Skip to main content

In Pai .. เผ่าพันธุ์ปาย (3)

คอลัมน์/ชุมชน

ชายหนุ่ม ไว้หนวดเครารุงรัง ผมยาวสยายฟั่นเป็นเกลียวเหมือนขดเชือก …
หญิงสาว สักหลังไหล่ เจาะจมูก ผมยาวสยายฟั่นเป็นเกลียวเหมือนขดเชือก …
แววตาอ่อนไหว เดินไปเดินมา มองตรงไปข้างหน้า ไม่วอกแวกหรือสะทกสะท้าน ริมฝีปากเรียบเม้มเป็นเส้นตรง ต่างหูพวงเงินหรือหินย้อยยาวจากไรผมถึงต้นคอ

สำหรับบางคน คนเหล่านี้ดูเหมือนจะไร้อนาคต ..

"Rasta" คือ คำที่ใช้เรียก กลุ่มคนที่หลงใหลในลัทธิ Rastafarianism
Rastafari คือ ลัทธิและปรัชญาความเชื่อหนึ่ง ที่มีองค์จักรพรรดิไฮลี เซลาซซี (Haile Selassie) แห่งเอธิโอเปีย เป็นองค์ศาสดา ลัทธินี้มีต้นกำเนิดจากประเทศจาไมกา ยุค1930 ในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวไร่ ชาวนาและคนผิวดำ ผู้ที่นับถือมีความเชื่อว่า จักรพรรดิไฮลี เซลาซซี แห่งเอธิโอเปีย คือ พระเจ้าที่จุติมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อปลดปล่อยคนแอฟริกันผิวดำจากความเป็นทาสและนำพวกเขาไปสู่สังคมอุดมธรรม

Rasta
หรือผู้ที่หลงใหลดนตรีเรกเก้ใช้สีเขียวแดงเหลืองเป็นส่วนประกอบของเครื่องแต่งกาย เนื่องจาก เป็นสีของธงชาติประเทศเอธิโอเปีย ลัทธิและปรัชญาความเชื่อแบบ Rastafari ได้แพร่หลายไปหลายๆ ที่ในโลกโดยผ่านเพลงเรกเก้ของ Bob Marley

ต่อมาปี 1970-1980 Rastafari มีอิทธิพลต่อนักดนตรีแนวเรกเก้เป็นจำนวนมาก นอกจาก สัญลักษณ์สีธงชาติของเอธิโอเปียแล้ว ทรงผมถัก dread-lock และกัญชา กลายเป็นจุดเด่นหนึ่ง

เชื่อกันว่า ความยาวของ dreadlock เป็นสิ่งที่ชี้วัดความเจนจัด ความปราดเปรื่องและมากด้วยความรู้ บอกถึงระยะเวลาของ Rastaman คนนั้นที่ได้หันมานับถือลัทธินี้
บ้างก็ว่า คล้ายสิงโตที่แสดงถึงอำนาจและพลังอันแข็งแกร่ง...

คนเหล่านี้มีความพยายามที่จะให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฏหมาย ต่อต้านระบบทุนนิยม เหยียดสีผิวไปจนถึงการวิพากษ์วิจารณ์ระบอบการเมือง ส่งเสริมสันติภาพและต่อต้านสงคราม

ข้อมูล http://www.oknation.net/blog/nuthatai99/2007/01/21/entry-

..

