วิวาห์ (สีรุ้ง) ใต้สมุทร
คอลัมน์/ชุมชน
ก่อนอื่นขอแจ้งข่าวเรื่องมาตรา 30 ในรัฐธรรมนูญค่ะ ครั้งนู้นเคยเขียนไปว่า ส.ส.ร. เห็นชอบให้ระบุในมาตรานี้ว่ามิให้มีการเลือกปฏิบัติในแง่ของอัตตลักษณ์ทางเพศ แต่แล้วเมื่อรัฐธรรมนูญถูกแจกให้ถึงหน้าประตูบ้าน หลายคนบอกว่า อ่านหลายรอบ เพ่งทุกตัวอักษรแล้วก็ยังไม่เห็นมีคำว่าอัตตลักษณ์ทางเพศเพิ่มขึ้นมาแต่อย่างใด
เรื่องนี้เป็นเรื่องพลิกผันอย่างไม่คาดฝันค่ะ เพราะหลังจาก ส.ส.ร.อภิปรายรับให้มีการเพิ่มคำว่าอัตตลักษณ์ทางเพศไปในมาตรา 30 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนแล้ว อยู่มาวันหนึ่งก็มี ส.ส.ร.ท่านหนึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าสภาเคยโหวตไม่รับเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน และตามหลักการเมื่อสภาโหวตไม่รับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะไม่มีการยกเรื่องนี้ขึ้นมาอภิปรายได้อีก ตกไปแล้วก็ตกไปเลย ไม่มีรีเทิร์น สรุปลงเอยก็คืออัตตลักษณ์ทางเพศไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ เอวัง...ด้วยประการละฉะนี้
ข่าวปลอบใจก็คือเรื่องนี้ก็ยังถูกบรรจุอยู่ในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ถ้ามีเรื่องมีราวที่ต้องฟ้องศาลรัฐธรรมนูญในกรณีการเลือกปฏิบัติ เรายังสามารถอ้างถึงเจตนารมณ์ตัวนี้ได้ค่ะ เจตนารมณ์นี้ไม่อยู่ในรัฐธรรมนูญเล่มเหลืองที่ได้กันทุกครัวเรือน ถ้ารัฐธรรมนูญนี้ผ่าน คงต้องช่วยกันบอกต่อๆ ไปถึงเจตนารมณ์ตัวนี้ คนที่ถูกเลือกปฏิบัติจะได้รู้ตัวว่าตัวเองมีสิทธิอย่างมีศักดิ์ศรีที่จะลุกขึ้นมาสู้ (ไม่ใช่เป็นดังที่ ส.ส.ร.ท่านหนึ่งกล่าวในสภาว่า เมื่อคนพวกนี้ลุกขึ้นมาพูดก็เป็นการประจานตัวเอง) และอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่จะไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่แล้ว เพราะจะได้ไม่ต้องเสียดายคำว่าอัตตลักษณ์ทางเพศ ล้มกลิ้งกันไปได้อย่างสบายใจ
มาถึงข่าวที่น่าชื่นอกชื่นใจดีกว่าค่ะ ในที่สุด งานวาเลนไทน์ปีหน้า ชาวสีรุ้งทั้งหลายไม่ต้องนั่งหน้าตูบดูการแต่งงานของชาวบ้านเขาฝ่ายเดียวแล้ว เพราะทางสมาคมการท่องเที่ยวและหอการค้าจังหวัดตรัง เปิดไฟเขียวให้คู่รักเพศเดียวกัน หรือสาวทีจีกับคนรัก ควงคู่กันดำดิ่งลงไปแต่งงานใต้ท้องทะเลพร้อม ๆ กับคู่รักต่างเพศได้แล้ว แม้เราจะไม่ได้จดทะเบียนอย่างคู่ต่างเพศ แต่เราจะได้ใบประกาศรับรองจากทางสมาคมการท่องเที่ยวและหอการค้าจังหวัดตรังว่าเราได้แต่งงานกันแล้วแน่นอน โดยมีฝูงปลาทะเลเป็นพยาน
ผู้ผลักดันให้งานนี้เกิดขึ้นได้ก็คือ คุณณัชชา วรธนวณิช หรือพี่นัท เวบมาสเตอร์สาวอีสานดอทคอม เว็บไซต์ฮิตของทอมดี้อีสาน เมื่อสองเดือนก่อน ฉันได้ไปนั่งคุยกับพี่นัทในร้านส้มตำแถวประตูน้ำ ตอนนั้นพี่นัทเพิ่งจะเปิดตัว Happy People Tour บริษัททัวร์สำหรับชาว LGBT ที่มีเป้าหมายให้พวกเราได้มารู้จักกันและท่องเที่ยวพักผ่อนโดยเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่
วันนั้น พี่นัทเล่าเรื่องทัวร์โดยมีเสียงตำส้มตำเป็นแบกกราวน์ว่า ที่มาทำทัวร์นี้ก็เพราะเมื่อปีที่แล้วได้ไปร่วมงานไพรด์และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่น ๆ ได้เห็นทั้งปัญหาและได้เพื่อนกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้อยากทำกิจกรรมที่ให้ชาว LGBT ทั้งหมดได้มาพบปะเป็นเพื่อนกัน ตัวพี่นัทเองทำงานในสายท่องเที่ยวมานาน เลยมีความคิดว่าน่าจะใช้ทัวร์เป็นสื่อกลางของการพบปะกัน เพราะแม้ว่าปัจจุบันเรามีทัวร์ของเกย์อยู่บ้าง แต่สำหรับกลุ่มอื่น ๆ อย่างหญิงรักหญิง หรือทีจีนั้นยังไม่มีใครทำ เลยคิดว่าทัวร์นี้น่าจะตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ โดยในช่วงแรกจะเน้นการท่องเที่ยวทะเลแถบฝั่งอันดามัน เพราะพี่นัทเองถึงจะทำเว็บสาวอีสาน แต่จริง ๆ แล้วบ้านอยู่ที่ตรัง จึงมีคอนเนคชั่นอยู่แถวนั้นมาก หากเส้นทางแถบนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะขยายเส้นทางไปทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคกลาง
ฉันตื่นเต้นไปกับทัวร์ของพี่นัทด้วย เพราะเคยเจอค่ะ เวลาซื้อทัวร์ไปเที่ยวกับแฟน จะไปสวีทกันต่อหน้าคนอื่น ๆ ก็ยังขัด ๆ เขิน ๆ เดี๋ยวเจอพวกโฮโมโฟเบียขึ้นมา ชีวิตอาจตกอยู่ในอันตราย หรือเวลาไปเที่ยวกันเอง รีเซพ ชั่นโรงแรมมักจะถามว่า "จะเอาเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่" ต้องกลั้นใจตอบทุกทีค่ะว่าเอาเตียงเดียวกันนี่แหละ เพื่อนบางคนไม่กล้าบอกก็จะได้สองเตียงแยกกันนอน พอตกดึกค่อยดันเตียงเข้ามาชิดกัน แก้ขัดไปได้ แต่ยังไง ๆ ก็นอนไม่สบายค่ะ เพราะตรงกลางมันจะมีร่อง ส่วนฝ่ายทีจีนั้นอาจจะเจอหนักกว่า เพราะบางโรงแรมตั้งป้ายไว้เลยว่า "ที่นี่ไม่ต้อนรับกะเทย" เลือกปฏิบัติกันอย่างเห็น ๆ แทนที่สาว ๆ เขาจะได้ไปพักผ่อน เลยกลับหงุดหงิดยิ่งกว่าเจอรถติดในเมือง
ถ้าไปกับพวกเรากันเองก็ตัดปัญหาตรงนี้ไปได้เลย พี่นัทเองประสานงานกับรีสอร์ทที่ทัวร์ไปลงไว้เรียบร้อย พนักงานทุกคนจะเข้าใจและต้อนรับเราอย่างดี ไม่มีการเลือกปฏิบัติแน่นอน แล้วไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเพื่อน เพราะพี่นัทจัดกิจกรรมสนุก ๆ ให้เราได้รู้จักกันไว้อย่างเพียบพร้อม รวมทั้งมีกิจกรรมที่ทำให้เราได้ค้นหาตัวเอง สร้างความมั่นใจ และพัฒนาบุคลิกภาพอีกต่างหาก รับรองว่าไปแล้วได้เพื่อนหรืออาจได้มากกว่าเพื่อน
