Skip to main content

เฝ้าไข้ข้างเตียงพ่อ (2)

คอลัมน์/ชุมชน

ดึกคืนแรกของเรา ในม่านสีเขียว พ่อสะดุ้งตื่นหลายครั้ง ร้อนหรือเปล่าพ่อ ฉันถามพร้อมคลำเนื้อตัวพ่อในความมืดสลัว เหงื่อพ่อซึมตามเนื้อตัวจนตัวชื้น

พ่อเป็นคนขี้ร้อน ตั้งแต่ฉันจำความได้ฉันไม่เคยเห็นพ่อนอนบนฟูกสักครั้ง พ่อนอนเสื่อบนพื้นบ้านในห้องเล็กๆของพ่อชั้นล่าง ดึกๆฉันเคยเจอพ่อลุกมาเอาน้ำราดตัวให้หายร้อน ฉันจึงรู้ว่าบนเตียงคนไข้ที่พ่อไม่เคยนอน พ่อคงร้อนเป็นที่สุด ฉันลุกไปเอาน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้ เดินย่องๆผ่านเตียงของคนไข้ที่หลับเงียบในม่านสีเขียว มีเสียงไอ เสียงดิ้น ลอดออกมา อากาศนอกม่านเย็นสบาย ก๊อกน้ำอยู่ตรงระเบียงตึกมืดสลัว มีไฟเปิดไว้หนึ่งดวงตรงสุดระเบียงนั้น

หลังเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเย็น พ่อหลับไป ตื่นมาทุกครั้ง พ่อจะลืมตาขึ้นมองฉันพร้อมบอก หลับเสียบ้างสิ ลูกเอ๋ย นอนสิใกล้พ่อนี่แหละ ฉันบอกพ่อว่าถ้าฉันง่วงมากจะฟุบลงไปบนเตียงพ่อเอง พ่อจึงยอมหลับต่อ ฉันเช็ดตัวให้พ่อครั้งแล้วครั้งเล่า น้องสีเหลืองมาวัดไข้ตอนตีสอง เห็นฉันนั่งอยู่จึงเดินไปเอาเก้าอี้อีกตัวมาให้ สองตัวก็ยังดีพี่จะได้ไม่เมื่อยมาก เธอยิ้มขณะพูด ฉันบอกขอบคุณ อย่างน้อยเธอคงรู้ว่าในม่านสีเขียวเตียงนี้มีฉันอยู่กับพ่อด้วย


ใกล้สว่างฉันห่มผ้าให้พ่อตอนที่อากาศเริ่มเย็นลงจนรู้สึกได้ พ่อนอนกอดผ้าห่มที่อกหลับตาเงียบ เป็นการหลับที่นานที่สุดของดึกคืนแรกของพ่อ ฟ้าสว่างแล้วฉันลุกจากเก้าอี้ไปเอาน้ำใส่กะละมัง เสื้อผ้าชุดใหม่ ผ้าปูเตียง ปลอกหมอนใบใหม่ไว้นั่งรอพ่อตื่น


พ่อตื่นมาแล้ว ฉันบอกพ่อว่าหลังเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าปูเตียงเสร็จ ฉันจะหมุนหัวเตียงสูงให้พ่อนั่งสักพัก ก่อนที่ข้าวต้มตอนเช้าจะมา ให้พ่อหายใจลึกๆฉันจะนวดหลังให้ ตอนที่เดินไปเอากะละมังน้ำไปเท ซักผ้าเช็ดตัวให้พ่อ ฉันเห็นท้องฟ้าที่ระเบียงตึกระบายสีส้ม ฉันนึกเข้าข้างตัวเองว่าคงเป็นสิ่งที่ดี ใจนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ อธิษฐานให้พ่อหายวันหายคืน


