Skip to main content

ในเรือนใจ : ชะตาชีวิตของผู้หญิงคนดี

คอลัมน์/ชุมชน

1


หล่อมากกกก…ล่ำมากกกก…น่า…มากกกกก อุ๊ย! อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ คุณผู้อ่านที่รักขา ว่านี่คอลัมน์อะไรกัน คอลัมน์นี้ยังเป็นดูละครกับเฟมินิสต์อยู่ค่ะ แต่อาจจะเปลี่ยนชื่อได้ในอนาคตเป็นดูละครกับผู้หญิง (บ้าผู้ชาย) แหมจะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไรหละคะ ก็ผู้จัดละครเรื่องนี้ช่างรู้ใจผู้หญิงอย่างดิฉันเสียจริง เล่นเอาผู้ชายระดับนายแบบ ที่ทั้งหล่อ ทั้งล่ำ ทั้งน่า… มารวมกันไว้ในละครเรื่องเดียว แค่พระเอกคนเดียวดิฉันก็ใจจะขาดตายอยู่แล้ว คนอะไรหล่อบาดจิตบาดใจเหลือเกิน ไม่เพียงแค่นั่นนะคะ ยังหลอกล่อคนดู (ที่เป็นผู้หญิง) อย่างดิฉันไม่ให้ลุกจากจอไปไหน หรือขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียวที่ออกอากาศ


โดยเฉพาะฉากที่พระเอกไปทะเล ใส่เพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงชาวเลสีขาว แค่เสื้อกล้ามเนี่ย ดิฉันก็ใจจะขาดตายอยู่แล้ว กับหุ่นนายแบบที่ท่อนแขนเป็นมัด ๆ หน้าอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ โอ๊ย ดูไปน้ำลายก็ไหลไป อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะ ดูไปก็อยากจะวิ่งไปซบลงตรงกลางระหว่างขา อุ๊ย ไม่ใช่ค่ะระหว่างอกค่ะ พอดีกว่าดิฉันชักจะสับสนกับความคิดของตัวเองแล้ว เดี๋ยวจะเผลอพูดอะไรที่ใจคิดออกไป คุณผู้อ่านที่รักทั้งหลายจะหาว่าดิฉันเป็นผู้หญิงไม่ดี เสียเครดิตรุ้งรวีหมด


ก็ด้วยผู้ชายหล่อ ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระเอก พระรอง หรือพระร้ายที่มาร่วมกันแสดงในละครเรื่องนี้จึงทำให้ละครเรื่อง "ในเรือนใจ" เรตติ้งพุ่งกระฉูด พระเอกใหม่อย่างแซม โชติบัณฑ์ ที่เป็นฝรั่งพูดไทยไม่ชัด แจ้งเกิดได้อย่างงดงามกับแววตาขี้เล่น ท่าทางกวน ๆ ที่เอาชนะจิตใจคนดูอย่างดิฉันไปได้เกินร้อย ถึงแม้ว่าภาษาไทยจะไม่ชัดก็ไม่เป็นไร เพราะเท่าที่สังเกตก็ไม่เห็นมีกระแสเรื่องพูดไทยไม่ชัดแต่อย่างใด คงอาจจะเป็นมนต์เสน่ห์แห่งมัดกล้ามก็เป็นได้ ที่ทำให้คนดูลืมเรื่องนี้เสียสนิท ช่างเป็นการตลาดที่สร้างสรรค์ และได้ผลเสียจริง เดี๋ยวนี้จะเอาผู้หญิงมาเป็นจุดขายเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วนะคะ เพราะตลาดมันแคบ ต้องเป็นผู้ชาย (หล่อ ล่ำ กล้ามโต) ถึงจะขายได้ เพราะตลาดมันกว้างกว่า จริงไหมฮะ คุณผู้อ่านที่รักทุกคนฮ่า


เอาหละค่ะ มัวแต่พูดถึงเรื่องผู้ชาย (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันถนัดที่สุด) ซึ่งถ้าจะพูดต่อก็จะไม่จบไม่สิ้น ไม่ได้เขียนถึงละครเรื่องนี้กันพอดี เดี๋ยวจะหาว่าดิฉันเป็นเฟมินิสต์สำนักไหน ทำไมบ้าผู้ชายจัง ซึ่งดิฉันก็ขอออกตัวไว้ก่อนว่า นั่นเป็นเพียงชื่อคอลัมน์นะคะ แต่เรื่องส่วนตัวว่ากันอีกอย่างหนึ่ง



