Skip to main content

อภิปรายนโยบายรัฐบาล ๒

 


ท่านประธานที่เคารพ ผมไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะสมาชิกรัฐสภา


ถึงแม้ว่าผมจะเห็นว่านโยบายที่ท่านนายกแถลงไว้ในรัฐสภาแห่งนี้เป็นนโยบายที่ดี แต่


นโยบายผมอยากให้ทำให้จริงจังที่สุดคือนโยบายหน้า ๒๒ รัฐบาลจะดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในวงราชการอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นราชการที่โปร่งใสและสะอาด


ผมเคยอภิปรายในสภาแห่งนี้ ว่า ท่านอ๋องในประเทศจีน ถามขงจื้อว่า จะกำจัดฉ้อราษฎร์บังหลวงได้อย่างไร ทำอย่างไรให้ขุนนางน้อยใหญ่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง


ท่านขงจื้อตอบว่า ถ้าจะขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบ ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องทำเป็นตัวอย่าง ต้องบริหารงานด้วยความโปร่งใส สุจริต และเป็นธรรม คนไหนทำผิดต้องลงโทษโดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง


นโยบายกำจัดคอรัปชั่นนั้น ต้องอาศัยผู้บริหารระดับรัฐมนตรี เป็นผู้จัดการ ถ้ารัฐมนตรีไม่ทำ ท่านนายกต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม อย่าเห็นแก่พวกพ้อง


ที่ผ่านมาผมถามว่ารัฐบาลได้ทำอย่างไรกับโครงการรับซื้อ ลำไยอบแห้ง ที่มีการร่วมมือกันทุจริตหลายระดับหลายขั้นตอน ตั้งแต่การตั้งงบประมาณซื้อ ตั้งประมาณการจำนวนผลผลิตลำไยสด การโกงในการคัดเลือกเกรดลำไย โกงในการจัดโควต้ารับซื้อลำไย เอาลำไยมาเวียนเทียนขายหลวง


ครึ่งปีแล้ว กระทรวงเกษตรยังหาคนลงโทษไม่ได้ ได้แต่ตั้งกรรมการมาไม่รู้กี่คณะ แต่รัฐเสียหายจ่ายค่าลำไยเกินไป ๕๐,๐๐๐ ตันเสียหาย ๒,๐๐๐ ล้านบาท


ต่อมาเรื่องการชดเชยไก่ในเรื่องไข้หวัดนก ปรากฏว่าชดเชยไปปีที่แล้ว ๗,๐๐๐ ล้าน บางจังหวัด ได้ไป ๕๐๐ ล้าน เพราะอ้างว่ามีไก่พื้นเมืองเป็นล้านตัว เช่นที่สุพรรณ ที่ นครสวรรค์


ไก่อะไรไม่ทราบได้ค่าชดเชยมากกว่าคนประสพภัยสึนามิบ้านผมซะอีก เพราะไก่ไม่มีหลักฐานไม่มีทะเบียนบ้าน และพูดไม่เป็น


ผมฝากท่านประธานผ่านไปยังรมต.หญิงเหล็กคนเก่ง ให้ช่วยดูแลในรายละเอียดหน่อย


เพราะต่อไปโครงการ เอส พี วี จะต้องระดมทุนเพื่อใช้ ในโครงการขจัดความยากจนอีกหลายหมื่นล้าน


ถ้าไม่มีการตรวจสอบ ไม่โปร่งใส ไม่รอบคอบ จะเกิด ลำไยลม ไก่ลม ยางลม ปาล์มลม แล้วพี่น้องชาวไทยต้องเสียภาษีจนเป็นลมแน่


ผมขอฝากท่านประธานไปยังท่านนายกว่าให้เน้นรมต.ทั้งหลายโครงการขจัดความยากจนว่าเป็นโครงการขจัดความยากจนของประชาชน ไม่ใช่โครงการขจัดความยากจนของนักการเมือง ของข้าราชการหรือคนที่ไม่รู้จักพอ


นโยบายต่อมาที่รัฐจะต้องทำให้ได้ตามที่แถลงในหน้า ๑๕คือ


รัฐบาลจะกำกับดูแลการบริหารจัดการและพัฒนารัฐวิสาหกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้บริโภคในฐานะผู้รับบริการ


