แบ่งรอยยิ้ม แบ่งความรัก
คอลัมน์/ชุมชน
ผมนั่งเขียนบทความชิ้นนี้ในวันที่ 27 ธันวาคม ด้วยความรู้สึกที่คงเหมือนกับทุกท่านที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ จากเหตุการณ์อภิมหาภัยธรรมชาติที่เพิ่งเกิดขึ้นในไทยและประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ซึ่งก็ต้องพูดตรง ๆ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ผมไม่กะจิตกะใจจะเขียนเรื่องบันเทิงเหมือนที่เคยเขียนประจำ (และท่านผู้อ่านก็คงจะไม่มีอารมณ์อ่านเรื่องแบบนี้เช่นกัน)
แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ต้องมาเขียนงานชิ้นนี้ต่อจนจบ เพราะอยู่ดี ๆ ผมก็คิดถึงเพลง ๆ หนึ่งที่น่าจะเหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้
เพลงที่ว่าชื่อเพลง "แบ่งกัน" ของคุณบอย โกสิยพงษ์ ที่อยู่ในอัลบั้ม Song From Difference Scenes # 3 (อย่าว่ากันเลยครับ ถ้าผมจะนำเพลงของคุณบอยมาพูดถึงอีกครั้ง)
ว่าแล้วก็ขออนุญาตนำเนื้อเพลงนี้มาให้อ่านกันด้วย
แบ่งดินให้กับต้นไม้ แบ่งทรายให้กับท้องทะเล
แบ่งลมให้พายุฝน แบ่งความอดทนให้คนทุ่มเท
แบ่งเพลงให้ความเงียบเหงา แบ่งเศร้าจากคนว้าเหว่
แบ่งใจที่สุขจนล้น ให้กับคนที่ซมซวนเซ
เพราะเราอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะมาจากไหนเราผูกพัน
เกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้น
แบ่งรอยยิ้ม แบ่งความรัก
แบ่งกันโดยไม่จำเป็นต้องมีใครรู้จัก ให้ใจและใจแบ่งกัน
ให้รอยยิ้มกับความรัก เปิดประตูหัวใจโดยไม่มีใครมากั้น
...และดำเนินชีวิตเพื่อกันและกัน
โลกที่มีความรัก โลกที่ใครคุยกันได้ทุกที่
โลกที่ดูสดใส เกิดขึ้นได้ถ้าใจอยากมี
เพราะเราอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะมาจากไหนเราผูกพัน
เกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้น
แบ่งรอยยิ้ม แบ่งความรัก
แบ่งกันโดยไม่จำเป็นต้องมีใครรู้จัก ให้ใจและใจแบ่งกัน
ให้รอยยิ้มกับความรัก เปิดประตูหัวใจโดยไม่มีใครมากั้น
...และดำเนินชีวิตเพื่อกันและกัน
เมื่อไรที่ใจมีรอยยิ้ม เมื่อไรที่ใจอยากบอกรัก
...เราจะดำเนินชีวิตเพื่อกันและกัน
ระหว่างที่ผมฟังเพลงนี้อยู่ ผมก็นึกถึงครั้งหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ (เจ้าของคอลัมน์ "อยากตอบ" แห่ง a day weekly น่ะแหละครับ) ซึ่งอาจารย์พิชญ์แกได้พูดขึ้นมาว่า "คำว่า Living with others กับ Being through others นั้นแม้จะดูคล้ายกัน แต่ความหมายต่างกัน เพราะการอยู่ร่วมกันโดยไม่ได้คำนึงว่าตัวเองมีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างไร มันจะทำให้เราคิดได้ว่ามนุษย์สามารถอยู่ได้โดยลำพัง แต่หากเรามองว่ามนุษย์จะมีค่าก็ต่อเมื่อเราใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคม จะทำให้เรามองว่าเรา และทุกคนบนโลกต่างมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน"
ผมคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดปีนี้ในประเทศที่เราอาศัยอยู่ เราอยู่ท่ามกลางสงครามแบ่งแยกดินแดน โดยมีสมรภูมิทั้งในโลกจริง เว็บบอร์ด และ SMS ตามรายการคุยข่าวทางโทรทัศน์
จนเราลืมกันไปว่า จริง ๆ แล้วแม้ว่าใครจะมีรูปร่าง หน้าตา ศาสนา ความเชื่อใดก็ตาม แต่ก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน แต่บางคนกลับหยิบการกระทำของคนส่วนหนึ่งที่บังเอิญมีลักษณะต่างกับตัวเอง มาสร้างภาพว่ากลุ่มคนที่แตกต่างทั้งหมดนั้นเลวร้าย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนจะบอกเราว่า ไม่ว่าในรูปลักษณ์ภายนอกของคนจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้าย...เราก็ไม่ได้อยู่เหนือธรรมชาติอยู่ดี
มนุษย์อ่อนแอเกินกว่าจะอยู่โดยไม่เกื้อกูลกันครับ
ไหน ๆ ก็ร่วมชีวิตบนโลกใบเดียวกันแล้ว ใช้เวลานี้แบ่งปันความรู้สึกแก่กันและกัน และประคองการแบ่งปันครั้งนี้ต่อไป แม้ว่าจะเป็นในเวลาที่เหตุการณ์กลับสู่สภาพปรกติก็ตาม
สวัสดีครับ