2



เอาหละค่ะ กลับมาที่ละครเรื่องในเรือนใจกันต่อ ละครเรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ กิ่งฉัตร บทโทรทัศน์โดยน้องนุช ชวาลา กำกับการแสดงโดย คุณต้อ มารุต สาโรวาท นำแสดงโดย พระเอกหน้าใหม่ (ที่หล่อมาก) แซม โชติบัณฑ์ กับ ป็อก ปิยธิดา ออกอากาศทางช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณ ซึ่งก็เพิ่งจะลาจอไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาอ่านเรื่องราวอย่างย่อ ๆ กันก่อนนะคะ ซึ่งดิฉันก็จะพยายามข่มจิตข่มใจ ไม่ให้พล่ามไปถึงความหล่อเหลา ของพระเอก พระรอง พระร้าย อย่างถึงที่สุด ดิฉันขอสัญญา


ในเรือนใจ เป็นเรื่องของกรพินฑ์ (ป็อก ปิยธิดา) หญิงสาวที่เงียบขรึม ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ ไม่ว่าจะรัก เกลียด หรืออื่น ๆ เพราะเธอมีอดีตที่ฝังใจเกี่ยวกับเรื่องแม่ของเธอที่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ด้วยความที่พ่อของเธอไม่ดูแลเอาใจใส่ครอบครัว จนทำให้แม่ของเธอต้องกินยาฆ่าตัวตาย กรพินฑ์จึงกลายเป็นเด็กที่เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่แสดงออกซึ่งความรู้สึกใด ๆ เพราะเธอคิดว่าถ้าเธอเป็นคนที่มีความรู้สึกต่อเรื่องราวต่าง ๆ แล้วสุดท้ายเธออาจะเป็นอย่างแม่เธอ


เธอมีคู่หมั้นคือ กันตยศ (ป้อง ณวัตน์ ) ชายหนุ่มที่มีพฤติกรรมในอดีตที่เลวร้าย ทั้งทำร้ายร่างกายและปอกลอกผู้หญิง ซึ่งเพื่อน ๆ ที่ต่างประเทศรู้กันดีถึงชื่อเสียงด้านความเลวร้ายของกันตยศ รวมถึงองอาจ พ่อของกรพินฑ์ จึงทำให้งานแต่งงานของเธอเป็นเพียงงานหมั้น และเป็นข้อตกลงว่าให้รออีกหนึ่งปีจึงจะสามารถแต่งงานได้


ต่อหน้ากรพินฑ์ กันตยศทำตัวเป็นคู่หมั้นที่ดี แต่เขายังเป็นกันยศคนเดิม ที่ติดการพนัน และมีผู้หญิงคนอื่น ๆ กรพินฑ์ได้รู้จักโก้ (แซม โชติบัณฑ์) ลูกพี่ลูกน้องของกันตยศ ที่ถูกกันตยศแย่งแฟนไป เมื่อครั้งเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส โก้พยายามที่จะเตือนถึงความเลวร้ายของกันตยศให้กรพินฑ์รู้ แต่กรพินฑ์ก็ไม่ใส่ใจเพราะคิดว่านั่นเป็นเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว การปรากฏตัวของโก้ทำให้กันตยศไม่พอใจมากนัก เพราะโก้เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวที่กันตยศเคยทำไว้ที่ฝรั่งเศส


โก้เริ่มเข้ามาพัวพันกับกรพินฑ์ ด้วยคำสั่งขององอาจผู้เป็นอาที่ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับกันตยศ จึงให้โก้พยายามเข้ามาเตือนกรพินฑ์ จนเมื่อบริษัทของกันตยศต้องไปถ่ายทำโฆษณาที่เกาะแห่งหนึ่ง กันตยศชวน กรพินฑ์ไปด้วย เพื่อหวังจะสานความสัมพันธ์ และโก้ก็แอบไปกับทริปนี้ด้วย ด้วยคำสั่งขององอาจ และข้อแม้สองประการคือ ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าองอาจเป็นคนบงการเรื่องนี้ และห้ามตกหลุมรักกรพินฑ์


ที่เกาะ กันตยศได้พบกับจิลลา หญิงสาวที่เคยถูกกันตยศหลอก ในขณะที่ไปปีนเขา กรพินฑ์ประสบอุบัติเหตุตกเขา โก้เป็นคนแรกที่กระโดดลงไปช่วยชีวิตกรพินฑ์ไว้ ทำให้โก้รู้ว่าแท้จริงแล้วกรพิณฑ์ก็มีความรู้สึกกลัวเป็นเหมือนกัน หลังจากนั้น โก้ได้มีโอกาสคุยกับกรพิณฑ์ กรพินฑ์จึงได้เล่าเรื่องการตายของแม่ให้โก้ฟัง เพื่อที่จะอธิบายว่าทำไมเธอจึงเป็นคนไม่มีความรู้สึก โก้กอดปลอบกรพิณฑ์ แต่นวพิธก็ถ่ายรูปนี้เอาไว้ และนำไปให้กันตยศดู กันตยศโกรธมากถึงขั้นตบหน้ากรพินฑ์ และขอถอนหมั้น


หลังจากกลับมาจากเกาะแล้วโก้กับกรพินฑ์ก็รักกัน และโก้ได้ไปสารภาพกับองอาจว่าไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้เพราะว่าหลงรักกรพินฑ์เข้าแล้ว และกรพินฑ์กับตนก็รักกัน ซึ่งโก้ก็ได้รู้ความจริงว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการวางแผนขององอาจซึ่งองอาจมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าสองคนนี้น่าจะรักกัน กันตยศพยายามแกล้งคนทั้งสอง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายลง โก้และกรพินฑ์ก็แต่งงานกันในที่สุด


3
ละครเรื่องนี้สนุกมากเลยนะคะ ไม่พียงแค่คู่ของพระเอกนางเอกเท่านั้น คู่อื่น ๆ ในเรื่องก็น่ารักกุ๊กกิ๊ก ให้ชวนติดตามเช่นเดียวกัน แต่มาเสียอารมณ์ตอนท้าย ๆ เรื่องนี่แหล่ะค่ะ ที่ยืดซะจนน่าเกลียด เล่นให้นางร้ายระลึกถึงความหลังเป็นตอน ๆ เลยก็ว่าได้ ดิฉันก็ได้แต่นั่งเซ็ง ดีนะคะที่ยังมีฉากให้พระเอกผลุบ ๆ โผล่ ๆ เข้ามาบ้าง ไม่งั้นดิฉันโทรขู่ไปวางระเบิดช่องเจ็ดแน่ อุ๊ย ดิฉันสัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องผู้ชายแล้วใช่ไหมคะ เฮ้อ ดิฉันเนี่ยคงจะเป็นเอามาก เอาหละค่ะ มาเข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า ก่อนที่จะเหลวไหลอีกหลาย ๆ รอบ


ละครเรื่องในเรือนใจ เป็นการพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อกรพินฑ์ เธอเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ เงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ไม่กระโดกกระเดก ไม่แรด ไม่เล่นหูเล่นตากับผู้ชาย และดูท่าทางคงจะเวอร์จิ้น เกิดในตระกูลที่ดี ร่ำรวย ภาพนางเอกของเธอ เป็นภาพนางเอกที่อาจจะย้อนไปถึงแม่พลอยแห่งสี่แผ่นดิน ด้วยความที่กิริยาเรียบร้อยยังกะหญิงชาววัง เพียงแต่เธอยังสามารถไปไหนมาไหนกับผู้ชายได้อยู่เท่านั้น นางเอกอย่าง
กรพินฑ์จึงเป็นนางเอกที่ดูออกจะโบร๊าน โบราณ หากเทียบว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน แต่ "ความเป็นผู้หญิง" ก็คงจะมีภาพที่แตกต่างกันไปในทุกยุคทุกสมัย ไม่มีภาพที่ตายตัว ผู้หญิงอย่างกรพินฑ์ก็คงจะมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย


ความเรียบร้อย ความเงียบขรึม ไม่แสดงออกซึ่งอารมณ์ใด ๆ หรือการเป็นผู้หญิงที่ไร้อารมณ์ของ
กรพินฑ์ มิใช่มาจากการเป็นนางเอกที่เรียบร้อยของเธอ แต่การไร้ซึ่งอารมณ์ดังกล่าวของเธอ ถูกอธิบายด้วยปูมหลังในอดีตกับการที่แม่ของเธอ ในภาพของผู้หญิงที่ดี เมียที่ดี แม่ที่ดี กลับ "ถูกกระทำ" โดยพ่อของเธอ ที่ไม่เป็นผู้ชายที่ดี ไม่เป็นผัวที่ดี ไม่เป็นพ่อที่ดี แม่ของเธอจึงถูกกระทำทางด้านจิตใจ จนทำให้ต้องกินยาฆ่าตัวตายในที่สุด ภาพการตายของแม่ จึงเป็นภาพที่ยังอยู่ในความทรงจำของกรพินฑ์ ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกกระทำทางด้านจิตใจจากชายผู้เป็นที่รัก แล้วจุดจบของผู้หญิง (ที่ดี) คนนี้คือจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ เป็นภาพที่กรพินฑ์เองไม่อยากเป็น


การไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ของเธอ ก็เนื่องด้วยเหตุผลของการกลัวว่าหากวันใดเธอรู้สึกเป็นขึ้นมา เธออาจจะต้อง "ถูกกระทำ" เหมือนดังเช่นแม่ของเธอ เธอจึงหนีการ "ถูกกระทำ" โดยการไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ต่อใคร หรือต่อเรื่องราวใด ๆ จนสุดท้ายพระเอกของเรา คุณโก้ ก็เป็นผู้ที่มาทำให้เธอรู้สึกเป็น และสัญญาว่าการรู้สึกเป็นของเธอครั้งนี้จะไม่ทำให้เธอเป็นผู้ถูกกระทำดังเช่นแม่ของเธอ เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ "ไม่กระทำ" ผู้หญิง ไม่เหมือนพ่อของเธอ (ในอดีต ) และไม่เหมือนอดีตคนรักของเธอกันตยศ ที่เป็นผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิง เป็นผู้ชายที่เป็น "ผู้กระทำ" และทำให้ผู้หญิงเป็น "ผู้ถูกระทำ"


ละครเรื่องนี้กำลังโยงใยประเด็น การหนีจากการเป็น "ผู้ถูกระทำ" ของนางเอก ด้วยการเปิดใจให้มีอารมณ์ความ รู้สึก เพราะการเป็นมนุษย์ไร้อารมณ์มิได้เป็นหนทางในการแก้ปัญหาการเป็นผู้ถูกกระทำแต่อย่างใด แต่การเปิดใจกับ "ผู้ชายที่ดี" ต่างหาก เป็นหนทางที่จะแก้ปัญหาการเป็นผู้ถูกกระทำของผู้หญิงที่ดีอย่างกรพินฑ์ได้ และแล้วเมื่อละครเรื่องนี้จบลง กรพินฑ์ได้แต่งงานกับโก้ และอาจจะคาดการณ์ต่อไปได้ว่า ชีวิตแต่งงานกับทั้งสองจะเป็นชีวิตที่สุขสมหวัง (ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะละครมันจบก่อน) ตามแบบฉบับของละครน้ำเน่าไทย (ส่วนมากนะคะ ) ชีวิตของกรพินฑ์ ก็อาจจะเรียกได้ว่า หนีพ้นจากการเป็นผู้ถูกกระทำเหมือนแม่ของเธอ


4


แต่ตามแบบฉบับของรุ้งรวีแล้ว เรื่องราวของละครมันไม่ธรรมดาแบบนั้นหรอกค่ะ แหม อะไรมันจะเป็นสูตรสำเร็จง่ายดายขนาดนั้น การที่จะบอกว่ากรพินฑ์เธอหลุดพ้นจากการเป็น "ผู้ถูกกระทำ" จากการที่ได้เป็นคู่รักของผู้ชายที่ดี ๆ อย่างโก้นั้น ผิดแล้วหล่ะค่ะ เพราะแท้จริงแล้วชีวิตผู้หญิงที่ดีอย่างกรพินฑ์กลับ "ถูกกระทำ" มาตลอด เพียงแต่อาจจะเป็นการกระทำด้วยความปรานีจนเธอ และเราเองลืมเห็นไปก็เท่านั้นเอง


