" แอ่วหละปูน...พักคุ้มเจ้าจอมแก้ว "

ห่างหายกันไปพักใหญ่ เพราะช่วงนี้เป็นฤดู " อบรมครูเพศศึกษาหลักสูตรก้าวย่างอย่างเข้าใจ " ซึ่งตัวเองต้องตระเวนไปสนับสนุนการอบรมครูตามจังหวัดต่างๆ ในโครงการฯ นับตั้งแต่ภาคใต้จังหวัดสงขลา ตระเวนไปอีสานจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ แวะภาคกลางจังหวัดลพบุรี แล้วขึ้นเหนือไปลำปางและลำพูน และเรื่อยไปในอีกหลายจังหวัด จนกว่าคุณครูจะเปิดเทอม เรื่องที่อยากเขียนในวันนี้ จึงเก็บตกระหว่างการเดินทางในจังหวัดหนึ่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น...

พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญชัย คำขวัญประจำเมืองลำพูน จังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือ ซึ่งห่างจากกรุงเทพเมืองฟ้าอมรราว ๗๕๐ กิโลเมตร หากท่านผู้อ่านที่ตั้งใจมาแอ่วเหนือในช่วงปี๋ใหม่เมือง (เทศกาลสงกรานต์) ขอบอกก่อนว่ารถไฟ หรือรถทัวร์ถูกจองเต็มพิกัดไปแล้วตั้งแต่เมื่อ ๒ เดือนที่ผ่านมา ทางเลือกสำหรับคนไม่มีรถเป็นของตนเองจึงจำเป็นต้องอาศัยโบกรถชาวบ้านเท่านั้น (อิอิ)

ตามตำนานเล่าต่อๆ กันมาว่า " สุเทวฤษี " ได้ชักชวน " สกทันตฤษี " และ " อนุสิสะฤษี " อพยพชาวลั้วจากดอยสุเทพเมืองเชียงใหม่ เดินทางมาสร้างเมืองลำพูน ซึ่งแต่เดิมชื่อ " เมืองหริภุญชัย " เมื่อปีพุทธศักราช ๑๒๐๐ หลังจากสร้างเมืองเสร็จแล้ว ฤษีทั้งหลายจึงได้ทูลเชิญ " พระนางจามเทวี " ธิดากษัตริย์เมืองละโว้(ลพบุรี) มาครองเมืองเป็นกษัตรีพระองค์แรก …

เนื่องจาก จังหวัดลำพูนอยู่ห่างจากเมืองเชียงใหม่เพียง ๒๕ – ๓๐ กิโลเมตร และไม่ค่อยมีโรงแรมที่ทันสมัยให้เลือกนัก เมืองนี้จึงกลายเป็นทางผ่านสำหรับผู้ที่มาไหว้พระตามวัดวาอารามต่างๆ หรือแวะเที่ยวตามสถานที่สำคัญแล้ว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะบึ่งรถไปพักที่เชียงใหม่ ทำให้พลาดโอกาสเดินเล่นกินลมชมเมืองในช่วงเช้าและเย็นไปอย่างน่าเสียดาย จนกระทั่งวันนี้...เมืองลำพูนมีทางเลือกใหม่เป็นเฮือนพักแบบสถาปัตยกรรมลำพูนนามว่า "" คุ้มเจ้าจอมแก้ว "

คุ้ คุ้มเจ้าจอมแก้ว ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ณ ถนนแว่นคำ หรือหลังศาลากลางจังหวัด เป็นที่พักซึ่งเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีห้องพักรับรองทั้งหมด ๑๖ ห้อง หน้าคุ้มมีต้นปีบ (กาสะลอง)ผลิดอกร่วงกราวเต็มพื้นหลายต้น ส่วนภายในคุ้มตกแต่งด้วยแมกไม้ไทยนานาพันธุ์ โดยเฉพาะต้นลีลาวดี (ต้นจุ๋มป๋าลาว) ขนาดใหญ่ที่ออกดอกบานสะพรั่งและมีกลิ่นหอมอ่อนในยามค่ำคืน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศเฮือนพักริมโขงในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว...และทุกเช้าจะมีพระสงฆ์ ๔ – ๕ รูป เดินรับบิณฑบาตผ่านหน้าคุ้มเจ้าจอมแก้ว ทำให้ผู้มาเยือนได้โอกาสทำทานตั้งแต่เมื่อแรกตื่น หัวใจดวงน้อยจึงอิ่มเอมและพองโตด้วยความสุขเล็กๆ

จากเฮือนพักเลี้ยวซ้ายเดินมาหน้าปากซอยไม่ถึง ๕ นาที เชิญชวนให้แวะ ร้านโกฮัง(บะหมี่เกี๊ยว)เพื่อลิ้มรสบะหมี่เกี๊ยวปู หมูแดงสุดอร่อยของเมืองลำพูน ราคาชามละ ๒๕ – ๓๐ บาทขึ้นกับปริมาณบะหมี่และเนื้อหมู (หากไปกินคนเดียวจะได้น้ำสะอาดใสเย็นดื่มฟรี ๑ แก้ว) ร้านนี้เปิดบริการตั้งแต่เวลาเจ็ดโมงเช้าถึง ๓ ทุ่มทุกวัน ...

เมื่อท้องอิ่มแล้ว เดินข้ามถนนไปจะเป็นวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าอทิตยราชในปีพุทธศักราช ๑๔๔๐ เป็นศิลปะสมัยเชียงแสนพระธาตุทรงระฆังคว่ำบนฐานสี่เหลี่ยม นอกจากนี้ในวัดยังมีวิหารต่างๆ รายรอบ ซึ่งควรค่าแก่การเยี่ยมชมและบอกเล่ากันต่อมาอีกว่า พระธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุสัญลักษณ์ประจำผู้เกิดปีระกาอีกด้วยเน้อเจ้า...

จังหวัดลำพูนยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น วัดจามเทวีหรือวัดกู่กุด(มีเจดีย์สมัยทวารวดีที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด) อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี(บริเวณเดียวกันมีดินปั้นนูนต่ำแสดงตำนานเมืองลำพูน)กู่ช้าง-กู่ม้า วัดพระยืน วัดพระพุทธบาทตากผ้า อุโมงค์รถไฟขุนตาลนอกจากนี้ ท่านที่ต้องการชอปปิ้งขอแนะนำ " ขัวมุง " (สะพานไม้มุงหลังคาข้ามแม่น้ำกวง)หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร แหล่งสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือขับรถตระเวนตามกลุ่มแม่บ้านในอำเภอต่างๆ เพื่อหาซื้อผ้าไหมและผ้าฝ้ายยกดอกทอมือ เป็นต้น

สำหรับท่านที่สนใจห้องพัก ณ คุ้มเจ้าจอมขวัญ สามารถติดต่อสำรองห้องพัก(ในราคาเป็นกันเอง)ได้ที่คุณลุงบุญมี ไชยยันต์ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์(๐๕๓) ๕๖๐ – ๗๐๒ หรือ ๐๑ – ๖๗๑ – ๕๓๘๗

แอ่วปี๋ใหม่เมืองปีนี้ ขอฝากเมืองหละปูนไว้เป็นกำกึด(พิจารณา)ตวยเน้อเจ้า...