แม่และน้องมาถึงพร้อมกับข้าวต้มตอนเช้า แม่บอกว่าจะดูแลพ่อเองให้ฉันกลับไปนอนที่บ้านพักของน้อง ฉันบอกแม่ว่าขออยู่รอจนหมอมาก่อน ขอให้ฉันได้พูดกับหมอและถามถึงอาการต่างๆของพ่อก่อน ไม่งั้นฉันคงห่วงพ่อจนนอนไม่หลับ


หมอมาถึงเป็นทีม มีทั้งหัวหน้าหมอที่ฉันคุ้นหน้าและหมอเด็กๆอีกหลายคน


ถ้อยคำของหมอวิ่งกลับไปกลับมาในหัวฉันระหว่างทางที่นั่งรถไปบ้านน้อง หมอบอกว่าพ่อมีเลือดออกในปอดไม่มาก คงใส่ท่อไม่กี่วันได้ถอดออก ส่วนสมองที่กระทบกระเทือนหลังเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ มีเลือดออกบางส่วนไม่มาก รอดูอาการไปก่อน เข่าขวามีแผลลึกทำแผลวันละสองเวลาและให้ยาแก้อักเสบ คงดีขึ้น ส่วนตาขวา เปลือกตาไม่สามารถปิดเองได้ ปิดตาไปก่อนคงเป็นส่วนที่สมองกระทบกระเทือน ถ้าดีขึ้น คงพอปิดเองได้ ลูกตาและการมองเห็นปกติ รวมๆแล้วก็ไม่หนักมากอย่างที่คิด ดูกันไปเป็นวันๆนะ อย่าเพิ่งกังวลมาก แล้วหมอก็ยกทีมเดินต่อไปหาเตียงอื่นๆต่อ


ก่อนกลับมากับน้อง ฉันกอดพ่อไว้ ถ้อยคำที่บอกพ่อพรูออกมาพร้อมน้ำตา อดทนนะพ่อจ๋า เราต้องผ่านวันนี้ไปด้วยกัน พ่อต้องหาย ลูกจะอยู่ข้างๆพ่อเสมอ พ่อไม่ต้องกลัว ลูกจะไม่ยอมให้อะไรเกิดขึ้นกับพ่อ ลูกเชื่อว่าพ่อต้องหาย พ่อพยักหน้าทั้งน้ำตาให้ฉัน น้ำตาของเราไหลรวมกันเป็นแอ่งที่อกพ่อ


แล้วฉันก็เดินร้องไห้จากพ่อมา สงสารพ่อท่วมท้นหัวใจ ฉันเดินร้องไห้จนมาถึงที่รถไม่รู้ตัว ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไม่เคยเห็นน้ำตาพ่อ พ่อเข้มแข็งเสมอ ไม่เคยหวั่นต่อความทุกข์ยากประดามี


พ่อเลี้ยงลูกอย่างดีเสมอมา ยอมอด ยอมลำบากทุกข์ยากทุกอย่าง ขอให้ลูกได้เรียนหนังสือ มีกินมีใช้ บางคราวคนข้างบ้านค่อนแคะ จะเลี้ยงให้มันเป็นเจ้านายหรือไง พ่อได้แต่ยิ้มรับ แต่เจ็บคราวนี้ของพ่อ พ่อร้องไห้ มันคงเป็นความรู้สึกที่พ่อกลัว พ่อคงกลัวที่จะจากพวกเราไป เหมือนที่ฉันกลัวอย่างที่สุด


หน้านา พ่อแบกคันไถลงไปในนา นาของเราดูกว้างเหลือเกินเหมือนว่าพ่อจะไถมันไปอย่างนั้นไม่มีวันสิ้นสุด แม่เอาพวกเราหกคนไปปล่อยไว้ข้างๆเพิงเล็กๆที่คันนา เป็นเพิงที่พ่อสร้างบังแดด บังลมให้ลูกๆ พ่อเป็นคนมีลูกมาก ทำอะไรพ่อจะคิดถึงลูกไว้ก่อน พวกเราวิ่งเล่นแถวๆนั้นใกล้ๆพ่อมาจนโต รับรู้การทำนาของพ่อที่เหนื่อยหนัก ทั้งไถนา ดำนาและเกี่ยวข้าว จนกระทั่งถึงนวดออกมาเป็นเมล็ดข้าวเปลือก แล้วเป็นข้าวสารลงมาในหม้อข้าวที่เราตักกิน เราทุกคนคุ้นกับกลิ่นโคลน กลิ่นรวงข้าวที่หอมเหลือเกิน