การที่กรพินฑ์เป็นคู่หมั้นกับกันตยศ ซึ่งใคร ๆ (พ่อ และโก้ ) ก็รู้ว่ากันตยศเป็นผู้ชายที่ไม่ดี เป็นผู้ชายที่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง ปอกลอกผู้หญิง หากเธอแต่งงานไปกับกันตยศ เธอก็คงจะกลายเป็นผู้หญิงที่ "ถูกกระทำ" เหมือนอย่างแม่ของเธอแน่นอน พ่อของเธอจึงหาทางช่วยเหลือลูกสาวคนดีคนนี้ โดยการร่วมมือกับโก้ ผู้ชายที่พ่อของเธอเล็งเห็นแล้วว่าเป็นผู้ชายที่ดีพอ ที่จะไม่ทำให้เธอเป็นผู้ถูกกระทำ แต่พ่อของเธอ และโก้ก็ร่วมมือกันตั้งตนขึ้นเป็น "ผู้กระทำ" ซะเอง โดยเป็นการกระทำในการสร้างชีวิตที่ดีให้แก่ผู้หญิงที่ดีอย่างกรพินฑ์


การวางแผนการขององอาจผู้เป็นพ่อ ให้โก้เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูหัวใจของกรพินฑ์ ให้เป็นคนที่มีความรู้สึกเป็น ก็เนื่องด้วยเห็นว่า โก้เป็นผู้ชายที่จะไม่เป็น "ผู้กระทำ" และจะไม่ทำให้กรพินฑ์ ลูกสาวของตนตกเป็น "ผู้ถูกกระทำ" เพราะหากปล่อยให้กรพิณฑ์ไปแต่งงานกับกันตยศ กรพินฑ์จะต้องตกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน โดยที่แผนการนี้ โก้ไม่ได้รู้เรื่องด้วยแต่อย่างใด


 


แต่สิ่งหนึ่งที่โก้รู้ดี และเชื่ออย่างแน่วแน่คือ ผู้หญิงดี ๆ อย่างกรพินฑ์ไม่ควรที่จะตกล่องปล่องชิ้นกับผู้ชายเลว ๆ อย่างกันตยศ ไม่ควรที่จะตกเป็นผู้ถูกกระทำ โก้จึงอาสา (ด้วยความเต็มใจ) เข้ามาเพื่อที่จะช่วย "ปลดปล่อย" หรือชี้ทางที่ถูกที่ควรให้แก่ผู้หญิงที่ดีอย่างกรพินฑ์ โดยเสนอตัวเองเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เพราะตัวเองเป็นผู้ชายที่ดี ที่จะไม่เป็นผู้กระทำ และจะไม่ทำให้กรพินฑ์ตกเป็นผู้ถูกกระทำ


การร่วมมือกันระหว่างผู้ชายสองคน คือองอาจ กับโก้ ในการจัดแจงชีวิตที่ดี ให้กับผู้หญิงที่ดีอย่าง
กรพินฑ์ เพื่อที่จะไม่ให้เธอ ตกเป็นผู้ถูกกระทำ ดูเผินๆ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ถ้าดูกันลึกๆ แล้วชะตาชีวิตของผู้หญิงอย่างกรพินฑ์ ที่รอดพ้นจากการเป็น "ผู้ถูกกระทำ" (ในเชิงนัยยะหนึ่ง) แล้ว กับตกเป็นผู้ถูกกระทำในอีกนัยยะหนึ่ง โดยผู้ชายผู้ที่อยู่ในสถานะ "พ่อ" และ (อนาคต) "สามี" การถูกกระทำในแง่นี้ของผู้หญิงอย่างกรพินฑ์ จึงเป็นการถูกกระทำ อย่างเชือดนิ่มๆ อย่างปรานี โดยที่บางที เธอ (และผู้หญิงอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ) ก็อาจะไม่รู้ตัว


สิทธิในเนื้อตัว ร่างกาย การตัดสินใจ การเลือกชีวิต ของผู้หญิงที่ดี ๆ คนหนึ่งอย่างกรพินฑ์ จึงตกอยู่ภายใต้กรอบการคิด ของผู้ชายอย่างองอาจและโก้ ที่ได้ตั้งตัวเป็นผู้กระทำการเหนือชีวิตของกรพินฑ์ไปแล้วว่าอะไรดี อะไรงาม อะไรถูกอะไรผิด และอะไรที่เหมาะสมคู่ควรกับเธอ ในขณะที่เรา (คนดู) โล่งอก และพลอยดีอกดีใจไปกับเธอที่เธอสามารถรอดพ้นจากผู้ชายเลว ๆ อย่างกันตยศ ที่จะทำให้เธอตกเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ดิฉันเองกลับรู้สึกหดหูใจในชะตาชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกกระทำภายใต้สังคม และระบบความคิดของผู้ชาย ที่ไม่มีสิทธิในความเป็นเจ้าของในชีวิตตนเอง