ปัจจุบัน รัฐวิสาหกิจที่เปลี่ยนเป็นบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เช่น ปตท. การท่าอากาศยาน รัฐบาลยังไม่ได้กำกับดูแล เพื่อประโยชน์แต่ประชาชน เช่นปตท.ยังผูกขาดคิดค่าผ่านท่อก๊าซ จากบริษัทต่างๆ อย่างไร้การควบคุม


ค่าก๊าซที่แพงก็เพราะปตท.คิดค่าผ่านท่อแพง ค่าไฟฟ้าก็ต้องแพง เพราะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขาใช้ก๊าซไปผลิตไฟฟ้า


เพราะขณะนี้ ปตท.ผูกขาดระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติทั่วประเทศไทยอยู่


นี่ทำท่าจะขึ้นค่าก๊าซอีกแล้ว ทั้งๆที่เมืองไทยมีบ่อก๊าซธรรมชาติ


ผมก็ต้องฝากท่านรมต.พลังงานคนใหม่พี่ชายผมเองให้ดูแลกำกับให้เหมือนกับต่างประเทศ ที่ก่อนจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้าขายในตลาดหลักทรัพย์ต้องมีองค์กรกำกับดูแลไม่ให้ใช้อำนาจผูกขาดไปคิดค่าใช้ค่าบริการทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน


แต่ท่านจะกล้าทำหรือเปล่าในกรณีของ ปตท.เพราะท่าน รมต.คงถือหุ้นปตท.ไว้เยอะ


ประการสุดท้าย ผมขอเน้นคือนโยบายปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจให้สมดุลและแข่งขันได้ หน้า ๑๑


ท่านประธานจำบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ได้ไหม เอาททท.ถือหุ้น ๓๐ เปอร์เซ็นต์ เอกชน ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ผมเคยอภิปรายว่า ระวังจะมีการเอาบริษัทนี้ไปทำมาหากินเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคพวกรมต. เพราะที่ปรึกษารมต.พรรคพวกรัฐมนตรีถือหุ้นอยู่ จะเป็นช่องทางให้ใช้ชื่อททท.ทำมาหากิน ใช้งบประมาณททท. หาผลประโยชน์ให้พรรคพวก เรื่องก็เลยเงียบหายไป


ท่านประธานครับ ตอนนี้เขาตั้งบริษัทลูกแล้วครับ ชื่อบริษัท ทีแอลเอ็ม แทรเวลเซ็นเตอร์ จำกัด แปลเป็นไทยว่า บริษัท ศูนย์รวมการท่องเที่ยว ที แอล เอ็ม แล้วการท่องเที่ยวจะอยู่ในมือใครครับ ถ้าเอกชนพรรคพวกรัฐมนตรีถือหุ้นอยู่


มีการอ้างเสมอว่า รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ ไม่เสียหาย ท่านประธานถ้าผมให้ท่านประธานถือหุ้นบริษัท ททท. แต่ ๕ เปอร์เซ็นต์ บริษัทผูกขาดการท่องเที่ยว ท่านประธานจะรวยขนาดไหนครับ และใครจะแข่งขันกับท่านประธานได้ เพราะมีอำนาจผูกขาดอยู่ นักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวที่ไหนถ้าไม่ใช่ไปเที่ยวกับบริษัทของท่านประธาน


ผมฝากท่านประธานผ่านไปยังรัฐมนตรีทั้งหลายว่าอย่าได้ให้เอกชนพรรคพวก หรือนายทุนพรรควิ่งเต้นอาศัยชื่อประเทศชื่อแผ่นดินทำมาหากินส่วนตัวเลย


มันเสมือนหนึ่งสุนัขจิ้งจอก เดินนำหน้าพญาราชสีห์ เพื่อข่มขู่สัตว์ป่าน้อยใหญ่ เอาบารมีราชสีห์ไปทำมาหากิน


สรุปคำอภิปรายครับว่า ขอพระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพรให้นายกรัฐมนตรีและคณะรมต.จงประสพผลสำเร็จตามนโยบายและความตั้งใจที่ดีที่แถลงไว้กับรัฐสภา


ขอฝากหนังสือให้ท่านประธานผ่านให้ครม.อ่านเพิ่มจากหนังสือแนะนำของนายก
คุณสุนิสา อ่อนค้อมเป็นผู้เขียน
มีสาระดีมากว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คนคิดไม่ดีต่อบ้านเมืองต้องได้กรรมชั่ว
ภาษาพระกล่าวไว้ว่า กัมมุนาวัตตีโลโก
แปลเป็นไทยว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม