"แบกเป้เที่ยว ไปเป็นชาวเกาะ"Backpacker Let' go to Koh Mak
คอลัมน์/ชุมชน
สถานที่เป้าหมาย : เกาะหมาก เป็นเกาะที่อยู่ในน่านน้ำทะเลตราด ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด นักท่องเที่ยวจะรู้จักเกาะหมากน้อยกว่า เกาะช้างและเกาะกูด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ถ้ากล่าวถึงการท่องเที่ยวประเภทดำน้ำ ชมปะการัง ท้องทะเล ตราดแล้ว จุดสนใจที่นักนิยมดำน้ำตื้น Snorkeling คือบริเวณหมู่เกาะรัง ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะหมากมากกว่าทั้งสองเกาะที่กล่าวข้างต้น เกาะหมาก จึงเปรียบเสมือน "ลูกชัง" ถ้าเปรียบเกาะช้างและเกาะกูดเป็น "ลูกรัก" แต่เกาะหมากก็มีเสน่ห์อยู่ในตัว พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นที่ราบชายฝั่งทะเล หนาแน่นไปด้วยสวนมะพร้าวและยางพารา มีเนื้อที่ประมาณ 9,000 ไร่ หรือ ประมาณ 16 ตารางกิโลเมตร ช่วงที่เหมาะสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยว ขอแนะนำช่วงปลายเดือนตุลาคม ตลอดจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ครับ อากาศกำลังดี น้ำใส ปลาชุม มรสุมไม่มี เสน่ห์ของ เกาะหมากก็คือ ที่พัก ราคาถูก ค่าครองชีพต่ำ ใกล้แหล่งดำน้ำหลายแห่ง มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว Walk In หรือ Backpacker ค่อนข้างพอเพียง การเดินทาง มีรถโดยสารประจำทางเปิดให้บริการ จากกรุงเทพฯ - ตราด ทุกวัน ทุกหนึ่งชั่วโมง เริ่มเที่ยวแรก หกโมงเช้า ไกด์อู๋ขอแนะนำให้ใช้บริการรถชนิดปรับอากาศ ป.1 เลือกใช้บริการได้ทั้งสองสถานี คือสถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย อัตราค่าบริการก็ 194.- บาท และ 189.- บาท ตามลำดับ ไกด์อู๋เลือกใช้ที่สถานีขนส่งเอกมัยครับ ด้วยเหตุผลสองประการคือ ประการแรก เดินทางสะดวกครับ ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยก็ถึงสถานีขนส่งแล้ว ส่วนประการหลังก็คือ ถูกสตางค์กว่า 5.-บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง กับระยะทาง 315 กม. ใช้ความเร็วในระดับปลอดภัย ไกด์อู๋เลือกเดินทางเวลาประมาณแปดโมงเช้า เพราะถือเป็นฤกษ์ดี ได้เคารพธงชาติหน้าสถานีขนส่งด้วย เท่ห์ซะ ถึงจังหวัดตราดเที่ยงกว่า ได้เวลาอาหารกลางวัน ก่อนไปลงเรือที่ท่าเรือกรมหลวงฯ อำเภอแหลมงอบ เวลา บ่ายสามโมงตรง ค่ารถสองแถวท้องถิ่นสีน้ำเงินจากตราด-แหลมงอบ 30.-บาท / คน ค่าเรือคนละ 210.-บาท / เที่ยว เป็นเรือไม้ ( เรือประมงดัดแปลง ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ถึงเกาะหมากหกโมงเย็น ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หลังเกาะระยั้งพอดี แต่หากต้องการความรวดเร็วก็มีเรือเร็ว Speed Boat ออกจากท่าเรือแหลมงอบ เวลา 11.00 น. ห้าโมงเช้า สะดวกรวดเร็วกว่า แต่สนนราคาก็คนละ 400.- บาท / คน / เที่ยว รวมค่าใช้จ่าย จากกรุงเทพฯ ถึงเกาะหมาก ไกด์อู๋ใช้จ่ายกับการเดินทางไปทั้งสิ้น 429.-บาทเท่านั้น ไป- กลับ คูณสอง เท่ากับ 858.-บาท ยังไม่ถึงพันบาทเลยครับ แล้วจะไปทำไมเมืองนอก เมืองไทยน่าเที่ยวกว่าเยอะเลย อาหารการกิน วันแรก มื้อต้อนรับ เป็นก๋วยเตี๋ยวผัดปู ตามด้วยสับปะรดตราดสีทอง รสชาติดี มื้อนี้ 47.- บาท พร้อมน้ำดื่มหนึ่งขวด ร้านอาหารตามสั่งในตลาดเทศบาล ใกล้ท่ารถสองแถวท้องถิ่นไปแหลมงอบ มื้อค่ำ ไกด์อู๋ ใช้บริการที่ร้านอาหารริมชายหาดสุดแสนโรแมนติก ชื่อ Beach Caf? เป็น เมนูปลากะพงทอดน้ำปลา ตัวขนาดเกือบหนึ่งกิโลกรัม ต้มข่าทะเลหนึ่งถ้วยเล็ก เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหนึ่งจาน แล้วตบท้ายด้วยน้ำแตงโมปั่นหวานชื่นใจ ทายสิครับว่าเท่าไร บอกให้ก็ได้ครับ ดินเนอร์ชายหาดมื้อนี้ 230.- บาท วันที่สอง มื้อเช้า อรุณสวัสดิ์เกาะหมาก อากาศสดชื่นกับโกโก้ร้อน แพนเค้กกล้วยหอม หนังสืออ่านเล่นหนึ่งเล่ม เช้านี้ 45.-บาท โอ้ แม่เจ้า ราคาไม่หนีมื้อเช้าหน้าปากซอยบ้าน มื้อนี้แค่พอรองท้องไปก่อน มากกว่านี้ไม่ดี แน่ เพราะช่วงสายจะไปดำน้ำ ดูปลา ชมปะการัง มื้อกลางวัน เป็นอาหารกล่อง ผลไม้ น้ำดื่ม (ผัดกะเพราหมึกราดข้าว+ไข่ต้ม ส้ม+กล้วย น้ำดื่มในขวดใสแจ๋ว) จัดเตรียมไปไว้ระหว่างพักจากกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง ในสนนราคา 70.- บาท ค่ำนี้มีปาร์ตี้ชายหาด สถานที่เดิมครับ Beach Caf? เพลงสากลเบา เบา รายล้อมด้วย เพื่อนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หลากหลาย สีผิว เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ แต่จุดประสงค์เดียวกันคือ แสวงหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ไกด์ อู๋ ใช้พลังงานไปกับกิจกรรมมากหน่อยสำหรับวันนี้ จึงเลือกเมนูพิเศษสุด เป็นรางวัลให้กับการชนะเลิศการดำน้ำ Snorkeling ชายเดี่ยว แก่ตัวเองสักหน่อย (มีแข่งกันสองคนระหว่างผมกับนายท้ายเรือ) ซึ่งแกคงไม่ได้คิดจะแข่งอะไรกับไกด์อู๋นะ คิดไปเองคนเดียวเพื่อสร้างสถานการณ์ เพราะเคยมีคนบอกว่า "สถานการณ์สร้างพระเอก" สรุปคือค่ำนี้เป็นเมนูต้มยำกุ้งน้ำใส ข้าวผัดทะเล ปูม้าผัดผงกะหรี่ หอยโข่งทะเลเจี๋ยนน้ำแดง Gin Tonic อีกหนึ่ง ดื่มสไปร์ทหนึ่งกระป๋อง 395.- บาท นอนหลับฝันดี ครับคืนนี้ วันที่สาม รีบตื่นแต่เช้า เพราะเรือออกจากเกาะแปดโมงเช้า อำลาเกาะหมากด้วยข้าวต้มทะเล และกาแฟร้อนหอมกรุ่น แก้แฮ้งค์ ทางแคชเชียร์คิดตังค์ 60.- บาท สิบโมงเช้าโดยประมาณ มาถึงท่าเรือแหลมงอบ ก็ต่อรถสองแถวท้องถิ่น บังเอิญเจอโชเฟอร์คนเดิมที่มาส่งเมื่อตอนขามาเลยได้นั่งโดยสารมาในห้องโดยสารด้านหน้าพร้อมกัน เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ แต่เหม็นกลิ่นบุหรี่ชะมัด (ขออนุญาตตำหนินิดหนึ่ง เพราะไกด์อู๋แพ้กลิ่นบุหรี่) มาถึงท่ารถในตัวจังหวัดตราด เกือบสิบเอ็ดโมงเช้า เข้าไปซื้อตั๋วรถโดยสารเข้ากรุงเทพฯ ได้เที่ยว ที่หลับที่นอนบนเกาะหมาก เวลานี้ธุรกิจที่พักสำหรับนักเดินทางเจริญเติบโตขึ้นรองรับปริมาณแขกผู้มาเยือนได้อย่างเพียงพอ แต่ไม่ถึงขนาดแออัด มีทั้งที่พักจัดไว้เฉพาะแขกแพ็คเก็จ และที่พักสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์ สนนราคาก็เริ่มที่ 300.-บาท / คืน ตามแต่ความสะดวกสบายที่จะสรรหา ไกด์อู๋พยายามเลือกบริเวณชายหาดที่สามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหลังเกาะระยั้ง ที่ร่ำลือกันว่าสวยงามนักหนา จึงพบบังกะโลสไตล์แฟนตาซี สีสวยสด กิจกรรม มาเที่ยวเกาะ คงไม่พ้นกิจกรรมทางทะเล ดำน้ำ ดูปลา ชมปะการัง ว่ายน้ำ พายเรือ หรือจะชมวิถีชีวิตชาวเกาะ นอนอ่านหนังสือสบาย สบาย ชายหาด แต่ที่ไกด์อู๋แนะนำ ก็เป็นการดำน้ำ ดูปลา ชมปะการัง ที่หมู่เกาะรัง และเกาะระยั้งนอก สวยงามไม่แพ้ทะเลอันดามัน ที่แน่ ๆ ประหยัดกว่าเยอะ และเพื่อกิจกรรมที่ดี ก็ต้องมีกฏกติกา กันหน่อย ข้อแนะนำในการดำน้ำตื้น Skin Diving , Snorkeling ติดไม้ ติดมือ ทริปนี้ ไกด์อู๋ใช้จ่ายไป 4,080.-บาท ไม่รวมของติดไม้ติดมือ หมายเลขโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้อง 0-3959-7259 ททท.ตราด 0-2391-2237, 0-2391-2331 เกี่ยวกับการเดินทาง 0-1802-5924,0-1803-9311 เกี่ยวกับที่พัก 0-5812-9832 เกี่ยวกับทริปนี้
|