Skip to main content

เมื่อการท่องเที่ยว ถูกอ้างอีกแล้ว

คอลัมน์/ชุมชน

การที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช แสดงความเห็นว่า จะแก้กฎระเบียบของกระทรวง เพื่อให้ขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงนั้น ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเจ้าของสถานบันเทิงคือ นายสมยศ สุธางกูร นายกสมาคมสถานบันเทิงแห่งประเทศไทย

สถานบันเทิงในที่นี้น่าจะหมายถึงคาเฟ่ (มีการแสดงตลกเป็นจุดขาย) คลับ ดิสโก้เทค อาบอบนวด บาร์ รวมถึงบาร์เบียร์ ร้านอาหารมีวงดนตรีเล่น คาราโอเกะ โดยเหตุผลหลักคือเพื่อตอบสนองความอยากของนักท่องเที่ยว ในเมืองท่องเที่ยวบางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ โคราช พัทยา เป็นต้น


การพูดเช่นนี้เป็นความจริงมากน้อยเพียงใด นักท่องเที่ยวคือผู้ใช้บริการหลักของสถานบันเทิงเหล่านี้จริงหรือไม่ และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่าชาวไทยใช่หรือไม่ ในเมื่อสถานบันเทิงเหล่านี้เปิดตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นฤดูท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม หากสถานบันเทิงเหล่านี้เป็นไปเพื่อการท่องเที่ยว น่าจะมีเวลาหยุดกิจการในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติด้วยซ้ำไป


เชียงใหม่ถูกอ้างชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต้องได้รับการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงเป็นอันดับต้น ๆ เด็กเยาวชนคือลูกค้าหลักอีกกลุ่มของสถานบันเทิงเหล่านี้ ซึ่งเปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด เด็กมาเจอกันได้ทุกวัน และก็เชียงใหม่อีกเช่นกันที่เป็นเมืองที่มีเด็กแก๊งไม่น้อยกว่าสองร้อยกลุ่ม เป็นทั้งเด็กในตัวเมืองและเด็กในเขตอำเภอรอบนอก รวมตัวกันตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ที่มีอยู่ดาษดื่นในตัวเมืองเชียงใหม่


ทั้งนี้ ตัวเด็กเองได้ให้ข้อมูลว่าสถานบันเทิงคือแหล่งที่จะมีโอกาสนัดเจอกัน สังสรรค์เฮฮา และที่สุดยกพวกตีกันเมื่อเกิดเขม่นกันระหว่างดื่มกินหรือระหว่างเต้นตามเสียงเพลง ขณะที่การรวมตัวกันของเด็กวัยรุ่นในอดีตเป็นไปตามฤดูกาล งานเทศกาล งานปอยต่าง ๆ จะชุกเป็นช่วง ๆ แต่ปัจจุบันมีแหล่งรวมตัวกันมากขึ้นเอื้อต่อการรวมตัว สร้างกลุ่ม สร้างอัตลักษณ์ของตน และเริ่มถูกสังคมรังเกียจแบ่งแยกกีดกัน ยิ่งทำให้กลุ่มเด็กเหล่านี้แสดงออกซึ่งความก้าวร้าวรุนแรงยิ่งขึ้น เพื่อให้มีที่ทางของตนเองในสังคม


เรื่องเหล่านี้ผู้ใหญ่ระดับรัฐมนตรีควรจะรับรู้และเข้าใจ พร้อมทั้งลดปัญหาที่ตามมา ไม่ใช่ยิ่งสร้างบรรยากาศให้เกิดปัญหายิ่งขึ้นไปอีก กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของคนในสังคม ขจัดปัดเป่าความยุ่งยากความรุนแรงในสังคม รวมถึงดูแลให้สังคมมีสุขภาวะที่ดีจากภาวะแวดล้อมต่าง ๆ การขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิงจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีในการสร้างสุขให้สังคมไทย


การมีเวลาเปิดปิดที่ชัดเจนเป็นเรื่องที่ดีที่สร้างการรับรู้ให้ผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเวลาแน่นอนของสถานบันเทิง หรือร้านขายสุราที่ให้ขายได้เป็นบางเวลา ไม่ใช่ว่าอยากซื้อเมื่อไรก็ได้ หรือแม้แต่การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ก็ทำให้คนเกิดการเรียนรู้และปรับตัว ตระหนักว่าควรดื่มปริมาณเท่าไรหากต้องขับรถ หรือจะไปซื้อได้เวลาใด หรือจะไปเที่ยวสถานบันเทิงเวลาใดบ้าง เป็นการสร้างแนวปฏิบัติให้คนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และตระหนักว่าไม่รบกวนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นในสังคม


นักท่องเที่ยวยิ่งเป็นกลุ่มคนที่มีการปรับตัวได้มาก เพราะเมื่อเริ่มคิดจะเดินทางท่องเที่ยว ก็เริ่มรับรู้ว่าคือการเดินทางเพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมอื่น ๆ อีกมากมายของเพื่อนมนุษย์ในโลกนี้ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกันในหมู่มวลมนุษยชาติ ย่อมพร้อมจะปรับตัวได้ในทุกสภาพ ไม่ใช่ว่าต้องการสถานบันเทิงตลอดเวลาการท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีบางคนที่มุ่งมาหาความสำราญจากสถานบันเทิงเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ เพราะเก็บกดมาจากบ้านเมืองตนเองที่เปิดปิดเป็นเวลาและไม่มีพนักงานบริการให้บริการแบบนัวเนียถึงเนื้อถึงตัวเช่นเมืองไทย เชื่อว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้มีไม่มากนักและจะยิ่งลดน้อยลงไปหากการโปรโมทการท่องเที่ยวของไทยจะไม่นำเสนอรูปพนักงานบริการทั้งผู้หญิง ผู้ชาย หรือการขยายเวลาเปิดปิดสถานบริการ


ารทำหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยคือการสร้างสุขให้คนในสังคม น่าจะมีแนวทางดำเนินการที่ดีกว่าความคิดตื้นเขินของการเปิดปิดสถานบริการ และควรจะมองปัญหาสังคมอย่างลึกซึ้งถึงความซับซ้อนและเกี่ยวโยงกัน ไม่ว่าเป็นเรื่องเด็กแก๊ง เด็กเยาวชนทั่วไป พนักงานบริการในสถานบันเทิงซึ่งมีจำนวนไม่น้อยและไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องการจ้างงาน ไม่มีสวัสดิการประกันสังคม รวมถึงการไม่เข้าไปจัดการดูแลสถานบันเทิงให้ทำหน้าที่เป็นนายจ้างที่ดีเพราะไปออกกฎหมายเฉพาะยกเว้นให้สถานบันเทิงเหล่านี้


นี่คือสิ่งที่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยน่าจะใฝ่ใจศึกษาหาความจริง เพื่อกำหนดทิศทางการแก้ปัญหาที่สอดคล้องและเกิดประโยชน์สุขต่อทุกคนในสังคมมากกว่า อย่าอ้างการท่องเที่ยวเพื่อเปิดสถานบันเทิงเลยดีกว่า ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ผลประโยชน์ของนายทุนท่านใดในรัฐบาลนี้หรือเปล่า น่าคิดน่าติดตามต่อไป