Skip to main content

เคยประท้วง บ้างไหม

คอลัมน์/ชุมชน

ในประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเคยประท้วงมานับครั้งไม่ถ้วน ส่วนใหญ่เป็นการประท้วงส่วนตัว คนเดียว บางครั้งก็ทำอย่างเงียบๆไม่มีใครรู้ว่ากำลังประท้วง เช่น ไม่ซื้อของร้านนี้เพราะเอาเปรียบลูกค้า ไม่กินข้าวร้านนี้เพราะทำไม่สะอาด ยิ่งตอนเด็ก ๆ ประท้วงพ่อแม่มากที่สุด คิดหนีออกจากบ้านเพราะอยากประท้วงที่พ่อแม่ไม่สนใจตนเองสนใจแต่น้อง ๆ เวลาทำผิดนิดผิดหน่อยโดนแม่ด่าก็น้อยใจ รู้สึกว่านี่คือ ความอยุติธรรมสุดสุดที่ตนเองได้รับ จึงต้องประท้วงซึ่งทำได้สักพัก วันครึ่งวันมีเรื่องอื่น ๆเ ข้ามาให้สนใจก็ลืมไปกลับไปพูดคุยกับพ่อแม่เหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกว่าได้ประท้วงให้เห็นแล้วนะ การประท้วงมีอยู่ในชีวิตคนเราเสมอมา


เริ่มมีความรู้สึกอยากประท้วงรวมหมู่เมื่ออยู่ในสังคมโรงเรียนแน่นอนเนื่องจากมีเพื่อนฝูง การประท้วงคนเดียวเงียบ ๆ ไม่น่าจะได้ผลต้องประท้วงหมู่ เหตุผลที่ต้องประท้วงคือความรู้สึกอยุติธรรมที่ได้รับในโรงเรียนซึ่งมีร้อยแปดพันเก้าเรื่อง กว่าจะประท้วงได้ก็ต้องใช้เวลานานหลายวัน หลายอาทิตย์ ตั้งวงคุยกันในหมู่เพื่อนว่าเห็นปัญหานี้ร่วมกันไหม หากเห็นร่วมกันจะแก้ปัญหาอย่างไร จะทำอย่างไรกันดี คุยกันวงใหญ่ขึ้น ๆ กว่าจะหาแนวทางได้ว่าจะประท้วงอย่างไร


ตอนนั้นจำได้ว่าประท้วงเจ้าของโรงเรียนที่ทำอาหารขายนักเรียนที่ไม่มีคุณภาพ ได้น้อย อุปกรณ์จาน ชาม ช้อนไม่สะอาด เอาแต่กำไรเพราะบังคับให้นักเรียนต้องกินอาหารในโรงเรียน และไม่มีแม่ค้ารายอื่นๆมาขายแข่งกัน มีเจ้าเดียวจะกินไม่กินไม่สน แรก ๆ ที่ทำคือประท้วงไม่กิน พยายามห่อข้าวมาเอง แต่ทำได้ไม่นานเพราะส่วนใหญ่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลามาทำห่อข้าวให้ ไม่งั้นก็ต้องอดข้าวซึ่งทรมานน่าดู จึงต้องมาสรุปว่าวิธีแรกไม่ได้ผลต้องหาวิธีต่อไป ตกลงกันว่าจะแกล้งร้านอาหารด้วยการเก็บส้อม เก็บช้อนจานชามเขาไปทิ้ง ซึ่งก็ทำได้ไม่มาก เพราะที่สุดแล้วพวกเรานักเรียนมัธยมต้นก็กลัวครู กลัวความผิด สมาชิกกลุ่มประท้วงหลายคนจึงไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ ซึ่งเวลาผ่านไปแล้วครึ่งเทอมอีกสองเดือนก็จะปิดเทอมแล้ว จึงต้องมาคิดกันใหม่ว่าจะมีทางไหนที่ทำให้คนที่รับผิดชอบได้รับรู้สิ่งที่พวกเรากำลังคิดกันอยู่


พวกเรากลุ่มประท้วงนี้มีไม่เกิน 20 คน มีคนเข้า ๆ ออก ๆ ก็เยอะ แต่ไม่เกิน 20 คน ที่สุดเห็นว่าต้องไปเจรจากับผู้อำนวยการ แต่ก็พบว่าอุปสรรคสำคัญคือไม่มีใครยอมเป็นคนแรกที่จะเข้าไปคุยกับผู้อำนวยการ ทุกคนกลัวถูกทำโทษ ถูกหักคะแนน เชิญผู้ปกครองมาพบ แล้วจะทำอย่างไร มีการเสนอให้หาที่ปรึกษา เริ่มจากการไปปรึกษาครูที่พวกเราสนิทมาก ๆ พอจะคุยกันได้ ซึ่งครูรุ่นหนุ่มสาวมักจะเข้าใจและช่วยคิด ให้กำลังใจ จนพวกเรากล้าไปขอพบผู้อำนวยการ ได้คุยกัน แต่ท่านไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหา ทำไมพวกเรากินไม่ได้ ขณะที่นักเรียนอีกเป็นพันคนเขากินได้ พวกเราควรเอาเวลาไปคิดเรื่องการเรียนดีกว่ามานั่งทำอะไรก็ไม่รู้ การได้พบเจรจาครั้งนั้นจึงไม่ถือว่าได้ผล แต่ความรู้สึกที่ได้รับคือ ประสบความสำเร็จในการได้ประกาศความรู้สึก ความต้องการ ที่เกิดจากการเห็นความไม่ยุติธรรมของร้านอาหารของโรงเรียน จำได้ว่าจากนั้นโรงเรียนเปลี่ยนจานอาหารจากเดิมที่เป็นพลาสติกราคาถูก ๆ ที่ล้างเท่าไรก็ยังเหมือนมีคราบมันติดอยู่ และบิด ๆ งอ ๆ มาเป็นจานเมลานีน ซึ่งดูดีกว่าเยอะแม้อาหารจะไม่อร่อยและปริมาณน้อยเหมือนเดิม พวกเราก็ดูจะพอใจ และแอบภูมิใจลึก ๆ ว่าน่าจะมาจากการประท้วงของพวกเราบ้าง