พ่อคงไม่รู้ว่า แม้พ่อไม่ได้ให้พวกเราหยิบจับช่วยพ่อเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ความที่เป็นลูกชาวนาเห็นการทำนาของพ่อตั้งแต่เล็ก ทำให้พวกเราทุกคนทำนาได้ พ่อทำให้พวกเราทุกคนหลงรักกลิ่นโคลน ชอบกองฟางและรวงข้าวหอม เหนืออื่นใดพ่อได้ฝากความแข็งแกร่งอดทนไว้ในหัวใจของพวกเราทุกคน ไม่มีใครที่จะยอมล้มหรือพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดได้เพราะพวกเราเป็นลูกพ่อ พ่อผู้อดทนเพื่อลูกอย่างที่สุด ภาพพ่อหาบข้าว ไถนาติดตาฉันมาจนโต ฉันไม่รู้ว่าพ่อเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาทำในเมื่อกลางคืน พ่อกรีดยาง กลางวันพ่อทำนา พ่อมีเวลานอนแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


ถึงกระนั้นพ่อยังมีเวลาพาพวกเราไปจับปลาที่หนองน้ำ หลังวิดน้ำออกจนเกือบจะแห้งขอด พ่อจะปล่อยพวกเราทุกคนลงไปในหนองน้ำ เสียงวี้ดว้ายวิ่งตามปลา หกล้มในโคลนจนมอมไปทั้งตัว ไม่มีใครสักคนที่จับปลาได้ มีเพียงพ่อเท่านั้น ถึงอย่างไรพ่อก็ยังเอาพวกเราลงไปจับปลาทุกครั้ง กลิ่นโคลนยังหอมกรุ่นอยู่ในใจฉัน ทุกครั้งที่ฉันเห็นบึงน้ำฉันจะคิดถึงพ่ออย่างที่สุด


ฉันรู้ว่าภาพเหล่านั้นมันตกตะกอนอยู่ในหัวใจของพวกเราพี่น้องทั้งหกคน ทุกครั้งที่เจอกันเราจะพูดถึงเรื่องจับปลาในหนองน้ำกับพ่อทุกครั้งไป


แล้วพ่อก็เลี้ยงลูกด้วยปลาที่พ่อหามาด้วยสองมือ ทั้งทอดแห ทั้งจับ แม่จะเอาปลาที่พ่อหาได้มาเก็บไว้ในโอ่ง ใส่เกลือลงไปใส่น้ำผึ้งหวาน ตามด้วยข้าวในหม้อที่หุง แล้วปิดฝาทิ้งไว้ รอให้พวกเราเอาออกมาทอดกินหลังหมดปลาสดที่พ่อหามาแล้ว พวกเราจึงโตมากับปลาของพ่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นพวกเราทุกคนเรียนหนังสือ เรียนดีกันทั้งหมดหกคน อย่างตั้งใจที่สุด คงจะเป็นเพราะปลาของพ่อด้วยกระมัง


ถึงบ้านพักของน้องชายแล้ว หลังอาบน้ำสวดมนต์ ฉันล้มตัวลงนอน ก่อนหลับฉันคิดถึงพ่อ คิดถึงแววตาของพ่อที่มองดูฉันในม่านสีเขียว ท่ามกลางความมืดสลัว ฉันยังเห็นความห่วงใยจากตาของพ่อ น้ำตาไหลรินออกมา ภาวนาให้พ่อสบายดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อ จนกว่าฉันจะตื่นขึ้นมาและเราจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน