Skip to main content

ถุงยางอนามัยผู้หญิง : หน้าที่ในการสะท้อน ตัวตน และสถานภาพของผู้หญิง

คอลัมน์/ชุมชน

























































ผู้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับถุงยางอนามัยที่ผลิตสำหรับผู้ชายที่มีวางขายกันเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ถ้าบอกว่า เดี๋ยวนี้มีถุงยางอนามัยสำหรับให้ผู้หญิงใช้กันแล้ว (Female condom) อาจจะมีหลายคนที่เพิ่ง จะรู้ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันเองก็ตาม มันไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกที่ใครส่วนใหญ่จะไม่รู้มาก่อน ผู้เขียนจะอธิบายเรื่องนี้ในย่อหน้าถัดไป แต่ที่ต้องมีถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงขึ้นมาโดยเฉพาะ มันมี สาเหตุมาจากผู้หญิงจำนวนมากติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์จากสามีมากกว่าสาเหตุอื่น ทั้งที่เลือกจะรักเดียวใจเดียว รักนวลสงวนตัวให้สามีหรือแฟนตัวเองเพียงคนเดียว

 

โธ่เอ๋ย มันไม่ได้หมายความว่าสามีต้องรักนวลสงวนตัวให้ภรรยาตัวเองคนเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ

 

ทุกวันนี้ที่การเข้าถึงถุงยางอนามัยผู้หญิงยังเป็นไปในลักษณะของการใช้กันในวงแคบไม่แพร่หลาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาถุงยางอนามัยผู้หญิงมีราคาแพงกว่าถุงยางอนามัยผู้ชายมาก ประมาณ 30 - 35 บาทต่อชิ้น ช่องทางการกระจายยังจำกัดอยู่ที่ไม่กี่องค์กรที่ทำงานด้านอนามัยเจริญพันธุ์ในบ้านเรา รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่เห็นอยู่ก็เป็นแบบเดิม ๆ ไม่ได้พัฒนาไปในทางที่จะทำให้คนนิยมใช้มากไปกว่านี้

 

คนที่มีประสบการณ์ใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิงเล่าความรู้สึกให้ฟังว่า เวลาใช้มันมีเสียงคล้ายถุงพลาสติกถูกขยำ เสียงดังสอบ ๆ แสบ ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้บางครั้งเลิกใช้กลางคันก่อนจะเสร็จกิจธุระกันไปเลยก็มี ถ้าเปรียบเทียบกับถุงยางอนามัยผู้ชายที่มีพัฒนาการผลิตออกมาหลาย ๆ แบบให้ตรงกับตามความต้องการของผู้ใช้ มีทั้งแบบสารพัดกลิ่นสารพัดขนาด ผิวเรียบ ผิวขรุขระ ผิวตะปุ่มตะป่ำ เกินจะจาระไนได้หมด แถมราคายังถูกกว่าเป็นไหน ๆ

 

แวะนินทาผู้ชายเสียหน่อย นี่ถึงขนาดว่าผลิตออกมาให้เลือกเป็นคอลเล็คชั่นเพื่อตามใจและอำนวยความสะดวกกันอย่างนี้ แถมยังใช้สะดวกกว่าถุงยางอนามัยผู้หญิงเป็นไหน ๆ คุณชายทั้งหลายยังไม่ค่อยจะยอมใช้กันเลยยย

 

.. ไอ้การจะบังคับให้ผู้ชายใช้หรือไม่ใช้ก็อยู่นอกเหนือจากการควบคุมของผู้หญิงเสียด้วยสิ เพราะการตัดสินใจใช้ถุงยางอนามัยขึ้นอยู่กับตัวของผู้ชายเองเป็นส่วนมาก ผู้หญิงอาจโน้มน้าวคู่ของตนได้บ้าง แต่ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมทางเพศของผู้ชายได้ทุกคนเสมอไป นอกจากต้องใช้เสน่ห์เล่ห์กลลวงแบบประสบการณ์ขององค์กรเอ็มพาวเวอร์ ที่สอนผู้หญิงที่มีอาชีพให้บริการทางเพศได้รู้จักทักษะการหลอกล่อหาวิธีใส่ถุงยางอนามัยให้กับชายชีเปลือยทั้งหลาย

 

ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดต่อสำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ว่าจะคิดค้นรูปแบบของถุงยางอนามัยผู้หญิงให้น่าใช้และราคาถูกมากกว่านี้ และคิดไปให้ถึงการขยายช่องทางกระจายถุงยางอนามัยไปสู่ผู้หญิงในระดับชุมชนให้มากขึ้น

 

นอกเหนือจากถุงยางอนามัยผู้หญิงแล้วทราบว่ามีการวิจัยเพื่อพัฒนา สารป้องกันการติดเชื้อ (Microbicide) สำหรับใช้เฉพาะที่ ทั้งในช่องคลอดหรือทวารหนัก ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและทดลอง ผู้หญิงคาดหวังกันว่าหากการวิจัยมีผลออกมาว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิผล หมายความว่าผู้หญิงจะมีทางเลือกในการป้องกันตนเองได้มากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง

 

มีผู้หญิงติดเชื้อมากกว่าหนึ่งคนในจากวงสนทนาที่พูดคุยเรื่องของการใช้ไมโครบิไซด์ เธอเล่าให้ฟังว่า เธอคงต้องกลับไปถามสามีของเธอก่อน ว่าจะยินยอมให้เธอใช้หรือไม่ใช้มัน เพราะหากสามีไม่อนุญาตเธอก็คงจะใช้ไม่ได้ หรือการขอร้องให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยกับเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่จะบังคับให้เขาทำได้ทุกครั้งเสียเมื่อไหร่ เธอไม่อยากทะเลาะกับสามี เพราะทุกวันนี้เธอทำหน้าที่แม่บ้าน เลี้ยงลูก และไม่มีรายได้อะไร ต้องพึ่งพาสามีในด้านการเงินทั้งหมด หรือแม้แต่ความคิดที่ว่าผู้หญิงแต่งงานไปแล้วต้องกลายเป็นสมบัติของผู้ชาย ที่ฟังดูแล้วออกจะเชย ๆ ไม่ไปด้วยกันกับโลกยุคโลกาวิบัติในเวลานี้เอาเสียเลย

 

การตัดสินใจจะใช้หรือไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับเครื่องเพศตัวเอง หรือเอาสารอะไรเข้าไปป้ายในช่องคลอด อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้หญิงโดยลำพังเสมอไป หากไม่ได้รับความยินยอมจากสามีก็มิอาจจะทำได้ แม้จะอธิบายว่าเป็นสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของผู้หญิงที่ผู้หญิงจะทำอะไรกับร่างกายของตัวเองก็ตาม เพราะอาจหมายถึงความรู้สึกไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้สามีอันเป็นที่รักขุ่นเคืองใจ และมีนัยยะเข้าใจไปถึงการไม่เชื่อฟังพยายามปฏิเสธอำนาจของสามี หรืออคติที่มีต่อถุงยางอนามัยว่ามันไปลดทอนความรื่นรมย์ทางเพศให้น้อยลง ซึ่งเป็นการอธิบายความคิดเดียวกันกับการปฏิเสธที่จะใช้ถุงยางอนามัยไม่ว่าจะสำหรับหญิงหรือชายก็ตาม

 

อุปสรรคอีกข้อหนึ่งคือ ทัศนคติภายในใจของผู้หญิงเอง ผู้หญิงหลายคนไม่พร้อมจะวุ่นวายกับเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง โดยเฉพาะ " จิ๋ม " ของตัวเอง ที่ยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจจะยุ่งเกี่ยวกับอวัยวะส่วนนี้ และสำรวจมันในระยะสัมผัสที่ใกล้ชิดทุกซอกรูขุมขน

 

ทั้งหมดนี้คงเป็นเหรียญอีกด้านที่สะท้อนให้เห็นตัวตนและสถานภาพของผู้หญิงหลายคนในสังคมไทยซึ่งคงมีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และอาจเหมารวมไปถึงบางประเทศในแถบเอเชียเสียด้วยซ้ำ

 

การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อผลิตอุปกรณ์ เครื่องมืออย่างใดอย่างหนึ่งให้ผู้หญิงได้ใช้ป้องกันตนเองเป็นช่องทางเลือกหนึ่งให้กับผู้หญิง แต่คงไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ มีอำนาจในเนื้อตัวร่างกาย หากไม่คำนึงถึงสถานะของผู้หญิงในสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ ที่เป็นองค์ประกอบแวดล้อมชีวิตของผู้หญิงแต่ละคน แต่ละมุ้ง แต่ละซุ้ม

 

เส้นทางที่จะทำให้ผู้หญิงมีความเข้มแข็งจนสามารถตัดสินใจในเรื่องของตัวเองได้ จึงยังเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้หญิงทุกรุ่นทุกสมัย


 


................


เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๓ ม.ค. ๒๕๔๘