วันนั้นพี่นัทบอกฉันว่า ที่ลงมาทำทัวร์นี้ไม่ได้มีเป้าหมายหลักเป็นธุรกิจ แต่อยากให้เป็นการผลักดันให้สังคมยอมรับพวกเรามากขึ้นด้วย งานหนึ่งที่พี่นัทฝันอยากทำคืองานวิวาห์สีรุ้งใต้สมุทร ซึ่งน่าจะมีส่วนผลักดันให้เรามีกฎหมายแต่งงานของคนเพศเดียวกัน
และแล้วอีกแค่สองเดือนถัดมา ฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่นัทว่าฝันนี้เป็นจริงแล้ว ทั้งสมาคมการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดตรัง รวมทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตกลงให้คู่รักสีรุ้งทั้งหลายเข้าร่วมงานวิวาห์ใต้สมุทร ซึ่งจังหวัดตรังจัดอยู่เป็นประจำทุกปีในช่วงวันที่ 13 15 กุมภาพันธ์
ส่วน Happy People Tour จะเป็นผู้ประสานงาน ให้ข้อมูลและต้อนรับกลุ่มสีรุ้ง ก่อนงานถ้าใครดำน้ำไม่เป็น สามารถไปก่อนสองวัน Happy People Tour มีคอร์สสอนทั้งว่ายน้ำและดำน้ำให้ และหลังงานวิวาห์ใต้สมุทรทางทัวร์จะจัดฮันนีมูนปาร์ตี้สำหรับกลุ่มเราโดยเฉพาะ ฉลองกันให้เต็มที่ไปเลย
งานวิวาห์ใต้สมุทรนี้น่าจะเป็นการทำให้สังคมได้หันมาคิดหันมามองเรื่องการแต่งงานของคนเพศเดียวกันหรือของคนแปลงเพศมากขึ้น และการขับเคลื่อนทางสังคมเช่นนี้เอง ที่จะนำไปสู่การออกกฎหมายแต่งงานในอนาคต เรื่องอย่างนี้เราไม่สามารถรอให้คนต่างเพศที่อยู่ในสภามาออกกฎหมายให้เรา แต่ต้องเป็นพวกเราเองนี่ล่ะค่ะ ที่ลุกขึ้นมาผลัก มาดัน มาพูด มาคุย มาอธิบาย มาทำให้คนอื่นเปิดใจเข้าใจ
พี่นัทเองยังมีฝันอีกมากค่ะ มีอีกหลายโปรเจ็คที่อยากทำ เพื่อให้พวกเราได้มีที่มีทาง ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ และทุกงานที่จะทำนั้น พี่นัทเน้นแล้วเน้นอีกว่า จะเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เน้นความขาวสะอาดเช่นเดียวกับที่สาวอีสานเน้นตลอดมา ติดตามดูความคืบหน้าให้ดีนะคะ สาวหล่อคนนี้ทำอะไรทำจริงแน่นอน
ใครอยากทราบรายละเอียดงานวิวาห์ใต้สมุทร เข้าไปดูได้ที่ www.happypeopletour.com ใครพร้อมจะแต่งปีหน้า จองที่กับพี่นัทได้เลย หรืออยากจะไปพบพี่นัทตัวจริง อย่าลืมไปงานแถลงข่าววิวาห์ใต้สมุทรของกลุ่ม LGBT ที่ร้าน Shela หลังสวน วันพฤหัสที่ 23 สิงหาคม 2550 งานนี้พี่นัทจะแบกหมูย่างและเค้กตรังมาเลี้ยงเต็มที่
ส่วนถ้าใครสนใจจะไปเที่ยวกับทัวร์สีรุ้ง เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์เดียวกัน ล่าสุดมีแพกเกจ "Where are you? คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน" งานนี้เปิดโอกาสให้สาวโสดได้มาพบปะเพื่อนใหม่ที่อาจจะเปลี่ยนจากคนรู้จัก มาเป็นคนรักที่รู้ใจ