Skip to main content

ชายผ้าเหลืองอันเรืองรอง

คอลัมน์/ชุมชน

เด็กชายอายุสองขวบครึ่งคนนี้ มานอนโรงพยาบาลด้วยอาการท้องเสีย เขาดูตัวเล็กกว่าอายุ ตาลึกและผิวหนังเหี่ยวเพราะขาดน้ำ เณรอายุสิบขวบ เป็นคนอุ้มเขามาส่งโรงพยาบาล ความจริงน่าจะเรียกว่า มาส่งกันทั้งวัดเลยก็ได้ เพราะทั้งวัดมีพระสองรูป เณรสองรูปเท่านั้น ขบวนพระและเณรมาส่งเด็กนอนโรงพยาบาล เป็นแถวสีเหลืองอร่ามตัดกับสีอื่นของวันอันมัวหม่นของโรงพยาบาล


พระสองกับเณรหนึ่ง กลับวัดไปแล้ว เหลือเพียงเด็กน้อยกับเณร ซึ่งยังเป็นเด็กทั้งสอง เจ้าตัวเล็กดูสงบเสงี่ยมเจียมตัว ร้องไห้ โยเยเพราะมีไข้ ถูกเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ

เณรเณร เป็นถ้อยคำที่เขาเปล่งออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้ เขาไม่ดิ้น ยินยอมให้จับตัวแต่โดยดี มีแต่เสียงร้องไห้เบาๆเท่านั้นที่ดังลอดออกมาจากปาก สองมือเขาไขว่คว้าเรียกหาเณร


แม่เขาไปไหนหรือคะเณร ฉันถามด้วยความแปลกใจ นิ่งฟังคำตอบของเณรด้วยใจที่หดหู่ เพราะเด็กเล็กๆอย่างนี้ควรได้อยู่กับแม่ มีแม่ดูแลและอุ้มกอด ไม่ใช่เณรน้อยอย่างนี้


เสียงเณรตอบมาว่า แม่เขาทิ้งไปตั้งแต่อายุหนึ่งขวบแล้ว แม่เป็นเอดส์ พ่อก็หายไปตั้งแต่เขาเพิ่งลืมตาดูโลก แม่อุ้มเขามาทิ้งไว้ที่วัดแล้วหายไปเลยจนถึงตอนนี้ สงสัยตายไปแล้ว แต่ไอ้ตัวเล็กนี้ไม่เป็นเอดส์นะ เจาะเลือดแล้ว เขากินยามาตลอด ท่านเจ้าอาวาสคอยดูแลรักษากินยา


เด็กน้อยที่น่าสงสาร นอนหลับอยู่บนเตียงพร้อมหัวแม่มือที่อยู่ในปาก เนื้อตัวมีรอยยุงกัดและแผลเป็นที่เกิดจากการเกา คราบน้ำตายังอยู่เต็มหน้า ฉันเอาผ้าขนหนู ชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวให้เขา หลังเช็ดคราบมอมแมมออกจากตัว ทาแป้งแล้วใส่เสื้อให้ เขาหลับไปด้วยความอ่อนเพลียบนเตียงกว้าง ผ้าห่มเป็นจีวรพระเก่าๆ สีเหลืองจาง เณรบอกว่าเขาติดผ้าผืนนี้เลยเอามาด้วย ข้างเตียงมีเณรน้อยนั่งดูทีวีอยู่ด้วยความสนใจ เหมือนเด็กสองคนพี่น้องอยู่ด้วยกันในวัยไล่เลี่ยกัน ต่างจากเด็กคนอื่นตรงที่ทั้งสองคนไม่มีแม่มาคอยดูแลเท่านั้น


หลังได้น้ำเกลือและยา เขาตื่นมาลุกนั่งมากินข้าวได้ เณรป้อนข้าว เขานั่งอ้าปากกินไป แล้วยิ้มหัวกับเณร เอื้อมมือมาคว้าข้าวไปเทเล่นบนเตียง เณรคอยปัดมือแล้วบอกว่ากินดีๆ สิ

แล้วที่วัดเลี้ยงอย่างไรล่ะเณร เณรบอกว่าหุงข้าวเย็นให้กิน ส่วนข้าวเช้าและข้าวเที่ยงเป็นข้าวก้นบาตรที่เจ้าอาวาสบิณฑบาตมา เณรเป็นคนดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่อาบน้ำจนถึงนอน แล้วถ้าเณรสึกล่ะ ฉันถามแล้วนิ่งฟังคำตอบ เณรบอกว่ายังไม่สึกหรอกโยม เณรจะเรียนทางพระ ส่วนเจ้าตัวเล็กนี้ ถ้าโตพอแล้ว ท่านเจ้าอาวาสจะให้บวชเรียนให้เณรคอยดูแลไปจนโตโน่นแน่ะโยม


อนุโมทนาด้วยนะคะเณร บุญกุศลของเด็กจริงๆ ที่พบเจออย่างนี้ เด็กกำพร้าอย่างเขาโชคดีที่สุดที่ได้มาอยู่ในเส้นทางสีเหลือง แม้ไม่มีทางเลือก แม้ชีวิตจะยากไร้และแสนเศร้าที่ไม่มีแม่ แต่เขามีความรักจากชายผ้าเหลืองที่งดงามมาห่อหุ้มชีวิตที่ขาดวิ่นของเขาไว้


ขบวนแถวสีเหลืองเดินออกจากโรงพยาบาลหลังเด็กน้อยดีขึ้น หมออนุญาตให้กลับวัดได้ สีเหลืองเจิดจ้า ตัดกับสีทุกสีในเช้าวันนั้น เณรอุ้มเขาเดินรั้งท้าย หัวแถวเป็นท่านเจ้าอาวาสผู้มีรอยยิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ในอ้อมกอดของสีแห่งธรรม ในสีเหลืองของจีวรพระมีร่างผอมๆ ของเด็กน้อยอยู่


อย่างน้อยฉันรู้ว่าเขาจะโตมาเป็นคนดีของสังคมอีกหนึ่งคน