถึงฐานะทางเศรษฐกิจ นี่ก็สามารถว่าไปถึงเรื่องการเมืองด้วย ทั้งหมดทั้งสิ้นการผันแปรของบ้านก็เกิดขึ้นตลอดเวลา ว่ากันในอดีตที่บ้านยังไม่ได้เป็นเครื่องประดับมากนักนั้น คนสร้างบ้านตามสภาพแวดล้อม แม้มันจะถูกสร้างตามสภาพเศรษฐกิจด้วย แต่มันก็เอื้อต่อสภาพลม ฟ้า ฝน ด้วยเช่นกัน


ลึกลงไปมากกว่านั้น บ้านอาจมีความหมายเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นถ้อยคำ เมื่อใดที่อ่อนล้า เราจะนึกถึงบ้าน และที่บ้านของเราทั้งหลายนั้น มักมีคนที่เรารักอยู่เสมอ ในแง่นี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่ ความโอ่อ่าหรือซอมซ่อแล้ว มันเป็นเรื่องภายใน ยิ่งหากว่าบ้านของเราอบอุ่นด้วยแล้ว ยามเหนื่อยล้าเมื่อได้กลับบ้านมันจึงเป็นความหมายพิเศษ นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้คนๆ หนึ่งอาจมีบ้านได้หลายๆ ที่ ถ้าหากคนที่เรารักนั้นมีหลายคน หลายแบบ ว่าก็คือ พ่อ แม่ พี่น้อง สามี ภรรยา คนรัก หรือญาติสนิท หรือผู้คนในสถานภาพใดก็ตาม


ในวิถีนักแสวงหา การเดินทางไปในแถบถิ่นต่างๆ บ่อยครั้งที่เราได้สร้างบ้านภายในของเราไว้หลายที่หลายทาง แม้กระทั่งว่าเราอาจจะสร้างบ้านนั้นไว้ในบางเมือง แม้เมืองนั้นจะไม่มีคนที่เรารักและคุ้นเคยอยู่เลยก็อาจเป็นได้ แต่เราก็ได้เกิดความรู้สึกผูกพันกับบ้านนั้นอย่างแนบแน่น คือเมื่อใดเหนื่อยล้าและอยากพัก เราก็อาจกลับไปที่นั่น เพื่อมีเวลาอยู่กับตัวเองโดยแท้ ทั้งหลายทั้งปวงนี้จำเป็นอยู่เอง ซึ่งก็อาจโดยที่เราไม่รู้ตัว ที่เราจะต้องได้ดูแลบ้านเหล่านั้นของเรา ใส่ใจต่อการผันแปรเปลี่ยนแปลงต่อบ้านของเรา รับรู้ถึงความรักที่เรามีต่อบ้าน และความรักที่บ้านมีต่อเรา และทั้งหมดนั้นมันอาจจะเป็นไปเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรมากนัก เพราะส่วนสำคัญที่สุดคือการดูแลหัวใจของเราเอง ว่ากันว่าการดูแลตัวเอง ก็คือการได้ดูแลผู้อื่น สิ่งอื่นๆ รวมไปถึงโลกและจักรวาล มันจึงมีความหมายอันงดงาม เมื่อหัวใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และความรักนั้นก็จะส่งผลอันงดงามต่อตัวเรา คนที่เรารัก บ้าน โลก และจักรวาล


ณ เวลานี้ เราต่างเดินทางมาไกลโพ้น เป็นเวลาเนิ่นนานนักแล้ว หากที่นี่ก็คือบ้าน และมันก็คงดีงามไม่น้อยถ้าหากเราได้กลับบ้านอยู่เนืองนิตย์ หากเมื่อทุกที่คือบ้านแล้ว ทุกครั้งที่เราจัดกระเป๋าเดินทาง นั่นก็หมายความว่าเรากำลังจะกลับบ้านอีกครั้ง….