Skip to main content

ต้นทะเล

คอลัมน์/ชุมชน

พะติจอนิ โอ่โดเชา ผู้เฒ่าปวาเก่อญอ มักพูดเสมอในเวทีสิ่งแวดล้อมทั้งหลายว่า "คนบนดอยต้องรักษาต้นน้ำบนดอย คนทะเลต้องรักษาต้นน้ำทะเล" อันมีความหมายสำคัญก็คือว่า น้ำจากภูเขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำเบื้องล่างนั้น คือเส้นเลือดสำคัญของการดำรงชีวิตของผู้คนตลอดริมฝั่งน้ำ ไม่ว่าจะลำห้วยบนภูเขาถึงแม่น้ำใหญ่ ในพื้นที่ราบลุ่มเบื้องล่าง น้ำจึงมีความหมายแปลได้ว่าอาหารด้วย เพราะมีน้ำจึงมีข้าว เพราะมีน้ำจึงมีปลา เพราะมีน้ำจึงมีพืชพรรณ เพราะมีน้ำจึงมีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ แต่หากน้ำนั้นถูกปนเปื้อนด้วยสารเคมีหรือขยะเน่า น้ำก็จะแปลว่าโรคภัยไข้เจ็บ ความอดอยากและความตาย

ว่าไปถึงที่สุด ทุกส่วนของสายน้ำล้วนควรค่าต่อการได้รับการดูแล ตลอดเส้นทางของผู้คนที่อยู่ในส่วนนั้นๆ คนต้นน้ำต้องรักษาต้นน้ำ คนกลางน้ำต้องรักษากลางน้ำ คนปลายน้ำต้องรักษาปลายน้ำ ว่ามาทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรใหม่เลย มันเป็นชุดความรู้พื้นฐานที่ผู้คนที่รู้ความล้วนรับรู้ได้ และหากจะแปลว่าคนที่ทำร้ายสายน้ำเป็นคนไม่รู้ความก็อาจเป็นได้

และพะตี จอนิก็มักกล่าวถึงต้นน้ำทะเลในฐานะที่มันเป็นต้นทางของอาหาร ซึ่งแกมักพูดถ้อยคำติดตลกแบบจริงจังเสมอว่า คนบนดอยต้องกินเกลือกินปลาทู ไม่อย่างงั้นจะเป็นคอพอก และทุกครั้งพะตีก็มักจะสรุปว่า "ให้พี่น้องทะเลรักษาต้นน้ำทะเลเน้อ เฮาอยู่บนดอยเฮาจะรักษาต้นน้ำบนดอยให้" ทั้งหมดนี้จึงเป็นการพึ่งพากันของมนุษย์ที่ดำรงอยู่ในระบบนิเวศน์เดียวกัน


ในบทพิจารณาอาหารที่ ติช นัท ฮันห์ เขียนไว้ในหนังสือของท่านเป็นบทพิจารณาที่น่าฟังมากว่า


"อาหารนี้มาจากจักรวาลทั้งหมด มาจากผืนแผ่นดิน สายน้ำ ผืนฟ้า มหาสมุทร ผ่านความลำบากทุกข์ยากมากมาย ชาวนา ชาวไร่ ชาวประมง เด็กๆ และคนแก่ล้วนมีส่วนในความทุกข์ยากเหล่านั้น เราโชคดีที่ได้กินอาหารนี้ ในขณะที่มีคนอีกมากมายในโลกยังอดอยากหิวโหย เราจะกินอาหารดำรงอยู่ และตระหนักว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อสรรพสิ่งทั้งมวล"


ไม่บ่อยนักที่คนภูเขาจะได้เดินทางไปถึงฝั่งทะเล แต่ทุกครั้งที่ไปเยือนเราก็ได้เห็นและรับรู้ถึงข่าวคราว เรื่องราวของพี่น้องริมฝั่งทะเล ชีวิตที่ต้องต่อสู้ในถานะคนเล็กคนน้อยของสังคม ปัญหาที่ต้องเผชิญ เหมือนพี่น้องของเราบนภูเขาหรือพี่น้องทางแถบถิ่นที่ราบสูง ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ


ทั้งหมดในความหมายเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่บอกให้เราได้คำนึงถึงก็คือ เบื้องหลังการดำรงอยู่ของเราไม่ใช่เราเท่านั้น แต่มันคือผู้คนและสรรพสิ่ง ความทุกข์ ความสุขทั้งมวล ที่เอื้อต่อการเป็นอยู่ของเรา ไม่ว่าร่ำรวยหรือยากจน เสพสุขหรือทนทุกข์ ทั้งหมดนั้นมันเป็นผลสืบเนื่องของกันและกันนั่นเอง