Skip to main content

ลายพิมพ์ดีเอ็นเอมิใช่ลายนิ้วมือ

วันที่ 14 ตุลาคมเป็นวันสำคัญ วันนี้จะเล่าเรื่อง ( ไม่ ?) สำคัญที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์วันที่ 14 ตุลา


หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน 14 ตุลาคม 2547 หน้า 13 ปรากฏข่าวเล็ก ๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอะไรในสังคมเลย


" สภาทนายชี้เก็บดีเอ็นเอประชาชนต้องยินยอม "


รายละเอียดว่า ตัวแทนสภาทนายความท่านหนึ่งได้กล่าวถึงกรณีที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เสนอให้เก็บหลักฐานดีเอ็นเอ โดยจะเริ่มโครงการนำร่องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายบังคับให้ประชาชนส่งดีเอ็นเอให้เก็บเป็นประวัติบุคคล ดังนั้นหากกระทรวงยุติธรรมต้องการเก็บดีเอ็นเอ ต้องได้รับความยินยอมจากประชาชน หรือนักโทษในเรือนจำ และเด็กที่อยู่ในสถานพินิจ หากไม่ได้รับความยินยอมจะเก็บดีเอ็นเอไม่ได้ เพราะขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ


ด้านอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกล่าวว่า การเก็บดีเอ็นเอในสถานพินิจสามารถทำได้ไม่เป็นการละเมิดสิทธิ์ เนื่องจากเด็กที่อยู่ในความควบคุมของสถานพินิจ ปัจจุบันก็ถูกพิมพ์ลายนิ้วมือเก็บข้อมูลจากพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว การเก็บดีเอ็นเอกับลายพิมพ์นิ้วมือคงไม่แตกต่างกัน และสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญเป็นภายหลังเก็บข้อมูลดีเอ็นเอแล้ว วิธีการนำข้อมูลไปใช้เป็นเรื่องที่ต้องควบคุม


ตามข่าวใช้คำว่าดีเอ็นเอ คงจะหมายถึง "ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ" ซึ่งแปลมาจาก " DNA fingerprint" หากเป็นลายพิมพ์ดีเอ็นเอก็จะไม่ต่างจากลายนิ้วมือมากนัก เพราะเก็บไว้ใช้ได้เพียงเพื่อและเพียงแค่ระบุบุคคล ไม่น่าจะหมายถึงข้อมูลดีเอ็นเอทั้งหมด เพราะหากเป็นกรณีหลังแล้ว ผู้ครอบครองข้อมูลสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้มากกว่าการระบุบุคคล เช่นหากดีเอ็นเอนั้นบอกได้ว่าเยาวชนคนหนึ่งป่วยด้วยโรคอะไร ข้อมูลนี้ใช้ทำนายได้ว่าสมาชิกคนอื่นในครอบครัวมีแนวโน้มจะป่วยด้วยโรคเดียวกันนั้นหรือเปล่า ดังนั้นหากรัฐ บริษัทห้างร้าน หรือบริษัทประกันสุขภาพได้ข้อมูลเหล่านี้ไปย่อมเป็นการละเมิด และอาจจะนำไปใช้กีดกันการจ้างงานหรือการประกันสุขภาพได้ด้วย


ในกรณีที่เกิดเป็นข่าวคงหมายถึงลายพิมพ์ดีเอ็นเอเพื่อการระบุบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐก็ควรเปิดโอกาสให้สาธารณชนได้แสดงความเห็นสักนิดว่าจะเก็บไปทำไม จะเก็บลายพิมพ์ดีเอ็นเอของประชากรใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปทำอะไร จะเก็บลายพิมพ์ดีเอ็นเอของเยาวชนในสถานพินิจไปทำอะไร ในทางตรงข้ามเพราะอะไรถึงไม่คิดเก็บลายพิมพ์ดีเอ็นเอของประชากรกลุ่มอื่น ๆ ด้วย


การเก็บลายพิมพ์ดีเอ็นเอของนักโทษและเยาวชนในสถานพินิจอาจจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะบุคคลที่เอ่ยมาถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลเปราะบางที่สังคมไม่ให้ความสนใจอยู่แล้ว แต่ถ้าได้สอบถามความเห็นรอบด้านมากขึ้นอีกนิด อาจจะมีใครบางคนในสังคมคิดออกว่า การเก็บลายพิมพ์ดีเอ็นเอของเยาวชนทุกคนที่ผ่านสถานพินิจนั้นสามารถก่อผลเสียให้แก่เจ้าตัวในอนาคตอย่างไร หรือแม้กระทั่งสามารถก่อผลเสียให้แก่สังคมอย่างไร


ลายพิมพ์ดีเอ็นเอไม่น่าจะต่างจากลายนิ้วมือมากนัก แต่ความหมายทางจิตวิทยานั้นต่างกันแน่นอน ลายนิ้วมือเป็นส่วนของร่างกายที่อยู่ผิวนอกสุดของเรา ส่วนลายพิมพ์ดีเอ็นเอนั้นแม้ว่าจะเก็บจากเซลล์ใด ๆ ของร่างกายก็ได้ แต่เรามีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าดีเอ็นเอนั้นอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของสายเลือดของเรา ความอ่อนไหวเช่นนี้มีนัยสำคัญ


ไม่น่าจะมีใครคิดเรื่องไฮเทคและอ่อนไหวเช่นนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวคนเดียวครับ