Skip to main content

ความรู้ใหม่เมื่อผมได้กลับไปเรียน ป. 3 อีกครั้ง ตอน 4

คอลัมน์/ชุมชน










กิตติ วงส์พิเชษฐ เพื่อนชาวประชาไท มาร่วมเล่าประสบการณ์ที่น่าสนใจในช่วงชีวิตหนึ่งที่มีโอกาสได้กลับไปเรียนประถมอีกครั้ง ..




 


กิตติ วงส์พิเชษฐ



กิจวัตรประจำวัน


นักเรียนที่นี่ต้องตื่นเช้าครับ เจ้าหลานชายที่เคยตื่นสายประจำตอนเรียนอยู่เมืองไทย จึงไม่ได้ตื่นเองสักวัน ต้องปลุกครับ ต้องปลุกขึ้นมาเตรียมตัว และกินอาหารเช้าเพื่อให้มีพลังเพียงพอสำหรับภารกิจที่หนักหน่วงในแต่ละวัน=


เรื่อง อาหารเช้าก็มีประเด็นเหมือนกัน ผมขอพูดตรงนี้เลยครับ หากนักเรียนคนไหนไม่สะดวกที่จะกินอาหารเช้าที่บ้าน ทางโรงเรียนเขามีอาหารเช้าบริการครับ โดยจ่ายเงินในราคาถูกมาก เขาพยายามส่งเสริมให้เด็กกินอาหารเช้าตามปกติ ในห้องอาหารจะมีโปสเตอร์ติดไว้ เชิญชวนให้พ่อแม่ผู้ปกครองร่วมกินอาหารเช้ากับลูกหลาน เพื่อให้เด็กมีพลังงานสำรองอย่างเพียงพอไว้ในท้อง


เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงข่าวที่ผมเห็นในอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เป็นรายงานของนักอะไรก็จำไม่ได้ เกี่ยวกับเด็กนักเรียนในสหรัฐฯ นี่แหละครับ เขาหรือเธอบอกว่า จากผลการศึกษาพบว่า เด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนดีจะมีลักษณะสองอย่างเหมือนกันคือ หนึ่ง กินอาหารเช้า และสอง อ่านหนังสือมาก หมายถึงหนังสืออื่น ๆ นอกเหนือจากหนังสือเรียนนะครับ


ตามประสบการณ์และในความเห็นส่วนตัว ผมเห็นด้วยกับผลการศึกษาชิ้นนี้ครับ


กลับมาที่กิจวัตรประจำวันต่อ เจ้าหลานผมต้องเตรียมตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อน 6.30 น. เพื่อไปรอขึ้นรถโรงเรียนที่ป้าย ก็รถบัสสีเหลืองสดที่เราเห็นในหนังสมัยก่อน หรือในเคเบิ้ลทีวีสมัยนี้นั่นแหละครับ รถเหล่านี้บริการรวมทั้งเขต คือจะตะเวนรับส่งนักเรียนของทุกโรงเรียนในกลุ่มนี้ เวลารถมาถึง ต้องเข้าแถวเดินขึ้นรถให้เป็นระเบียบนะครับ ไม่อย่างนั้นคนขับรถเขาจะว่าหรือด่าให้ แต่ตัวผมไม่มีสิทธิขึ้นไปนั่งด้วย ต้องเดินตามไปทีหลังครับ


เมื่อไปถึงโรงเรียน อาจจะมีเวลานิดหน่อยก่อนเริ่มเรียนเวลา 7.35 น. แต่ไม่ใช่ว่านักเรียนจะมีสิทธิไปวิ่งเล่นไล่จับในสนาม หรือส่งเสียงคุยกันดังลั่นนะครับ ทุกคนต้องมานั่งเป็นแถว ชิดฝา รออยู่หน้าห้องตัวเอง ขอย้ำ นั่งเป็นแถว ชิดฝา อยู่หน้าห้องตัวเอง แล้วอ่านหนังสืออะไรก็ได้ ส่วนมากเป็นหนังสือที่นักเรียนยืมมาจากห้องสมุด หากไม่มี ก็หยิบจากรถเข็นที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้


คุณคงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในหนังมาก่อน แต่มันก็เป็นไปแล้ว เพราะเขามีอาจารย์คอยควบคุมดูแลอยู่ครับ


หลังจากคาบแรก นักเรียนส่วนหนึ่งจะไป เข้าห้องเรียนวิชาการอ่าน โดยแยกไปตามระดับความสามารถ มีตั้งแต่ระดับต่ำสุด ที่หลานผมไปเรียนด้วย จนถึงระดับสูงขึ้นที่อ่านเป็นเรื่องเป็นราวยาว ๆ ได้ เห็นไหมครับ เรียนเกรดเดียวกันแท้ ๆ แต่เรียนไม่เหมือนกัน แต่ก็สอดคล้องกับพันธกิจและความเชื่อของโรงเรียนใช่ไหมครับ


เมื่อถึง 10.10 น. เป็นเวลาพักเข้าห้องน้ำและดื่มน้ำ ซึ่งแต่ละห้องไม่พร้อมกัน มิสซิสรูกส์จะสั่งให้นักเรียนเข้าแถวตามลำดับเลขที่ของตนเอง ส่วนผมอยู่ลำดับสุดท้ายครับ เมื่อไปถึงห้องน้ำ จะแยกแถวชายหญิงเข้าห้องน้ำของแต่ละฝ่าย


ในอาทิตย์แรก นักเรียนทั่วไปมองผมด้วยความสงสัย มีนักเรียนหญิงที่อยู่ห้องอื่นถามผมตอนเดินแถวสวนกันว่า ผมเป็นนักเรียนหรือ? และอีกครั้ง มีคนที่มาส่งของที่โรงเรียนแซวผมว่าสูงที่สุดในแถว แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรเลย เพราะระเบียบข้อหนึ่งในโถงทางเดินก็คือ ห้ามพูดคุยกันครับ แม้ในตอนหลังนี่ก็ยังมีนักเรียนบางคนถามเช่นเดิม ผมก็เลยตอบไปว่า "Yeah!"


ในบางวัน อาจมีคาบให้นักเรียนออกไปนอกอาคาร เพื่อพักเล่นในช่วงเช้าแก่ ๆ หรือบ่ายอ่อน ๆ นักเรียนอาจจะเล่นเบสบอล แต่ใช้การเตะลูกบอลยางแทนการตีลูกเบสบอล หรืออาจจะไปปีนป่ายห้อยโหนอุปกรณ์ที่เขาเรียกว่าจังเกิลยิม


เมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยงที่แต่ละห้องเริ่มไม่พร้อมกัน ห้องนี้เริ่มเวลา 11.00 น. นักเรียนต้องเข้าแถวตามระเบียบ เมื่อเดินผ่านหน้าห้องหนึ่ง จะมีนักเรียนผิวดำสองคนเข้ามาร่วมแถวกับห้องนี้ด้วย นี่เป็นอีกอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ตารางเรียนของแต่ละคนสามารถปรับให้เหมาะสมเฉพาะตัวได้


รายการอาหารเที่ยงเขาจัดไว้ล่วงหน้าเป็นเดือน และแจ้งให้นักเรียนและผู้ปกครองรับรู้ก่อน นักเรียนเลือกรายการอาหารไม่ได้ นอกจากเลือกที่จะไม่กินบางอย่าง


นักเรียนแต่ละคนจ่ายค่าอาหารเที่ยงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ปกครอง หากมีน้อย ก็จ่ายน้อย แต่ถ้ามีรายได้มากขึ้นในระหว่างปี ก็มาจ่ายเพิ่มขึ้นได้ ของหลานผมจ่ายเพียงมื้อละประมาณ 40 เซ็นต์ เพราะผมไม่มีรายได้ ต้องอาศัยเมียเลี้ยงครับ


ส่วนอาหารเที่ยงของผมซึ่งก็เหมือนกันนั่นแหละ ต้องจ่ายมื้อละ 2.85 ดอลลาร์ ผมเดาว่าหากซื้อตามร้านข้างนอก คงต้องเพิ่มเงินอีกสักหนึ่งถึงสองดอลลาร์กระมัง


เมื่อกินอาหารเที่ยงเสร็จ นักเรียนจะกลับเข้าห้องเพื่อเรียนวิชาต่อไปทันทีโดยไม่มีการหยุดพัก แต่ก็แปลกนะครับ ผมไม่เห็นเด็กคนไหนแสดงอาการง่วงหงาวหาวนอนเลย อาจจะเป็นเพราะอาหารเที่ยงไม่มีข้าวก็ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะคาบเรียนค่อนข้างสั้น และนักเรียนต้องย้ายห้องเรียนเป็นระยะ ๆ จึงช่วยตัดช่วงง่วงออกไปก็ได้