ชีวิตของผู้หญิงอย่างกรพินฑ์จึงไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตา ที่ถูกจับโยนไปโยนมา เพื่อหาที่ทางที่จะวางจะตั้งอย่างไรที่ไหน ที่จะดูสวยงาม ถูกใจผู้ชายเวลาดูชม การใช้ชีวิตภายใต้กรอบที่ดีแล้วในสายตาของผู้ชายจึงกลายเป็นโลกทัศน์ที่กดทับ และกระทำต่อผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน โดยที่บางครั้งเอง เราก็ยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยซ้ำไป ว่าเราเองตกเป็นผู้ถูกกระทำตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะนิยามคำว่า ผู้หญิงที่ถูกกระทำในสังคมไทย จะเป็นนิยามที่อยู่ภายใต้ลักษณะของกันตยศเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรง แต่การที่พ่ออย่างองอาจ หรือสามี (ในอนาคต) อย่างโก้ เข้ามาตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตให้ผู้หญิงอย่างกรพินฑ์แล้ว กลับไม่สามารถนำคำนิยามว่าถูกกระทำมาใช้ได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะ การกระทำเยี่ยงนี้ เป็นการกระทำที่บวกรวมการสมยอมของเราเองอย่างไม่รู้ตัว


ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งอย่างกรพินฑ์ หรือคนอื่นๆ ภายใต้ลักษณะสังคมที่เฟมินิสต์เรียกว่าสังคมแบบผู้ชายเป็นใหญ่ (Patriarchy ) จึงเป็นระบบสังคมที่ทำให้ผู้หญิงถูกกระทำโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรืออาจจะเรียกได้ว่าสมยอมแบบไม่รู้ตัว กรอบหรือทางเลือกของผู้หญิงดีในสังคมชายเป็นใหญ่ จึงอยู่ภายใต้การกำหนดไว้แล้วโดยทัศนคติ ความเชื่อของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างการเดินเหิน ไปจนถึงการมีผัว อย่างกรพินฑ์ในเรื่องในเรือนใจนี้ การถูกกระทำของผู้หญิงภายใต้สังคมผู้ชายเป็นใหญ่ จึงไม่ใช่พียงแค่การถูกทำร้าย การถูกข่มขืน การถูกรอนสิทธิทางกฎหมาย (เพราะฉะนั้นการเรียกร้องสิทธิสตรี จึงไม่ใช่แค่ให้ผู้หญิงเป็นนายกใช่ไหมคะ ?)


แต่การถูกกระทำในด้านอื่น ๆ ที่แยบคายจนมองไม่เห็นยังมีอีกมายมาย และหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างก็แนบเนียนจนกลายเป็นขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีปฏิบัติของคนในสังคมส่วนใหญ่ไปแล้ว จนบางครั้งผู้หญิงเองก็เผอเรอ หรือบางครั้งก็กลืนตัวเองเข้าไปอยู่ในระบบความคิดชายเป็นใหญ่ซะเอง จนลืมตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าแท้จริงแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เราได้เลือกจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการสมยอมอย่างไม่รู้ตัวกันแน่


ดิฉันไม่ได้เรียกร้องให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาเรียกร้อง เปลี่ยนแปลง หรือเห็นด้วยกับดิฉันไปเสียทุกอย่าง หากใครมีความสุข และได้คิดแล้วว่าตนเองมีความสุขดีแล้วภายใต้ระบบที่ทำให้ตนเองต้องตกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างไม่รู้ตัว ก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ขอที่ยืนให้ผู้หญิงอีกหลาย ๆ คนที่พร้อมที่จะลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับบางเรื่อง และปลดปล่อยตัวเองจากระบบบางอย่าง โดยที่ผู้หญิงด้วยกันจะไม่มาตัดสินกันด้วยคุณค่าและระบบจากผู้ชาย เพราะเพียงแค่โดนเด้งเดียวก็เจ็บแล้ว แต่ต้องมาโดนสองเด้งจากพวกเดียวกันเองเนี่ย ช้ำไม่น้อยนะคะ คุณผู้หญิงทุก ๆ คนขา