Skip to main content

เหยื่อของความไร้เหตุผล

คอลัมน์/ชุมชน

ความมีเหตุผล เป็นคุณลักษณ์ประการที่หนึ่งที่ว่ากันว่าทำให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่ได้เป็นสัตว์ที่มีเหตุผลหรือใช้เหตุผลเป็นตัวชี้นำกำหนดในการดำเนินชีวิตอยู่ตลอดเวลา ในทางตรงข้าม หลายครั้งหลายคราว การกระทำที่อยู่นอกกรอบของความสมเหตุสมผลหรือความคิดที่ไร้เหตุผลของมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ๆ อาจกล่าวได้ว่า ความมีเหตุผลและความไร้เหตุผลเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน การที่มนุษย์จะหันชีวิตเข้าหาด้านที่มีเหตุผลหรือว่าไร้เหตุผล ก็ขึ้นอยู่บริบทและเงื่อนไขหลายประการด้วยกัน

ปัญหาและผลพวงจากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนและตอกย้ำถึงความไร้เหตุผลที่อยู่ควบคู่กับความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสังคมไทยที่ดูเหมือนว่ายังขาดวุฒิภาวะในการจัดการกับปัญหาอยู่มาก


ตัวอย่างง่าย ๆ ของความไร้เหตุผลอันเกี่ยวเนื่องกับปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ปรากฏให้เห็นอยู่ตามสื่อสาธารณะต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นของตนเองได้อย่างค่อนข้างเสรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเว็บบอร์ดในอินเตอร์เน็ต ดูเหมือนว่าในโลกของไซเบอร์สเปซ (cyber space) จะเป็นพื้นที่ปลดปล่อย "ด้านมืด" ของความเป็นมนุษย์ ซึ่งโดยปกติแล้วถูกควบคุมไว้เมื่ออยู่ในพื้นที่ทางสังคม แต่เมื่อหลุดเข้ามาอยู่ในโลกของการสื่อสารทางอากาศธาตุที่การควบคุมทางสังคมครอบคลุมไปไม่ทั่วถึง ความไร้เหตุผลซึ่งควบคู่อยู่กับความเป็นมนุษย์เสมอมาก็ได้โอกาสแสดงตัว


ในพื้นที่เว็บบอร์ดหลายเว็บ จะเห็นได้ว่ามีการแสดง "อารมณ์" และความคิดเห็นกันอย่างมากมายแต่ไม่หลากหลายเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ มันเต็มไปด้วยถ้อยคำก่นด่าซึ่งจำนวนมากหยาบคายขาดสติ และแน่นอนว่า "เป้า" ของ "อารมณ์" ที่เหมือนกับคน "ลงแดง" เหล่านี้ คือ "ผู้ก่อความไม่สงบ" หรือ "โจรใต้" แล้วแต่จะเรียก


ดังนั้น ถ้าหากสมมุติว่า "โจรใต้" เป็นกลุ่มคนที่กระทำสิ่งซึ่งไร้เหตุผล คนที่โจมตี "โจรใต้" ด้วยถ้อยคำท่าทีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ก็น่าจะ "ไร้เหตุผลพอกัน" หรืออาจจะ "ไร้เหตุผลมากกว่า" เสียอีก


ทัศนะที่ "อันตราย" และน่าเป็นห่วงเหล่านี้ของมวลชนที่ปรากฏในเว็บบอร์ดและสื่อสาธารณะต่าง ๆ ถ้าว่าไปแล้วส่วนหนึ่งก็ได้มาจากสื่อมวลชนกระแสหลักนั่นเองที่ก่อมันขึ้นมา และก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกล่าวว่า "ทัศนะแบบสื่อ" เป็นทัศนะที่ยืนอยู่บนฐานความคิดแบบ "อนุรักษ์นิยมทางการเมือง" เป็นทัศนะแบบขวาซึ่งพร้อมจะปรากฏลักษณะที่สุดขั้วของมันออกมา และจะว่าไปแล้ว "ทัศนะแบบขวา" ก็เคยสำแดงเดชและแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่ามันเป็น "ทัศนะที่นำไปสู่ความไร้เหตุผล" และ "การกระทำที่ขาดสติ" ได้โดยง่าย หากไม่ระมัดระวังให้ดี


ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์และปัญหาความขัดแย้งของจังหวัดชายแดนใต้แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร ทั้งหมดของการรับรู้ข่าวคราวความเป็นไปล้วนแล้วแต่ต้อง "ผ่านสื่อ" และก็ต้องย้ำกันให้บ่อย ๆ ว่าสื่อก็ไม่ได้มี "ความเป็นกลาง" อย่างที่นักสื่อสารบางคนชอบอวดอ้าง เป็นเรื่อง "ตลก" ที่จะหาความเป็นกลางจากสื่อ เพราะสื่อใช้เทคนิควิทยาในการ "สร้างข่าว" มากกว่าการถ่ายทอดข้อเท็จจริง ใครที่เชื่อว่าสื่อมี "ความเป็นกลาง" จึงควรจะต้องเปลี่ยนความคิดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะจมอยู่กับความไร้เหตุผลซึ่งสื่อผลิตสร้างขึ้นมา


อันที่จริง "ความไม่เป็นกลางของสื่อ" เป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ โดยเฉพาะในโลกที่ต้องแข่งขันกัน "ขายข่าว" แต่การที่สื่อ "ไม่รู้ตัว" ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นขาดความเป็นกลาง เป็นเรื่องอันตราย เพราะในนามของความเป็นกลาง ในนามของการรักษาความสงบสุข มันได้ซุกซ่อนอคติและความรุนแรงเอาไว้มากมาย


ดังนั้น มันจึงขึ้นอยู่กับว่า จะใช้สื่อ (ที่ไม่มีความเป็นกลางนี้) เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และเพื่อการเติบโตทางปัญญาของสังคมมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าสื่อคิดแต่จะทำธุรกิจ "ขายข่าว" โดยคำนึงถึงจริยธรรมเป็นอันดับท้าย ๆ ก็เป็นหน้าที่ของผู้เสพและสังคมที่ต้องช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์


ในกรณีของการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับปัญหาชายแดนใต้ สื่อที่ครอบครอง "ช่องทาง" ในการสื่อสารและกระจายข่าวมากที่สุด เป็นสื่อที่หาความน่าเชื่อถือไม่ได้เลยแม้แต่น้อย (คงไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อว่ามีสื่อขององค์กรใดบ้าง)


ผมรู้สึกรับไม่ได้เมื่ออ่านข่าวแล้วพบว่า สื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่บางยี่ห้อใช้คำเรียกคนใต้ที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบว่า "โจรใต้" ทุกครั้งที่เอ่ยถึง นี่เป็นทัศนะคติแบบดูแคลนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพวกกระฎุมพี กล่าวโดยไม่อ้อมค้อม นี่นับเป็นความ "งี่เง่า" ของสื่อยักษ์ใหญ่ เพราะมองอะไรจากด้านเดียวคือจากด้านของ "ความเป็นคนชั้นกลาง" และ "ถ้อยคำขาดสติ" ทำนองนี้ก็เป็นการโหมกระพือความเกลียดชังและความไร้เหตุผลให้แก่คนในสังคมมากยิ่งขึ้น


ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้อีกว่า หาก "โจรใต้" เป็นพวกที่ไร้เหตุผล สื่อมวลชนกระแสหลักก็น่าจะไร้เหตุผลพอกัน หรือบางทีอาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ (แต่ความไร้เหตุผลของสื่อมวลชนอาจเป็นสิ่งจำเป็นในทัศนะของสื่อเอง เพราะข่าวและการนำเสนอข่าวที่ไร้เหตุผลน่าจะ "ขาย" ได้มากกว่าการนำเสนอข่าวที่เต็มไปด้วยสาระหรือการวิเคราะห์วิจารณ์ที่ลุ่มลึก)


คงไม่เป็นการเกินเลยที่จะพูดว่า ผู้ที่เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการปราบปรามรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในเหตุการณ์ทางภาคใต้เป็น "เหยื่อของไร้ความเหตุผล" เป็นเหยื่อของความไร้เหตุผลของเจ้าหน้าที่และนโยบายรัฐ เป็นเหยื่อของความไร้เหตุผลของคนที่แสดงอารมณ์ตามเว็บบอร์ด เป็นเหยื่อของความไร้เหตุผลของสื่อมวลชน ซึ่งหวังแต่จะขายข่าวและนำเสนอข่าวจากฐานคติของคนชั้นกลาง


แต่เหยื่อของความไร้เหตุผล หาได้มีแต่ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นที่ "กรือเซะ"หรือ "ตากใบ" เท่านั้น สังคมไทยกำลังตกอยู่ในความไร้เหตุผลด้วยเช่นกัน


สังคมไทยขาดวุฒิภาวะอย่างแรงในเรื่องนี้และมีท่าทีแบบคนที่ไม่รู้จักโตในการแก้ปัญหา คือ "ใช้กำลัง" การแก้ปัญหาโดยใช้กำลังไม่จำเป็นต้องใช้ปัญญาอะไรมากนัก (และคนที่นิยมชมชอบการใช้กำลังจำนวนไม่น้อยก็มักจะเป็นผู้ขาดสติปัญญา) เด็กอันธพาลและนักเลงหัวไม้ก็ชอบแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังเพราะมองไม่เห็นวิธีอื่นที่ดีกว่านี้


ความคิดเห็นที่น่ากลัวและท่าทีที่ไม่เป็นมิตรที่มีต่อ "ผู้ก่อความไม่สงบ" ที่ปรากฏในเว็บบอร์ดเป็นสิ่งหนึ่งที่พอจะบอกได้ว่า การแก้ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องยากเย็นสุดประมาณหรืออาจแก้ไม่ได้เลยก็ได้ ลักษณะการนำเสนอข่าวของสื่อกระแสหลักที่เน้นการปลุกเร้าอารมณ์ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่าสื่อขาดความเข้าใจ ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม


การแก้ปัญหาภาคใต้ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง หากสื่อและ "สาธารณะชนชั้นกลาง" ลดตัวลงไปกระทำสิ่งที่ไร้เหตุผลเทียบเท่ากับ "โจรใต้" หรือบางทีอาจไร้เหตุผลมากกว่าด้วยซ้ำ