หมู่บ้านจันทรา (Moon village) เป็นหมู่บ้านของคนญี่ปุ่น อยู่นอกตัวเมืองปายออกไปราวๆ 1 กิโลเมตร ใกล้กับพระธาตุแม่เย็น พี่กบ เจ้าของบ้านปายนา ที่พักราคาแบ็กแพ็กเกอร์ เล่าว่า คนแห่งหมู่บ้านจันทราเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านแห่งนี้มา 3 ปีแล้ว

หมู่บ้านจันทราตั้งอยู่บนเนื้อดินที่ไม่ควรจะมากกว่า 3 ไร่ บนนั้นมีแปลงผักสวนครัวหลายแปลง กระท่อมที่พักมุงตองตึงมากกว่า 5 หลัง บนลานกว้างอาคารอเนกประสงค์ยกใต้ถุนสูงถูกจัดขึ้นเป็นเวทีส่วนรวมสำหรับให้สมาชิกได้มาร่วมกันประกอบกิจกรรม

คืนเดือนเพ็ญ มีบทเพลง

แสงจากตะเกียงน้ำมันที่ทำขึ้นเป็นทางยาวเข้าสู่อาคาร โต๊ะอาหารมังสวิรัติทางด้านขวารอคนไปซื้อ ฟ้ามืด พระจันทร์ลอยเด่นเหนือลานส่องสว่างนวล

บนอาคาร สมาชิกหมู่บ้านจันทราพร้อมเพรียง แขกอย่างพวกเรายืนสังเกตุการณ์อยู่รอบนอก พิณและกีตาร์เป็นเครื่องดนตรีหลักพร้อมกับบองโกคอยคุมจังหวะ

เสียงดนตรีบรรเลงและบทเพลงแห่งคืนเพ็ญ เริ่มต้น สมาชิกทุกคนเสมือนอยู่ในอาการถูกสะกดด้วยความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกแห่งธรรมชาติ

โลกของ Rasta โลกแห่งสังคมอุดมธรรม

บางคนหมุนกระบองไฟ บางคนหมุนเกลียวเชือกกลม ร้องเพลง บรรเลงกีตาร์และจับกลุ่มยืนคุยอย่างเพลิดเพลินอยู่บนลาน หญิงสาวหุ่นเพรียวบางออกร่ายรำประกอบเสียงเพลง บิดโค้งตัวเล่นกับไฟราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

ผู้ชายทุกคนอ้าปากค้าง ...
ผมอ้าปากค้าง ...
เปล่าครับ กลัวไฟจะไหม้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของเธอ
...

"ใช่ เขาอาจจะใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่เอาเข้าจริงๆ วิถีชีวิตแบบนี้ไม่ได้สะท้อนอะไรลึกซึ้ง หากเขาจะเรียกตัวเองว่า นักบวช ในแนว Rasta" ยาดาออกความเห็น

"การร้องเพลงอาจทำให้พวกเขาเกิดจุดร่วมทางสังคม แต่มันก็เท่านั้น กิน ขี้ ปี้ นอน เหมือนกัน" เพื่อนจากนิตยสารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่าความคิดของเธอบ้าง

"แต่อย่างน้อยการที่เค้ามาใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ เท่ากับ พวกเขาปฎิเสธระบบสังคมนะ" ผมว่าความคิดของผมบ้าง

"..." เพื่อนช่างภาพหนังสือพิมพ์ ผงกหัว ทำตาปรือๆ ก่อนเปิดเบียร์ขวดต่อมา

อย่างน้อย เราทั้งหมดชื่นชอบบทเพลงคืนเพ็ญของพวกเขา



ร้านขายสินค้า reggae ในปายมีให้เห็นดาษดื่น



ผู้ก่อตั้ง moon village ผมไม่ได้พูดคุยกับแก แต่เราเรียกแกว่า ผู้ใหญ่บ้าน







การบรรเลงเพลงในคืนเพ็ญของมวลสมาชิก moon village



พี่แดง คาวบอย ผมถามแกว่า แต่งตัวอย่างพี่เรียกว่าอะไร แกบอกว่า "ไม่รู้สิ Rasta มั้ง"



Rasta DOG ขำๆ นะครับ ผมเจอน้องหมาในเช้าวันหนึ่ง เค้าหันมามองผม ทำตาปรืออ่อนไหวๆ เหมือนกับจะบอกว่า "ผมก็เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ปายเหมือนกัน" Ei Ei