Skip to main content

ท่องเที่ยวเพื่อสุขใจและเรียนรู้จักกัน

คอลัมน์/ชุมชน

เห็นความพยายามของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาที่ภาคใต้อีกครั้ง หลังคลื่นซึนามิแล้วกระอักกระอ่วนใจชอบกล


การทุ่มเงินจำนวนไม่น้อยกว่าล้านบาทเพื่อเชิญชวนนักเทนนิส นักร้อง ต่างชาติให้เดินทางมาทำพิธีกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อหวังว่าคนต่างชาติจะสนใจและมาเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น รวมถึงเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลจ้างนักเทนนิสหญิงสองคนระดับแชมป์ให้มาแข่งโชว์ที่เชียงใหม่ พาไปพักที่พักหรู ไปช๊อบปิ้งร้านแพง ๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนไทยแม้แต่คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้เหยียบย่างเข้าไปแม้จะตั้งอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เพราะต้องใช้เงินซื้อบริการในราคาแพง ดูจะเป็นการทุ่มทุนเอาสินค้าคือความเป็นไทยไปขายกันน่าดู


ทำให้เกิดคำถามว่าการท่องเที่ยวคืออะไร คือการมีอำนาจเงินแล้วใช้ซื้อหาบริการที่ต้องการ ความสะดวกสบายที่ได้รับ ธรรมชาติที่ตกแต่งให้เข้าไปดู หรือบางทีเป็นเพียงการย้ายบ้าน ย้ายที่กินเบียร์ของตนเองมายังต่างถิ่นที่สามารถปลดปล่อยชีวิตได้สุดสุด กินเบียร์ในบาร์เบียร์ที่มีพนักงานคอยบริการอย่างใกล้ชิดนัวเนียกันทั้งผู้ซื้อผู้ขายเบียร์ ไม่ต้องเกรงใจใครเพราะใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง หรือการไปเที่ยวทะเลหมายถึงการไปนอนบนเก้าอี้ผ้าใบ จำนวนเป็นพัน ๆ จนมองไม่เห็นว่าหาดทรายหน้าตาเป็นอย่างไร


แม้แต่การมาเที่ยวเมืองไทยแต่อยากดูสัตว์ที่มีอยู่ในป่าซาฟารีในอัฟริกา เมืองไทยก็พยายามทุ่มทุนสร้างสวนสัตว์ไนท์ซาฟารีให้ดูกัน มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว กลายเป็นการท่องเที่ยวทำทุกวิถีทางให้คนมีเงินมาซื้อเมืองไทย ทั้งที่ บางสิ่งบางอย่างไม่ควรจะจัดสร้างหรือจัดทำแต่ก็ต้องทำเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ประเพณีทุกอย่างไม่ว่าจะลอยกระทง สงกรานต์ เข้าพรรษา วิสาขบูชา กลายเป็นเป้าหมายที่จัดทำเพื่อนักท่องเที่ยวไม่ใช่ประเพณีที่คนชุมชนท้องถิ่นดำเนินการเพื่อตอกย้ำความหมายและสืบทอดความเชื่อ ความศรัทธาอีกต่อไป


การท่องเที่ยวคือการเรียนรู้โลกกว้าง การเข้าใจคนอื่น การออกจากตัวเองไปรู้จักเพื่อนมนุษย์ การท่องเที่ยวเพื่อสร้างความสุขใจให้แก่กันและกันทั้งผู้ไปเที่ยวและผู้ต้อนรับการมาเยือนของคนต่างถิ่น น่าจะเป็นความหมายที่สมควรได้รับการพิจารณาอย่างถ่องแท้ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีอำนาจอยู่ส่วนกลาง แม้จะมีสำนักงานในภูมิภาคแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการวางแผนส่งเสริมขายการท่องเที่ยวประเทศไทยจะตั้งอยู่บน


พื้นฐานของการรับฟังความเห็นของคนท้องถิ่น และการตั้งเป้าเพียงแต่ขายให้ได้มากที่สุด ได้เงินมากที่สุด ไม่น่าจะเป็นทิศทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเพียงอย่างเดียว ควรจะรับภาระในการส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการท่องเที่ยวให้เกิดแก่คนไทยและคนต่างชาติมากขึ้น นี่น่าจะเป็นภารกิจหลักที่สำคัญ


ขณะนี้คนไทยเองก็ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เดินทางท่องเที่ยวกันมาก แต่ไม่มีการพัฒนาความรับผิดชอบต่อการเดินทางในแต่ละครั้ง การทิ้งขยะ การไม่ปฏิสัมพันธ์กับคนท้องถิ่นอย่างเพื่อนมนุษย์ร่วมชุมชน แต่กลายเป็นการซื้อขายบริการ จึงไม่แปลกที่คนท้องถิ่นกลายเป็นผู้ค้าบริการหน้าเลือด คนขับรถรับจ้าง ไกด์ท้องถิ่น ร้านค้าของที่ระลึกต่างจ้องที่จะเอาเปรียบนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด มาเจอกันครั้งเดียวโกงกันไปเลย ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า การส่งเสริมให้คนเที่ยวในช่วงเทศกาลทำให้เกิดคลื่นมหาชน แย่งกันกิน แย่งกันเดินทาง เหมือนรายการชิงเปรต ความสนุกความสุขใจไม่มีเหลือในการเดินทางท่องเที่ยว กลับต้องทุกข์ใจ เจ็บใจ อาฆาตแค้นเพิ่มมากขึ้นไปด้วยซ้ำ


เพื่อความสุขใจในการท่องเที่ยว การเรียนรู้จักชีวิตผู้คนมากขึ้น ควรสนับสนุนให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและเอกชนเปิดโอกาสให้มีการลาพักเพื่อเดินทางของพนักงานได้ตลอดปี ไม่จำเป็นต้องมาลาปิดหัวปิดท้ายช่วงวันหยุดเทศกาล เพื่อลดภาวะสับสนอลหม่านของวันหยุดช่วงเทศกาล


การกระจายอำนาจการจัดการท่องเที่ยวให้กับชุมชน การสนับสนุนให้ชุมชนมีการจัดทำแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวของตนเอง โดยรัฐสนับสนุนองค์ความรู้ บุคลากร และงบประมาณ ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยวที่ไม่ทำร้ายกัน ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม แต่เป็นการเรียนรู้จักกัน การเข้าใจและเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ไม่ควรกระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองกรุง เพื่อให้คนที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยว ได้พบกับศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลายในพื้นที่ของตนเองบ้าง


การท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่การทำให้คนมาเที่ยวกันอย่างล้นหลาม แต่เป็นคุณภาพของการได้เรียนรู้จักกันมากกว่า ดังนั้น เทศกาลต่าง ๆ ไม่ควรทำให้มันยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ควรทำให้เล็กลง คนมาร่วมงานด้วยความสบายใจ สุขใจ ไม่ต้องแย่งชิงกันชุลมุน และทำอย่างไรให้ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ไม่มีเงินเหลือเฟือได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวบ้าง แบบฉิ่งฉับทัวร์จะทำอย่างไรให้มีคุณภาพ มีการดูแลความปลอดภัย และมีไกด์ มีคู่มือการท่องเที่ยวสำหรับชาวบ้าน


ทำอย่างไรให้ชาวบ้านต่อชาวบ้านที่มาท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนกันได้รับทั้งความรู้ ความสุขใจ มิตรภาพ และรายได้พอสมควร น่าจะช่วยกันคิดต่อไปนะคะ การท่องเที่ยวไทย