ประสบการณ์ประท้วงในอดีต ถูกนำมาทบทวนความจำอีกครั้ง เมื่อพบเหตุการณ์ประท้วงที่ภาคใต้ ทั้งการประท้วงแบบไม่ปรากฏตัว ปรากฏแต่เหตุการณ์ลอบฆ่ารายวัน และผู้ถูกฆ่าก็มีทั้งตำรวจ พระ คนมุสลิม ไม่ใช่มุสลิม ข้าราชการ ชาวบ้าน ชาวสวน คือมันคละเคล้ากันไปหมด ไม่รู้ใครทำ ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็มีประท้วงที่ปรากฏตัวที่ตากใบ เป็นการรวมตัวกันของคนจำนวนหลายร้อยคนเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่ มีข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวบ้านที่ถูกจับโดยถูกตั้งข้อหาว่าเอาอาวุธไปให้คนอื่น ทั้งที่เป็นอาวุธที่ราชการให้ใช้ป้องกันดูแลรักษาความสงบให้ชุมชน


คนประท้วงยื่นข้อเสนอว่า ทำไมไม่ให้ญาติคนเหล่านี้ประกันตัว ดังนั้นจึงยื่นข้อเสนอว่าต้องปล่อยตัว ไม่งั้นก็จะชุมนุมประท้วงกันหน้าโรงพักไปตลอดนี่แหละ เวลาผ่านไปมีการเจรจา ไม่มีผลที่พอใจ มีการใช้วิธีการจูงใจ เช่น ให้ญาติคนถูกจับมาพูด ให้ผู้นำศาสนามาพูด แต่ทางราชการก็ไม่ได้ให้คำตอบตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งจุดใหญ่ใจความคือคน 6 คนที่ถูกจับและไม่ได้ประกันตัว ดู ๆ ไปก็คือการซื้อเวลากันไปมา ที่สุดมีการสลายคนที่มาชุมนุมประท้วง มีการกวาดจับคนโดยไม่เลือกว่าเป็นใคร แต่หากอยู่ในรัศมีนั้นโดนจับไปด้วย มีการใช้อารมณ์ทำร้ายคนที่ถูกจับ ประมาณว่าพวกเอ็งมันเลว โดนซะมั่งจะได้รู้สึก แล้วจับมัดมือให้นอนซ้อนกันบนรถ จนหายใจไม่ออกตายไปจนถึงวันนี้จำนวน 79 คน


ดิฉันมาทบทวนว่า ทำไมต้องประท้วง เพราะอะไร คนเหล่านี้รู้สึกอย่างไรเรื่องความยุติธรรม คนเหล่านี้ใช้เวลานานเท่าไรเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตนเองกล้าพอจะออกมาประท้วง และคนเหล่านี้คิดไว้ก่อนหรือไม่ว่าผลการประท้วงจะออกมาเช่นนี้ การประท้วงอีกมากมายที่ดิฉันเคยร่วม ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงสงคราม การประท้วงเผด็จการ การประท้วงความยากจน ความไม่เป็นธรรม สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง มันก็ไม่ถึงชีวิต เพราะที่สุด ผู้ประท้วงและผู้ถูกประท้วงต่างก็ค่อยเจรจาพาทีกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่เห็นผลในการประท้วงครั้งนั้น ๆ แต่อย่างน้อยได้คุยกัน ได้ฟังกัน ได้ยอมรับซึ่งกันและกัน และหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน


สังคมชุมชนต้องการความสุขร่วมกัน การประท้วง เป็นสิ่งบอกเหตุอย่างหนึ่งว่าสังคมไม่เป็นสุข มีคนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีคนรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ การประท้วงคือการเปิดช่องทางให้แสดงออก แต่คนที่ถูกประท้วงนี่สิไม่รู้ว่าตนเองจะทำอย่างไร กรณีตากใบ ตำรวจคือผู้ถูกประท้วงและข้อเรียกร้องคือปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเรื่องเสียหน้ามากที่จะยอมเจรจา ตำรวจ ข้าราชการ รัฐบาล เคยคิดบ้างไหมว่าตนเองจะหาทางออกอย่างไรเมื่อเจอการประท้วง นอกจากการใช้กำลัง ซึ่งก็ชี้ให้เห็นว่าผลที่ตามมานั้น คือความสูญเสีย และความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา คงต้องจัดฝึกอบรมแบบวิวัฒน์นักปกครองกันบ้าง เพื่อจะได้ไม่ทำความเสียหายให้สังคมต่อไป และไม่ควรยกบทบาทโรงเรียนวิวัฒน์นักปกครองให้ค่ายทหารทำ เพราะผลที่ได้น่าจะแย่ยิ่งกว่าเดิม อยากให้ประชาชนช่วยฝึกอบรมให้ไหม ยินดีเสมอ


หลักการของการอบรมไม่มีอะไรมาก แค่เข้าใจกัน ยอมรับกัน และให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แค่นี้เองไม่ยาก ไม่ต้องฝึกวินัยทหาร ฝึกแต่ความรัก ความเข้าใจ เป็นใช้ได้ หากมีคนสมัครตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจะเปิดโรงเรียนวิวัฒน์นักปกครองให้ทันทีค่ะ