Skip to main content

คิดยังไงกับการมีลูกบุญธรรมของเกย์ (Adopted Child for Gay)

คอลัมน์/ชุมชน

เป็นแฟชั่น ค่านิยม หรือเหตุผลส่วนบุคคลที่ดาราฮอลลี่วู๊ดหลายคนนำเด็กจากทั่วทุกมุมโลกมาเลี้ยงเอาเมี่ยงมาอมเป็นบุตรบุญธรรม ผู้อุปการะหากมีความพร้อมที่จะเป็นพ่อหรือแม่ยังพอรับได้ แต่ถ้าเป็นเกย์ทั้งคู่แล้วนำเด็กมาเลี้ยงดูปูเสื่อ "ลูกบุญธรรม" คุณคิดเห็นเช่นไร

วันก่อนชาน่าไปเดินเล่น ชิลล์ ๆ ที่เมือง Monte Carlo ประเทศ Monaco ดินแดนที่หลายคนยกนิ้วให้ว่าเป็นบริเวณ French Riviera สำหรับคนมีกะตังค์ พวกไฮไซ เซเล็บ เค้านิยมไปใช้ชีวิตหรือพักร้อนที่นั่น


ในขณะที่นั่งฟังเพลง จิบน้ำผลไม้ยามเช้าในร้านคาเฟ่เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในยามสาย สายตาของอิชั้นเหลือบไปเห็นคู่เกย์ (ดูออกค่ะว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ร้อยเมตรพันเมตร ประเภทเกย์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้อยู่กระทรวง ทบวง กรมยัดเยียนคนอื่นให้เป็นเกย์นะคะ) คู่เกย์เดินคลอเคลียกันอย่างมีความสุข พร้อมกับรถเข็น ซึ่งมีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ น่ารักน่าชัง นอนไร้เดียงสา ทำตาปริบ ๆ ความต้องการตอนนั้นอยากจะปรี่ รี่เข้าไปถามเสียเหลือเกินว่า "เป็นลูกบุญธรรมของคุณเหรอ" แต่ก็หามีความกล้าในเรื่องเป็นสอเสือใส่เกือกไม่ ดูไม่งามค่ะ


นั่งครุ่นคิด พิจารณาถึงความน่าจะเป็นอยู่นาน กว่าจะฟันธงว่า คู่เกย์นี้เค้าต้องนำลูกเล็กเด็กแดง มาเลี้ยงแน่ ๆ เลย



"โอ้พระเจ้าจอร์จ กล้วยทอด ปลาแดก อกอีแป้นจะแตกหัวใจจะวาย หง๋ายเงิบเป็นชิ้น ๆ ถ้าเด็กโตขึ้นเค้าจะเป็นยังไงเนี่ย" บ่นพึมพำอยู่คนเดียวในใจ เนี่ยขนาดชาน่าทำงานประจำเป็นนางแบก รับงานทุกวัน เดินแบก (บริการอาหารบนเรือสำราญ ขอย้ำอีกสักครั้งว่าพิมพ์ไม่ผิดค่ะ) ไม่ซ้ำสถานที่ในแต่ละวัน หลากหลายประเทศ ยั้งอุตส่าห์อุตริหาเวลาว่างไปคิดโน่น คิดนี่แทนชาวบ้านเค้าอยู่เรื่อยเลยเรา


ไม่ให้คิดซักนิดส์ส์...ได้ยังไงละคะ ส่วนตัวชาน่าเป็นเกย์ที่ตกลงปลงใจว่าจะไม่หนีไปแอ๊บแมนหาคู่ (ชะนี) เพื่อทำลูกโดยเด็ดขาด ต่อให้ไม่มีลูกทั้งชาติก็ยอมค่ะ


มันเป็นเรื่องที่ดีหากแก่ชรา อายุเหลือน้อยลงจะได้มีคนมาปรนนิบัติ ดูแล แม้เค้าจะเป็นลูกบุญธรรมที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ถึงแม้บางคู่ ชายจริงหญิงแท้จะมีลูกจริง ๆ แล้วแต่เค้าก็ยังปรารถนาที่จะนำลูกบุญธรรมมาชุบเลี้ยงอย่างเช่น เม็กไรอัน รับเดซี มาจากจีน มาดอนน่า รับเดวิด มาจากมาลาวี ชารอน สโตน รับ ควินน์ เด็กทารกเกิดใหม่ แองเจลิน่า โจลี่ และแบรดพิท รับน้องหนูหลายคนมาเลี้ยง แต่นั่นก็ต่างกรณีกับคู่เกย์ หากจะมองไป ถึงอนาคต ของเด็กเหล่านี้พวกเค้าจะรู้สึกเช่นไร


"มันเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะตัวเองก็สับสนหลากหลายทางเพศแล้ว อย่าเอาเด็กมาชุบเลี้ยงให้เค้าเป็นปมด้อยเลยดีกว่า ต่อให้เป็นเด็กเพศชายหรือหญิงก็ตาม" Godwin เพื่อนร่วมงานชาวอินเดีย กล่าว


"สำหรับฉัน คิดว่า..เดี๊ยวนี้โลกมันเปลี่ยนไป เราควรจะบอกให้เด็กรู้ว่า หนูน่ะไม่ได้เป็นลูกจริง ๆ ของพ่อกับพ่อ แต่พ่อก็รักและให้ความอบอุ่นหนูตลอดนะ ประมาณนั้น บอกความจริงให้เค้ารู้ เค้าต้องเข้าใจสักวัน" ร๊อดโต้ เพื่อนสาวสไตลิสต์กล่าว


"ผมว่าเด็กโตขึ้นต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน ไหนจะโดนเพื่อนล้อ ทำให้เค้ามีปมด้อย ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ" Philippe หนุ่มน้อยหน้ามลคนโปรตุเกตุออกความคิดเห็น


"คำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือเค้าเป็นใครมาจากไหน เด็กจะเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก เพราะธรรมชาติเด็กต้องการพ่อและแม่ที่แตกต่าง ทำไมวันหนึ่งเค้าต้องอยู่กับพ่อสองคน หรือใครเป็นพ่อเป็นแม่ แต่ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับการได้รับความเอาใจใส่ดูแล น่าคิดอยู่เหมือนกัน" Minas เพื่อนร่วมงานชาวฟิลิปปินส์กล่าว


"เด็กเป็นคน มีชีวิตและจิตใจ พวกเค้าไม่ใช่ของเล่น และก็ไม่ได้เป็นเหมือน้องหมา ที่จะชักจูงไปไหนก็ได้ ไม่ต้องอายสังคม ไม่จำเป็นต้องเรียกใครเป็นพ่อหรือแม่ ไม่มีเพื่อนมาล้อเลียน" Katia เพื่อนชะนี ชาวเม็กซิกันบอก


"ขึ้นอยู่กับสังคม สิ่งแวดล้อมในแต่ละประเทศ ว่าจะเปิดกว้างหรือไม่ ถ้าเป็นยุโรปและอเมริกาถือว่าเป็นเรื่องปกติ พวกเค้าสามารถทำได้โดยไม่แคร์ใคร แต่ถ้าเป็นเอเซีย อย่างเมืองไทย คร้านจะเป็นขี้ปากชาวบ้าน" หรั่งหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันกล่าว



ต่างคนต่างความคิดเห็นนะคะ ถ้าถามชาน่า จะกล้าตอบได้เลยว่า "คงจะใช้ความพยายามในการดูแลพวกเค้าทั้งทางกายและจิตใจเป็นอย่างมากค่ะ" เพราะเด็กมีชีวิต จิตใจ และความรู้สึก พวกเค้าพูดได้ไม่เหมือนน้องหมา หรือน้องแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงน่ารัก โดยไม่ต้องสนใจความรู้สึกของคน สังคมรอบข้าง ขนาดลูกมีพ่อแม่อย่างสมบูรณ์อบอุ่นเด็กหลายคนโตขึ้นมายังทำตัวมีปัญหาเลย แล้วนับประสาอะไรกับครอบครัวที่สับสนอย่างชีวิตที่ออกแบบไม่ได้ของเกย์หละคะ


บ่อยครั้งที่เจอกับคำถามจากหลายคนถามว่า เป็นเกย์ไม่มีลูกแล้วตอนแก่ชราภาพจะมีใครเลี้ยง แหม... มีลูก (พี่สาว) เต็มบ้านหลานเต็มเมือง ให้คุณหลานเลี้ยงน้าสักคนไม่ได้เชียวหรือ น้าก็คงจะอยู่ในโลกนี้ไม่นานจีรังยั่งยืน หรือยื้อ รั้งความตายกับความชราภาพได้ หากวันหนึ่งวันใดที่พร้อมจะจากไป ก็ขอไปอย่างสงบดีกว่าค่ะ


แล้วคุณหละคะ คิดเห็นเช่นไรกับหัวข้อนี้ ลองคิดเป็นการบ้านเล่น ๆ ก่อนที่เราจะเจอกันคอลัมน์หน้า พร้อมกับการเดินทางกลับมาสู่มาตภูมิ มีเรื่องเม้าท์แตกอีกเยอะเลยค่ะ


ปล.ภาพประกอบจาก MSN - Celebs Photo Gallery และ ชาน่า คืนหนึ่งในเวนิส