Skip to main content

เฝ้าไข้ข้างเตียงพ่อ (1)

คอลัมน์/ชุมชน

ทันทีที่เห็นหน้าพ่อนอนอยู่บนเตียงคนไข้ หยดน้ำตาที่ตั้งใจกลั้นไว้ต่างแย่งกันไหลพรั่งพรูออกมาแทนถ้อยคำ พยายามกลั้นสะอื้นจนเจ็บแน่นอกไปหมด ก้มลงกราบที่อกและกอดพ่อไว้เพื่อซ่อนน้ำตา เมื่อเงยหน้าขึ้นพบว่า พ่อกำลังร้องไห้เหมือนเด็กๆ พ่อนึกว่าพ่อจะไม่ได้พบลูกอีกแล้ว เป็นถ้อยคำที่พ่อบอกพร้อมสะอื้นไห้

60ปีของพ่อผ่านมาพร้อมอุบัติเหตุรถชน พ่อดูแก่ไปมาก ยิ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ระโยงสายน้ำเกลือ มีท่อพลาสติกเสียบไว้ที่อกปลายท่อต่อลงขวดแก้วที่มีน้ำขังไว้พอท่วม สีของน้ำในขวดแดงเข้ม ใจฉันสั่นรัวเมื่อก้มลงไปมองขวดที่ข้างเตียง พ่อมีเลือดออกในปอด แสดงว่าเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัสสำหรับพ่อมากพอดู


แม้จะมาหาพ่อไม่ทันตอนที่หมอใส่ท่อพลาสติกที่อกพ่อ เพราะฉันเป็นลูกที่ระเหเร่ร่อนห่างพ่อไปแสนไกล ถึงแม้ว่า อยากมาหาพ่อใจแทบขาดเพียงใด ในความเร็วที่สุดที่ทำได้ยังต้องใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็ม กว่าฉันจะได้มานั่งอยู่ข้างเตียงพ่อได้ ถึงกระนั้นฉันยังนึกภาพเหล่านั้นออกอย่างเจนตา รับรู้ได้ว่ามันเจ็บปวดมากมายขนาดไหน ฉันรู้สึกห่วงพ่อจนแทบจะหายใจไม่ออก จมูกของพ่อมีท่อออกซิเจนต่อจากหัวเตียงเดือดเป็นฟองฟู่อยู่ห้าลิตร เข่าขวามีแผลปิดก๊อสชิ้นใหญ่ รอบๆเบ้าตาขวาเขียวคล้ำมีผ้าก๊อสปิดตาไว้ ที่หัวยังมีแผลแตกเย็บอีกสิบเข็ม


โถพ่อจ๋า พ่อคงเจ็บมาก ฉันพูดพลางเช็ดน้ำตา พ่อกลับตอบว่าไม่เป็นไรแล้วลูก เจ็บนิดหน่อย แค่พ่อได้เห็นหน้าลูกพ่อก็หายแล้ว พ่อบอกพร้อมกับกอดฉันไว้ แล้วพ่อก็กลับมาเป็นพ่อคนเดิมที่ไม่เคยป่วยไข้


นับตั้งแต่ฉันจำความได้จนโตและเป็นผู้ใหญ่อายุมากไปแล้วฉันไม่เคยเห็นพ่อป่วยหรือนอนซมเพราะไม่สบาย พ่อแข็งแรงมาตลอด ทำงานหนักเลี้ยงลูกทั้งหกคนมาได้ด้วยสองมือเท่านั้น พ่อขยันเป็นที่สุด กรีดยาง ทำนา ทำสวน งานที่ใช้แรงทั้งหมดพ่อบุกลุยตลอดเวลา ร่างกายพ่อจึงแข็งแรงกล้ามเนื้อใหญ่ เพราะพ่อเป็นชาวนานะลูก พ่อจึงต้องทำงานหนัก


พ่อเคยบอกลูกๆ ทุกคน พ่อภูมิใจเสมอที่เป็นชาวนา แม้ว่าตลอดผืนนาอันกว้างใหญ่ทั้งทุ่งนั้นมีเพียงนาของพ่อเท่านั้นที่สดเขียวด้วยสีของทุ่งข้าว นอกนั้นเป็นผืนนาที่รกร้าง คนที่เคยทำนาเต็มใจปล่อยให้มันว่างเปล่าอยู่อย่างนั้นเพราะข้าวมันราคาถูกและทุกคนเต็มใจซื้อข้าวสารกิน แต่พ่อไม่ทำอย่างนั้น พ่อบอกฉันว่า พ่อเต็มใจทำนาไปจนตาย พ่อจะปลูกข้าวกินไปจนไม่มีแรงเลยหล่ะ พ่อทนไม่ได้ที่จะเห็นผืนนาของเราเต็มไปด้วยหญ้าแทนที่จะเป็นข้าว


แล้วพ่อใช้สองมือที่แข็งแกร่งของพ่อ บุกบั่นทำทุกอย่างเพื่อส่งลูกทั้งหกคนเรียนหนังสือ เรียนเท่านั้นที่จะทำให้ลูกพ้นจากงานหนัก พ่อพร่ำบอกพวกเราตอนนั่งสอนการบ้าน


เวลาของพลบค่ำของพวกเราทั้งหกคนพี่น้องเป็นเวลาของการทำการบ้าน ท่ามกลางแสงตะเกียง


เพราะบ้านเราตอนนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ พ่อนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเราทุกคน แม่จะนั่งยิ้มฟังพ่อพูด พ่อจะบอกว่าอ่านหนังสือมากๆ และขยันเรียนนะจะได้ไม่ต้องเป็นชาวนาเหมือนพ่อ หลังทำการบ้านเสร็จพ่อจะมีรางวัลให้ลูกทุกคนด้วยการให้ขี่หลังไปส่งถึงห้องนอนบนบ้านชั้นสอง


บ้านไม้หลังนี้ของเรา ก็เป็นฝีมือพ่อสร้าง มีบันไดไม้ที่สวยงามแข็งแรง จำได้ว่าหลังคาบ้านยังไม่เรียบร้อย พ่อค่อยๆมุงหลังคาไปพวกเราก็อยู่กันไป บางคราวฝนตก พ่อหากระป๋องมารองไว้ พ่อดูไม่ทุกข์ร้อนบอกพวกเราว่าไม่เป็นไรเอาเงินไปทำอย่างอื่นก่อน มีเมื่อไหร่ค่อยทำต่อ แม้แต่ห้องน้ำก็ไม่มีหลังคา อาศัยต้นมะพร้าวต้นใหญ่เป็นร่มเงาแทน เป็นห้องน้ำที่ฉันชอบที่สุด เวลาแดดจัดสีเขียวแก่ของใบมะพร้าวสะท้อนลงบนโอ่งน้ำเมื่อเราก้มหน้าลงไปมอง ยิ่งเวลาฝนตก เราจะนั่งกางร่มฟังเสียงฝนตกกระทบกิ่งมะพร้าว บางคราวฉันพกหนังสือเข้าไปนั่งอ่านจนเพลินลืมเวลาด้วยว่าอากาศข้างในมันเย็นสบาย นี่คงเป็นภูมิปัญญาอีกอย่างหนึ่งของพ่อผู้มากฝีมือ


แล้วฉันก็เดินไปหาพี่หัวหน้าตึกของที่นั่น ไปบอกกล่าวสวัสดีและขออนุญาตนอนเฝ้าพ่อข้างเตียง แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรนัก เพราะโรงพยาบาลที่นั่นมีพยาบาลพอที่จะดูแลคนไข้ได้และห้ามญาตินอนเฝ้า แต่เธออับจนด้วยถ้อยคำที่จะโต้แย้งฉัน ด้วยคำพูดที่ว่า ขอให้ฉันได้ทำหน้าที่ลูกในขณะที่พ่อต้องการฉันอย่างที่สุดเถิดนะ ขอให้ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ของเธอและทุกคนในตึกเถิด เธอจึงยอมให้ฉันนอนเฝ้าพ่อ


เมื่อฉันกลับมานั่งลงข้างเตียงพ่อ พ่อหลับลงไปแล้ว หายใจสม่ำเสมอไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ฉันก้มหน้าลงบนฝ่ามือซ่อนเสียงร่ำไห้ โถพ่อจ๋า ลูกจะอยู่ห่างไกลพ่อในยามนี้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อคนแปลกหน้าที่ป่วยไข้เหล่านั้นของลูก ลูกอุทิศชีวิตให้มาเสมอ แล้วนี่เป็นพ่อ ที่ให้ลมหายใจ ให้ชีวิตลูก ขอให้ลูกได้ดูแล ได้เช็ดน้ำตา เช็ดเหงื่อและรองรับความเจ็บปวดทั้งหลายที่พ่อมีบ้าง


ฉันสวดมนต์อยู่ในใจ ขอคุณพระคุ้มครองพ่อ ให้พ่อหาย ให้บุญกุศลทุกอย่างที่ลูกทำมาทั้งชีวิตได้ช่วยเยียวยาพ่อ ขออย่าให้พ่อต้องเป็นอะไรเลย เพียงแค่นี้มันช่างหนักหนาสาหัสสำหรับพ่อนักแล้ว


เมื่อพ่อลืมตาขึ้นมาเห็นฉันนั่งอยู่ข้างๆ พ่อส่งยิ้มและขอน้ำดื่ม ฉันถามพ่อว่าปวดไหม เอายาแก้ปวดไหมพ่อ พ่อส่ายหน้าไม่ต้องนะลูกไม่ปวดเลย พ่อสบายดี


พลบค่ำแล้วแม่และน้องกลับบ้าน ฉันดึงม่านกั้นรอบเตียงให้พ่อหลับ หลังพลิกตะแคงตัว เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ พ่อดูสบายตัวขึ้นมาก แม้ปากพ่อจะบ่นไม่อยากให้ฉันเหนื่อย แต่แววตาของพ่อเป็นสุข คืนนี้มีเราสองคนพ่อลูกหลับอยู่ด้วยกันแล้วในท่ามกลางเวทนาของสังขาร ฉันบอกให้พ่อสวดมนต์ก่อนนอน เสียงกังวานของพ่อดังก้องอยู่ในม่านสีเขียว


ฉันฟุบลงบนหนังสือสวดมนต์ข้างเตียงพ่อ หลังพ่อหลับ เป็นคืนแรกของเราสองคนในโรงพยาบาล ท่ามกลางคนไข้สามสิบสองเตียง ท่ามกลางการป่วยไข้ หัวใจของพ่อและลูกเต้นสอดร้อยเป็นเสียงเดียว เสียงของการมีชีวิตอยู่ของคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้