Skip to main content

สิทธิในการได้รับการปกป้องคุ้มครอง Rights to Protection (ตอน 1)

เด็กมีสิทธิตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองในทุกรูปแบบที่จะเป็นอันตรายต่อเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองจากการถูกทำร้ายทั้งทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ ซึ่งรวมทั้งการล่วงละเมิดทางเพศกับหรือการแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ จากเด็กเช่น การค้าประเวณีเด็ก การขายเด็ก การนำเด็กไปใช้ขอทาน ไม่ว่าโดยบิดา มารดา ผู้ปกครองเด็กหรือโดยบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็ก


เด็กที่ลี้ภัยจากอันตรายเข้ามาในประเทศของรัฐภาคีจะต้องได้รับการคุ้มครองและช่วยเหลือ เด็กพิการทั้งทางร่างกายและจิตใจมีสิทธิได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างมีศักดิ์ศรี และได้รับการส่งเสริมให้พึ่งพาตนเองกับมีส่วนร่วมในชุมชน


เด็กมีสิทธิได้รับการคุ้มครองจากโรคภัยต่าง ๆ ตามมาตรฐานสาธารณสุขที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะต้องไม่มีเด็กคนถูกตัดออกจากการได้รับบริการสาธารณสุข



เด็กๆ ใน ชุมชน วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่

เด็กมีสิทธิที่จะได้รับ การปกป้องคุ้มครองจากการใช้แรงงาน โดยห้ามการใช้แรงงานเด็กที่อายุต่ำกว่าอายุขั้นต่ำที่ให้ทำงานได้ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายแรงงานของไทยกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานห้ามเด็กที่อายุยังไม่เกิน 15 ปี บริบูรณ์ทำงาน ส่วนเด็กที่อายุเกิน 15 ปี และทำงานได้การทำงานของเด็กต้องไม่เป็นงานที่อันตราย ต้องไม่ขัดขวางการศึกษาของเด็กหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกาย จิตใจ ศีลธรรม หรือพัฒนาการทางสังคมของเด็ก


ในส่วนของยาเสพติด เด็กมีสิทธิได้รับการคุ้มครองจากการใช้ยาเสพติดในทุกรูปแบบ และมีสิทธิได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการถูกใช้ในการผลิตหรือการค้ายาเสพติด


ด็กมีสิทธิได้รับการคุ้มครองจากรัฐและสังคมจากการถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางเพศ หรือ การล่วงละเมิดทางเพศในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนหรือข่มขู่ให้เข้าร่วมกิจกรรมทางเพศ การค้าประเวณีหรือการเข้าไปมีส่วนในสื่อลามกเด็ก การลักพาตัว การค้าเด็กในทุกรูปแบบ เด็กมีสิทธิได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการถูกนำไปใช้ในการสู้รบด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งแต่เดิมอนุสัญญาได้กำหนดอายุขั้นต่ำไว้ที่ 15 ปี แต่ต่อมาได้กำหนดในพิธีสารของอนุสัญญานี้ได้ ขยายอายุขั้นต่ำเป็น 18 ปี


เด็กๆ ในชุมชนวัดหงส์ฯ บางกอกใหญ่

ด็กที่ตกเป็นผู้ต้องหามีสิทธิหลายประการ คือ


ด็กจะต้องไม่ถูกลงโทษด้วยความทารุณ โหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม และ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องไม่ถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิต หรือ ด้วยการจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีโอกาสได้รับการปล่อยตัว เด็กที่ถูกจับกุม คุมขัง จะต้องถูกควบคุมตัวหรือ ขังแยกจากผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันการเรียนรู้ ถ่ายเท พฤติกรรมจากผู้ต้องขังหรือนักโทษที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นการป้องกันมิให้เด็กถูกข่มเหง รังแก บังคับจิตใจ หรือตกอยู่ในอิทธิพลของผู้ต้องขังที่เป็นผู้ใหญ่ นอกจากนั้นสถานคุมขังผู้ใหญ่อาจไม่เหมาะกับเด็ก


และเด็กที่ถูกจับกุมคุมขัง มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายและด้านอื่นโดยเร็ว นอกจากนั้นเด็กที่เป็นผู้ถูกกระทำจากการถูกทอดทิ้ง การหาประโยชน์โดยมิชอบหรือทำร้ายและการล่วงละเมิด การทรมานหรือการลงโทษโดยโหดร้าย ทารุณหรือโดยไร้มนุษยธรรม มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพร่างกาย จิตใจและให้กลับคืนสู่สังคมที่ดีได้อีกด้วย


เด็กโตในชุมชน ที่สนใจมาช่วยดูแลเด็กๆ

สืบเนื่องจากอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กนั้น ทางองค์การสหประชาชาติได้มีการจัดทำพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก 2 ฉบับคือ พิธีสารเรื่องความเกี่ยวพันของเด็กในการขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธ และ พิธีสารเรื่องการค้าเด็ก การค้าประเวณีเด็ก และสื่อลามกที่เกี่ยวกับเด็ก (จะได้กล่าวถึงในบทความต่อ ๆ ไป)


สิทธิเด็กในการได้รับความคุ้มครอง


ปัญหาเด็กที่ต้องการการคุ้มครองเป็นกรณีพิเศษนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย เพราะมีกรณีหลากหลายเรื่องที่เด็กไทยยังไม่ได้รับสิทธิในการได้รับการคุ้มครองเท่าที่ควรจะเป็น จึงนำมากล่าวไว้เป็นกลุ่มสุดท้าย และเพื่อให้เห็นปัญหาเรื่องสิทธิในการได้รับความคุ้มครองนี้จึงได้นำบางปัญหาของเด็กที่ต้องการความคุ้มครองตามสิทธิที่พวกเขามีอยู่ โดยนำเสนอเป็นกลุ่มย่อยต่าง ๆ จากกัน ดังนี้


1. ปัญหา เด็กที่ถูกทำร้าย


2. ปัญหา เด็กถูกนำมาใช้ในการกระทำผิดทางเพศ


3. ปัญหา เด็กกระทำความผิด


4. ปัญหา เด็กเร่ร่อน


5. ปัญหา แรงงานเด็ก แรงงานต่างด้าวเด็ก และการค้าเด็ก


6. ปัญหา เด็กพิการ และเด็กพิเศษ


7. ปัญหา เด็กกับยาเสพติด


8. ปัญหา เด็กที่ถูกลักพาตัว โดยผู้ปกครอง


9. ปัญหา เด็กชนกลุ่มน้อย และ กลุ่มเด็กไร้สัญชาติ


10. การคุ้มครองเด็กกรณีอื่นๆ


ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ แต่ละปัญหามีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติบางอย่าง ที่ทำให้ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายหรือข้อกำหนดต่าง ๆได้จริง และเกิดผลอย่างสูงสุดสำหรับเด็กตามเป้าหมายของอนุสัญญาที่วางไว้


บทความหน้า ผมจะมาเล่าต่อในรายละเอียดของปัญหาเด็กแต่ละกลุ่มที่ต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครอง หวังว่าท่านที่เคารพที่กรุณาอ่านบทความผมจะยังไม่เบื่อกฎหมายเด็ก ที่ไม่ใช่เรื่องเด็ก ๆ กันไปซะก่อนนะครับ