Skip to main content

คุยเฟื่องเรื่องศึกษา

คอลัมน์/ชุมชน

ชุมชนคุยเฟื่องเรื่องศึกษา เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของผู้อ่านประชาไทท่านหนึ่งคือ คุณนิรนาม ซึ่งให้ความสนใจติดตามประชาไท และร่วมเสนอความคิดเห็นมาระยะหนึ่งแล้ว


 คุณนิรนาม เป็นอดีตนักกิจกรรมทางสังคม แม้ต่อมาจะไม่ได้ประกอบอาชีพนักข่าวตามที่ตั้งใจไว้ แต่ยังคงสนใจติดตามเรื่องราวทางสังคมมาโดยตลอด และสนใจที่จะสื่อสารแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ ในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับการศึกษาในชุมชน ทั้งในฐานะของความเป็นแม่ และในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น


คุณนิรนามมองว่า การศึกษามีความสำคัญ สำคัญทั้งในด้านงานอาชีพ สำคัญในแง่การเลื่อนฐานะทางสังคม และทำคนให้เป็นคน พร้อมทั้งผลพลอยได้ในด้าน ทำคนให้เป็นเจ้าคนนายคน หรือเหนือคน


 ทั้งนี้การศึกษาในชุมชน มิได้หมายรวมเพียงแค่ในระบบโรงเรียนเท่านั้น หากแต่กินอาณาบริเวณกว้างในทุกอณูของการใช้ชีวิต ในด้านการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ทางสังคม ทักษะวิชาการ ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการอยู่รอด ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ มีการสังเคราะห์วิเคราะห์ และกินความถึงวัฒนธรรมด้วย


มูลเหตุที่คุณนิรนามสนใจเรื่องนี้ คือ


หนึ่ง ลูก ๆ อยู่ในวัยของการเริ่มต้นเรียนในระบบโรงเรียน ดังนั้นแม่ต้องเตรียมพร้อมทั้งข้อมูลและ


ประสบการณ์การวิเคราะห์เพื่อขวนขวายหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้กับลูกๆ


สอง สภาพสังคมปัจจุบันมีความซับซ้อนและล่อแหลมต่อสิ่งไม่ดีมากมาย ทั้งที่เกิดจากกระแสโลก


ที่เปลี่ยนไปและการที่รัฐหยิบยื่นนำเอาสิ่งที่ผิดกฎหมายในอดีตกลายมาเป็นสิ่งถูกกฎหมายในปัจจุบัน เพียงเพื่อรีดเอาภาษีมาใช้จ่ายอย่างเกินตัว การเอาชนะความไม่ดีทั้งปวง โดยการปกป้องลูกไว้ในอ้อมกอดตลอดเวลา หรือให้เผชิญแต่สิ่งที่ดีงามเสมือนปูพรมด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ใช่ทางออกที่ดีเป็นแน่แท้ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการรังแกลูก ๆทางอ้อมนั่นเอง


เขาจะขาดทักษะการแก้ปัญหาชีวิต มีชีวิตที่เปราะบางพร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ มิใช่สัญชาตญาณที่พ่อแม่ที่ดีควรจะปลูกฝังให้กับลูก มนุษย์นับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เปราะบางมากเมื่อเทียบกับสัตว์ในสปีชี่ส์เดียวกัน จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อ ช้าง หมู แมว หรือ กวาง กระต่าย เมื่อลูกเกิดมาลืมตาดูโลกแล้ว ไม่เพียงกี่นาทีเขาก็สามารถ ยืน เดิน พร้อมหาอาหารเพื่อประทังชีวิตแล้ว แต่มนุษย์นั้นใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเดินและพูดได้


 ดังนั้นควรอย่างยิ่งที่ต้องคอยฝึกฝนทั้งทางกายและจิตวิญญาณ ให้เขาเข้มแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญสิ่งเลวร้ายในอนาคตเมื่อเขาเติบใหญ่


สาม เห็นว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายในสังคมล้วนมีต้นสายปลายเหตุมาจากการศึกษา ไม่ว่าจะเด็กวัยรุ่นอย่างน้องแนทที่ยอมสละร่างกายขายวิญญาณถ่ายซีดีโป๊ เพียงเพราะอยากเป็นดารา หลายคนบอกว่า เพราะความยากจน แต่หลายคนบอกว่า เขาขาดการศึกษา การศึกษาที่สามารถทำให้เขานับถือตนเองมากกว่านี้ เห็นค่าของตนเองในทางสร้างสรรค์มากกว่าที่เป็นอยู่


 การศึกษาที่ช่วยทำให้เขาคิดเองเป็น ตัดสินใจเองบนกรอบประเพณีที่ดีงามของสังคมไทย ไม่ใช่คิดนอกกรอบศีลธรรมอันดีงาม หรือ กฎหมาย เพราะหากเขาคิดได้ยาวกว่านี้ ยาวถึงอนาคตที่ตัดสินใจเลือกอาชีพนี้ เมื่อแก่เฒ่าเขาจะบอกกับสังคมอย่างไร บอกกับญาติพี่น้องหรือพ่อแม่ได้อย่างไร หรืออย่างกรณีของมดดำที่มีพ่อเป็นถึงคนมีหน้ามีตาในสังคม ในสภา เงินทองมีมากมายใช้สอย แต่ต้องเสพยา เช่นกัน เขาขาดการนับถือตนเอง ขาดการศึกษาตนเอง ค้นหาตนเองไม่พบว่าแท้จริงแล้วเขามีชีวิตเพื่ออะไร


สี่ เคยสงสัยว่า ปัญหาหลายอย่างที่ประเทศเราเผชิญอยู่ ทำไมจึงไม่เกิดในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ กับยาเสพติด สิ่งนี้น่าจะเป็นประเด็นให้พวกเราได้ช่วยกันขบคิดและวิเคราะห์วิจารณ์นำประสบการณ์ของประเทศอื่นมาเป็นประสบการณ์ของตัวเราเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีงามโดยขับเคลื่อนให้เยาวชนที่เป็นลูกหลานของเราได้เติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป


ห้า เพราะเชื่อว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ( อาจด้วยทิฐิหรืออัตตาที่มากตามอายุหรือไม่ ) ดังนั้นควรอย่างยิ่งที่จะไม่เพิกเฉยในการดูแลเด็กเมื่อยังอ่อนวัย ทั้งในด้านการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน การพึ่งพาตัวเองในการทำกิจกรรมต่าง ๆ การมีระเบียบวินัย การแบ่งปัน และคุณธรรมอื่น ๆ ที่ควรปลูกฝัง และองค์ประกอบในสร้างเยาวชนที่ดีไม่เพียงแค่โรงเรียน หรือสถานศึกษา หากแต่มาจากครอบครัว สิ่งแวดล้อมชุมชนของเด็กที่อาศัยอยู่ ทั้งสามส่วนเป็นองค์ประกอบที่ต้องเดินทางไปด้วยกันอย่างแนบแน่น ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป ก็อาจทำให้เป้าหมายนั้นต้องสั่นคลอนไปได้


นี่คือ ความคิด ความตั้งใจของคุณนิรนาม ซึ่งอาสาเป็นผู้เริ่มเปิดความคิดในชุมชนคุยเฟื่องเรื่องศึกษา


ทั้งนี้คุณนิรนามและประชาไทขอเชิญชวนเพื่อน ๆ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนด้วยเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นมุมมอง


ประสบการณ์การเลี้ยงลูก และการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ


พบกันคราวหน้ากับเรื่องราวของ " การศึกษาไร้กระดาษ "