นาฏกรรม " ชีวิต" ที่ต้องเดินต่อไป
คอลัมน์/ชุมชน
ต๊อด ต้อด ต้อด .
" หมายเลขนี้ได้ถูกระงับการให้บริการ ."
เธอถอนหายใจ ไม่ทันที่เสียงปลายสายกล่าวจบ หูโทรศัพท์ถูกวางอย่างแผ่วเบา
- 1 -
ปีกว่าแล้ว ที่เด็กสาวคนหนึ่งกดเลขหมายในมือถือของเธอไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ครั้ง คำนวณออกมา 1 ปี เกิน 365 ครั้ง เธอบอกผมว่า การหมุนทุกครั้ง เธอไม่เคยทิ้งความหวังที่ปลายสาย อธิษฐานทุกครั้ง ขอให้สัญญาณปลายสายว่าง หรือแม้มีเสียง " ยินดีต้อนรับสู่บริการรับฝากข้อความ " ก็ยังดี
*****
มีนาคม 2547
เลขหมายที่เธอเพียรพยายามโทรอยู่ทุกวันนี้ยังทำงานเป็นปกติ
วันนั้น เครื่องของเธอแสดงผลข้อความเข้า
เป็นปกติที่ปลายสายหมายเลขนั้นจะโทรหาทุกวันด้วยความเป็นห่วง ถ้าไม่ติดก็มักฝากความห่วงใยไว้กับ
ระบบข้อความเสมอ
* * * *
" ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ กรุณาฝากข้อความหลังสัญญาณ .
อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ ร้านอาหาร
เขานั่งทานข้าว หูแนบโทรศัพท์พร้อมส่งเสียงไปที่ปลายสาย
ลูก นี่พ่อเอง ทานข้าวหรือยัง ดูแลตัวเองให้ดีนะ
บ่ายวันนั้น รถและตัวเขาหายไปท่ามกลางความจ้อกแจ้กจอแจของเมืองใหญ่
* * * *
ถนนอิสรภาพ กรุงเทพฯ
ออดๆ
กริ่งหน้าบ้านดัง ชายใส่สูทหลายคนก้าวจากรถด้วยสีหน้ากังวล ประตูบ้านเปิด พลันที่ทุกคนนั่งต่อหน้าเจ้าของบ้านกับลูกๆ หนึ่งในนั้นก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าแววตาแย่ที่สุดในชีวิต
" ผมคิดว่าพี่สมชายถูกลักพาตัวครับ"
หญิงมีอายุคนนั้นนิ่ง เรื่องดำเนินต่อไป
ทีวี วิทยุ โทรทัศน์ ประโคมข่าว สื่อต่างๆ ตั้งคำถาม หาคำตอบ แต่ใครรู้บ้างว่า สิ่งที่แหลกสลายคือครอบครัวหนึ่งที่ต้อง " เดิน" บนถนนสายชะตากรรมที่ทอดยาวต่อไปเพียงลำพัง
*****
วันรุ่งขึ้น
เช้า เธอไปเรียน แต่วันนี้ไม่มีพ่อไปส่ง
เย็น เธอก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ เหมือนทุกสิ่งในโลกดำเนินราบเรียบ ทุกวันต้องบอกกับตัวเองว่า " ต้องเข้มแข็ง เราต้องดูแลตัวเองได้"
" ปัญหาครอบครัว" ซีอีโอคนหนึ่งหลุดปาก (หลักฐานหาอ่านได้ในหนังสือพิมพ์)
การใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งคือคำตอบจากเธอถึงใครคนนั้น
ไม่รู้ว่าคนที่หลุดปากแบบจะหันมาฟังหรือไม่
ปีกว่าผ่านไป
* * * *
พฤษภาคม 2548 บทสนทนาใต้คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ทำให้ผมรู้อะไรขึ้นมาหลายอย่าง
หนึ่ง สังคมไทยมีการใช้ความรุนแรงอย่างปกติ
และข้อสองตามมา เมื่อสารคดีสั้นเรื่องเธอ ลงเผยแพร่สื่อที่ผมทำงานอยู่ บริษัทบางแห่งร้อนตัว รีบออกมาชี้แจงกรณี " ทวงเงิน" จากเลขหมายที่เด็กผู้หญิงพยายามโทรหา
เหตุการณ์ต่อไป ผมไม่กล่าวถึง เพราะมันแย่เกินกว่าจะกล่าว กับความรู้สึกที่พบว่าพวกพ่อค้าเหล่านี้เอาแต่รักษา " หน้า" ตัวเองเท่านั้น
สาม พูดกันปาว ๆ ว่าสังคมเราเป็นพุทธ แต่ไม่เคยตระหนักว่า ความรุนแรงไม่สามารถระงับได้ด้วยความรุนแรง ดังหลักคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า " การจองเวร ย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"
หลายคนว่าสื่อว่าเขียนช่วยทนาย " โจร"
บางคน " เบาปัญญา" ถึงขนาดหาว่าคุณสมชายหนีไปตะวันออกกลาง
ผมอยากตอบว่า " โจร" แน่ละ คือคนฆ่าผู้บริสุทธิ์ และเผาโรงเรียน
ครับ ผมเรียกคนเหล่านั้นว่า " โจร"
แต่หาโจรไม่ได้แล้ว " อุ้ม" ชาวบ้านที่ต้องสงสัยแทน พฤติกรรมมันต่างกับ " โจร" ที่ว่าตรงไหน?
" เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"
ถ้าไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมปลายด้ามขวานเกิดขึ้นอีก ผมเชื่อว่ารัฐไทยต้องเป็นนกพิราบเสียก่อน มิใช่ทำตัวเป็นเหยี่ยวที่นำขนนกพิราบมาห่มคลุมเหมือนทุกวันนี้
* * * *
วันนี้ เธอยังตั้งหน้าตั้งตาเรียน แต่ใครจะรู้บ้างว่าสุขภาพเธอย่ำแย่เพียงไร ถูกบั่นทอนแค่ไหนช่วงปีที่ผ่านมา และวันเวลาที่เธอจะต้องต่อสู้ต่อไป
ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ภูมิคุ้มกันคนเรา โดยเฉพาะภูมิคุ้มกันสุขภาพ " หัวใจ" จะแข็งแกร่งขึ้นตามอายุและสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
แต่บางทีอายุกับวัยวุฒิเพียงน้อยนิดของคนที่ผมสนทนาด้วยครั้งนั้น ดูจะ " โหด" เกินไป
- 2 -
กรุงเทพฯ ต้นฤดูฝน
" ภาคใต้ยังคงมีสถานการณ์รุนแรง วันนี้คนร้ายได้มีการฆ่าตัดคอ.." วิทยุถูกเปิดทิ้ง
ปีกว่า เด็กคนหนึ่งต้องรับผลการกระทำของใครบางคน
ปีกว่า คนตายนับร้อย และตายรายวัน
ผมมองหนังสือที่กางหราข้างกองกระดาษ ในหน้านั้นมีประโยคบางอย่าง
" การกดขี่ปองร้ายที่ได้กระทำต่อบุคคลผู้กระทำการโดยธรรม กระทำเพื่อผลประโยชน์และความผาสุกของคนส่วนใหญ่ทั้งในประเทศนี้และในโลก ทุกครั้งที่การกดขี่ปองร้ายเช่นนี้ได้บังเกิดขึ้น ความเจ็บปวดย่อมแล่นไปถึงดวงใจของทุกคนที่รักความเป็นธรรมและมีมนุษยธรรม"
" อดีตที่เป็นบทเรียน"
กุหลาบ สายประดิษฐ์
ถ้าเอาความเห็นจากเว็บบอร์ด จาก sms ที่ปรากฏในรายการของพิธีกรชื่อดังท่านนั้นเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ และความคิดเห็นอื่นๆ ที่แสดงออกมาตามสื่อเกี่ยวกับปัญหานี้เป็นตัวตั้ง
และถ้า....นี่เป็นฉันทามติของคนไทยส่วนมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนมีการศึกษา
ถ้าบอกได้ ผมอยากถามศรีบูรพา
" คุณกุหลาบ เราจะทำอย่างไร และอยู่อย่างไรในสังคมนี้
เพราะคนที่เจ็บปวดจากเรื่องเหล่านี้ มันเหลือน้อยลงทุกทีแล้วครับ "
ขอขอบคุณ
บทเรียนชีวิตจาก " ประทับจิต นีละไพจิตร"