Skip to main content

In Pai ..ลุงสมชาย (2)

คอลัมน์/ชุมชน

บนถนนนอกตัวเมือง (เส้น) ปาย-เชียงใหม่เรียบเรื่อยไปตามสันเขา สองข้างทางยามเย็นเขียวครึ้มและสดอิ่ม แสงแดดฤดูฝนสาดลำทำมุมเฉียงๆ ลงบนราบเหลี่ยมนาขั้นบันไดและเหนือขุนเขาโอบอ้อมเป็นทิวซับซ้อน

...
ผมกับยาดาจะไปกองแลน ปาย แคนยอน...

7
กิโลเมตร จากตัวเมืองปายถึงกองแลน ถนนแทบว่างรถ เราหักหัวฮอนด้า เวฟ จอดสนิทหน้าศาลาทางขึ้น ลุงสมชายยิ้มรับ แกเป็นคนขายน้ำ ทั้งมะพร้าวอ่อนเป็นลูกๆ และน้ำอัดลมบรรจุขวด เราอุดหนุนมะพร้าวอ่อนของแกหนึ่งลูก (20 บาท)

ทางขึ้นกองแลนเป็นทางดินขนาดเดินคนเดียว ชันพอเหนื่อย นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่งเลี้ยวมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดหน้าศาลา หลังจากที่เราเดินขึ้นไปถึงกึ่งกลางทาง

กองแลน คือ ภูเขาดินที่ยุบตัวเป็นแนวเหวลึก คล้ายๆ กับเรายืนอยู่บนดาดฟ้าตึกชั้นที่ 10 แล้วมองลงมาข้างล่างซึ่งมีทั้งไม้ยืนต้น ทั้งไม้เลื้อยสลับสล้าง ยุบตัวแยกเป็นสองทาง สูงชันเป็นปากปล่องขนาดเท่าๆ กัน ขอบทางซ้ายทอดตัวยาวเล็กแคบเว้าแหว่งอย่างน่าอัศจรรย์

สวยงามแต่น่าครั่นคร้ามอยู่ในที

สนสามใบสองต้นเสียดตัวสูงปรี๊ดขึ้นไปบนอากาศระหว่างหุบทั้งสอง พระอาทิตย์ลับหลังขุนเขาชวนให้บรรยากาศยิ่งเย็นยะเยือก นักท่องเที่ยวประปราย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จับกลุ่มถ่ายรูปและพูดคุยกันเสียงดังช่วยให้เราอุ่นใจขึ้นสักนิด

หลังจากถ่ายรูปและชื่นชมความงามจนหนำใจ เราตัดสินใจกลับ เมื่ออาทิตย์กำลังลาลับ


...

ลุงสมชายยังอยู่ที่ศาลา แกกำลังเก็บข้าวของกลับบ้าน
"เป็นไง สวยไม๊" แกทักทาย เรายิ้มให้เป็นคำตอบ

อากาศเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ...ผมควานหากุญแจรถ มันไม่อยู่ในกระเป๋า เมื่อแน่ใจว่าต้องตกหล่นแน่แล้ว ลุงสมชายแนะนำว่าให้กลับขึ้นไปบนกองแลนใหม่ หากมีคนเก็บได้เขามักจะแขวนเอาไว้ตามกิ่งไม้ เคยมีสองสามรายที่กุญแจรถหาย ทุกคนล้วนได้คืน แกว่า

เราเดินกลับขึ้นกองแลนอีกครั้งด้วยใจว้าวุ่น เงาตะคุ่มๆ ของต้นไม้ทำให้ความหวังของเราเลือนรางลงไปในความมืดที่เริ่มเข้มข้น

ลุงสมชายโผล่มาจากทางเดิน พูดเสียงดังให้เราลองค้นหาตามกิ่งไม้และถามว่าเราไปยืนอยู่ตรงจุดไหนบ้าง จนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ยังอยู่บนกองแลนเข้ามาถามไถ่และช่วยกันค้นหากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวร้อยติดกับแผ่นหนังสีดำสนิท

หมดหวัง ไม่มีใครบนนั้นเห็นกุญแจหรือเก็บแขวนเอาไว้ตามกิ่งไม้อย่างที่ลุงสมชายบอก เราเดินกลับลงมาที่ศาลาอย่างคนที่พยายามคิดหาทางออก ด้วยการโทรให้เพื่อนของเราอีก 2 คน ที่รออยู่ในเมืองไปเอากุญแจสำรองที่ร้านเช่ารถแล้วขับเอามาให้เราที่กองแลน

"
ลุง กลับบ้านไปก่อนก็ได้นะครับ" ผมบอกอย่างเกรงใจ
"ไม่เป็นไร มืดๆ ค่ำ อย่างนี้น่ากลัว เด็กๆ วัยรุ่นแถวนี้ไม่น่าเสี่ยงด้วย ยิ่งคืนนี้เป็นคืนก่อนเข้าพรรษา คนจะทิ้งท้ายกันเต็มที่" น้ำเสียงลุงติดตลกเล็กๆ 

คืนสุดท้ายก่อนจะงดเหล้าเข้าพรรษา
"กองแลนแปลว่าอะไรลุง" เมื่อเห็นว่าลุงคงรอเป็นเพื่อนแน่ๆ แล้ว ผมจึงชวนคุย
"กองเป็นคำไทยใหญ่แปลว่า เยอะแยะมากมาย แลน คือ ตะกวด ตะก่อนบนภูนี้เต็มไปด้วยตัวตะกวด" ลุงเน้นให้เห็นที่มาของชื่อ
"เดี๋ยวนี้ไม่เหลือ" เราหัวเราะพร้อมกัน

…

"
ลุงเป็นคนที่นี่หรือคะ" ยาดาถามบ้าง
"เปล่า เป็นคนเชียงใหม่แต่มาได้แฟนที่นี่" ลุงยกแขนชี้นิ้วกลับไปบนถนน บอกว่า บ้านอยู่ตรงสามแยกนี่เอง หากรถไม่ติดล็อกจะให้เข็นรถไปรอที่บ้าน
"
รอที่นี่มันอันตราย" ลุงย้ำคำ

เสียงโทรศัพท์ดัง ภรรยาลุงโทรมาตาม ทำไมยังไม่กลับ ลุงสมชายอธิบายหลายคำ
"แล้วลุงทำงานอะไร" ยาดาถามต่อ
"ทำไปเรื่อย" แกยั้งคำในน้ำเสียง
"เคยเป็นไกด์ขับรถพาฝรั่งไปเที่ยว ไม่รู้ว่ามันไปซื้อผง (เฮโรอีน) ถูกค้นตรงด่านตรวจ ผมถูกจับขัง 25 ปี" ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเพราะลุงสมชายไม่รับสารภาพ ส่วนฝรั่งรับสารภาพเหลือจำคุก 35 ปี


ลุงสมชายสู้ต่อ อุทธรณ์และฎีกา จนได้ลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี ศาลไม่เชื่อว่าลุงสมชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แกว่าเหตุผลหนึ่งอาจเพราะแกเป็นไกด์ผี
"จะให้ผมรับได้ยังไง ผมไม่รู้เรื่อง" ลุงแกว่า
นอนคุก 25 ปี เพิ่งออกมาได้สองปี ชีวิตหายไปครึ่ง


ภรรยาลุงขี่มอเตอร์ไซค์มาที่ศาลาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนลุง..และเป็นเพื่อนเรา
ท้องฟ้าหน้าฝนมืดสนิท เสาไฟริมถนนดูสลัวๆ มัวๆ เด็กวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์สองคันผ่านศาลาพร้อมเป่าปากและตะโกนเสียงดังตามความคึกคะนองในคืนส่งท้ายเข้าพรรษา
โล่งอก เพื่อนของเรามาถึงแล้ว ทุกคนขอบคุณลุงและป้าที่อยู่เป็นเพื่อนจนนาทีสุดท้าย

รุ่งเช้า ผมกับยาดาซื้อน้ำเต้าหู้และโรตี 2 แผ่น ไปฝากลุงสมชาย

...

ในวันกลับเรานั่งบัสเล็กออกจากปายสู่เมืองเชียงใหม่ รถวิ่งผ่านกองแลน ผมชะโงกหน้าผ่านหน้าต่างมองเห็นลุงสมชายอยู่ในศาลา เพียงเสี้ยวนาทีที่รถวิ่งผ่าน ยาดาโบกมืออำลาลุงสมชาย
ยาดาบอกว่า ลุงสมชายเห็นเราด้วย แกโบกมือให้

ไม่ว่าแท้จริงสิ่งที่ลุงเล่าจะเป็นอย่างไร เราทุกคนมีภาพลุงเอาไว้ในใจเสมอ
ลุงสมชาย ...


ขอบคุณยาดา
ปะติดปะต่อเรื่อง




 จากมุมสูงบนวัดพระธาตุแม่เย็น ปาย เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาโอบล้อมจะมองเห็นตึกสูง
เกสต์เฮาส์และรีสอร์ทผุดขึ้นต้อนรับไฮ ซีซั่น ที่กำลังจะมาถึงในฤดูหนาวนี้


 ร้าน Coffee in Love ระหว่างทางบนถนนสายเชียงใหม่-ปาย
โดดเด่นเพราะปลูกต้นไม้บนหลังคาและหลังฉากเป็นทิวเขาซับซ้อน






 


กองแลนในมุมต่างๆ และสนสามใบสองต้นที่ลุงสมชายบอกว่า
"ขึ้นไปจะเห็นต้นสนสองต้น คนเค้าชอบมาดูพระอาทิตย์ตกดินกัน"


 สองหนุ่มน้อย เค้าเป็นคนปายนี่แหละแต่กลับมาเยี่ยมบ้านในวันเข้าพรรษา


 นาขั้นบันได มนต์เสน่ห์ของปายที่พบเห็นได้ทั่วไปในสองข้างทาง


 ข้าวขจีกลางผืนนา ต้นฤดูฝน ชูต้นอ่อนสลอนรอระบัดใบเต็มวัยในช่วงย่างหนาว