ใน ตอนบ่ายมีช่วงพักเข้าห้องน้ำและดื่มน้ำอีกครั้ง และประมาณก่อนเลิกเรียนเล็กน้อย ทางโรงเรียนจะแจกอาหารว่างให้นักเรียน รายการนี้ฟรีอีกแล้วครับ และผมก็ได้รับอานิสงส์นี้ไปกับเด็กด้วย


เรื่อง อาหารว่างผมก็ว่ามีประเด็น เพราะเป็นผลไม้หรือผักสดเกือบทุกครั้ง และเขาให้นักเรียนกินในห้องได้เลย พร้อมกับทำการบ้านหรือเรียนไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับโปสเตอร์ในห้องอาหารที่แนะนำให้เด็กกินผักผลไม้ให้มากขึ้น รวมทั้งกินอาหารให้ครบห้าหมู่ แสดงว่าเขาคงเริ่มรณรงค์อย่างจริงจังที่จะลดปัญหาโรคอ้วนในประชากรของเขา


พูดถึง โรคอ้วนที่เป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ เมื่อดูจากประชากรในโรงเรียนนี้ จะเห็นข้อน่าสังเกตบางอย่างคือ เด็กนักเรียนส่วนใหญ่มีรูปร่างสมส่วนหรือค่อนข้างผอม แต่อาจารย์และเจ้าหน้ามากกว่าครึ่งของทั้งโรงเรียนค่อนข้างอ้วนและ/หรืออ้วนจนน่ากลัว


เรื่องอ้วนนี่ก็เป็นปัญหาในไทยใช่ไหมครับ เพราะแม้แต่บ้านผมที่จังหวัดชายแดนก็ยังมีธุรกิจเกี่ยวกับการลดความอ้วนกับเขาด้วย


โรงเรียนเลิกเวลา 2.45 น. เด็กที่มีผู้ปกครองมารับต้องเดินแถวไปนั่งรออยู่ที่ริมถนนด้านหน้าโรงเรียน รถของผู้ปกครองก็จะค่อย ๆ แล่นมาเป็นแถวเหมือนกัน พอมาถึงจุดที่กำหนดไว้ก็จอด ลูกใครหลานใครก็จะเดินออกไปขึ้นรถ แล้วรถคันต่อมาก็ขยับเข้ามา เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนนักเรียนกลุ่มนี้หมด ไม่มั่วเหมือนโรงเรียนที่ผมเคยเห็นในเมืองไทยเลยครับ


ส่วนกลุ่มที่นั่งรถโรงเรียนกลับบ้าน ต้องเดินแถวออกมานั่งรอที่โถงทางเดิน เพื่อรอออกไปขึ้นรถทางด้านข้างของโรงเรียน นักเรียนจะแยกเป็นกลุ่มตามเบอร์ที่ติดไว้ข้างโถง เจ้าหลานผมเขาต้องนั่งสาย 58 ครับ


รถโรงเรียนสายต่าง ๆ ก็จะแล่นมาเป็นขบวน อาจารย์ที่อยู่ริมรั้วจะพูดผ่านโทรโข่งบอกว่ารถเบอร์อะไรมาแล้วบ้าง อาจารย์ที่ควบคุมนักเรียนอยู่ในอาคารก็จะสั่งต่อ ให้เด็กในกลุ่มนั้นเดินออกไปรอที่ริมรั้วได้ เมื่อรถมาเทียบที่ประตู อาจารย์ที่อยู่ตรงนั้นก็จะสั่งให้เด็กขึ้นรถ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆจนนักเรียนกลับหมด เห็นแล้วเรียบร้อยดีจริง ๆ ไม่เหมือนที่สถานีขนส่งบ้านผมเลย

ตารางเรียนและกิจกรรมในแต่ละวันแน่นมากจริง ๆ จนผมไม่มีเวลาคุยกับมิสซิสรูกส์ นอกจากนี้ ก็ไม่อยากรบกวนแผนงานที่เธอวางไว้ด้วย ยกเว้นเมื่อมีธุระ ผมจึงจะถามเพียงไม่กี่คำ จึงทำให้ไม่มีข้อมูลในเชิงลึกเท่าที่ควร