Skip to main content

หลักประกันสุขภาพ (2) สุขภาพพอเพียง

ครั้งที่แล้วได้กล่าวนำถึงความเท่าเทียมในระบบสุขภาพ ความโดยย่อว่านิ้วมือคนเราแม้จะไม่เท่ากัน แต่บริการสุขภาพที่ทุกคนได้รับควรเท่าเทียม แน่นอนว่าควรเป็นบริการพื้นฐานและจำเป็น


เศรษฐกิจที่พึงประสงค์คือเศรษฐกิจพอเพียง สุขภาพที่พึงประสงค์คือสุขภาพพอเพียงเช่นกัน


ประเด็นปัญหาคือ อย่างไรจึงเรียกว่าสุขภาพพอเพียง เรื่องพื้นฐานเช่นการตรวจร่างกายประจำปีเป็นสุขภาพพอเพียงหรือเปล่า คนจำนวนมากชอบตรวจร่างกายประจำปี โรงพยาบาลจำนวนหนึ่งก็ชอบให้คนมาตรวจร่างกายประจำปี แต่นายแพทย์บางท่านได้ให้ความเห็นว่าการตรวจร่างกายประจำปีเป็นกิจกรรมที่ไม่มีประโยชน์ สิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ และอาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ถูกตรวจได้


ผู้เขียนเห็นด้วยกับความเห็นของนายแพทย์บางท่านนี้ เพิ่มเติมว่าการตรวจร่างกายประจำปีเป็นเพียงการจัดฉากเล่นละครเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายเท่านั้น


การเสริมความงามเป็นสุขภาพพอเพียงหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอ้างเหตุสุขภาพจิตว่าถ้าไม่เสริมแล้วสุขภาพจิตจะเสีย คนที่ได้รับความเสียหายจากการเสริมความงามแล้วต้องการการรักษา ทั้งการผ่าตัดแก้ไขและ/หรือการเยียวยาทางจิตใจ เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นหรือไม่ เขาควรได้รับความคุ้มครองจากหลักประกันสุขภาพหรือไม่ การลดความอ้วนเป็นกิจกรรมที่เกินความจำเป็นหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งความอ้วนที่เป็นโรค การเพิ่มความสูงให้เด็กที่เป็นโรคบางชนิดเป็นกิจกรรมที่เกินความจำเป็นหรือไม่


ยังมีประเด็นอื่นที่เห็นได้ชัดกว่าตัวอย่างที่ยกมาและกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น ยาต้านมะเร็ง ยาต้านไวรัสเอดส์ และการฟอกเลือดเพื่อล้างไต ทั้งสามประการนี้ระบบสาธารณสุขต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หลักประกันสุขภาพควรทำตัวอย่างไร


ก่อนที่จะถามว่าหลักประกันสุขภาพควรทำตัวอย่างไร ควรระลึกว่าค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยเสียไปกับโรคทั้งสามเป็นค่าใช้จ่ายที่ไปจากกระเป๋าของประชากรทุกคน กล่าวคือคนรวยคนหนึ่งใช้เงินส่วนตัวซื้อยาต้านมะเร็งราคาแพง อาจจะจริงที่เงินนั้นเป็นเงินส่วนตัว แต่เงินนั้นก็เป็นเงินส่วนตัวที่ไหลออกจากถุงเงินรวมของระบบสุขภาพด้วย มิหนำซ้ำยังเป็นเงินที่ไหลออกนอกประเทศ คำถามคือเงินที่หายไปนั้นคุ้มค่ากับผลการรักษามะเร็งหรือเปล่า ที่แท้แล้วผู้ป่วย ครอบครัว และแพทย์ควรใช้กลยุทธ์อื่นในการรับมือมะเร็งหรือไม่


กลยุทธ์อื่นมิใช่หมายถึงการแพทย์ทางเลือกเสมอไป อีกทั้งมิใช่การให้คำปรึกษาเพื่อให้ผู้ป่วยยอมรับมะเร็งและตายด้วยจิตวิญญาณที่สงบเสมอไป แต่อาจจะหมายถึงความพยายามที่จะทำให้ราคาของยาต้านมะเร็งราคาถูกลงดังที่ทำกับยาต้านไวรัสเอดส์


เป็นไปได้หรือไม่ว่าเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์เข้มแข็งยาต้านไวรัสเอดส์จึงมีราคาถูกลง เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็งสมควรดูเป็นเยี่ยงอย่าง ยาต้านไวรัสเอดส์เป็นกรณีที่เห็นได้ชัดว่าหากผู้ป่วยได้รับยา สุขภาพก็ดีขึ้นทันตา ดังนั้นจึงคุ้มค่าต่อการรักษา หากเสริมด้วยการแพทย์ทางเลือกและการรักษาทางจิตวิญญาณที่เหมาะสมผลการรักษาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และหากสังคมลดอคติที่มีต่อผู้ป่วยลงได้มาก ผลการรักษาก็ยิ่งดีขึ้นอีก อย่างไรก็ตามบางครั้งก็ยังเกิดประเด็นขัดแย้ง เช่น ผู้ป่วยแบบใดที่ควรได้รับยาต้านไวรัส


เหมือนถามว่าผู้ป่วยแบบใดจึงสมควรได้รับการฟอกเลือดเพื่อล้างไต การฟอกเลือดเพื่อล้างไตเป็นกิจกรรมราคาแพง มีเกณฑ์ทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าใครควรได้รับการฟอกเลือดและใครควรได้รับการรักษาไตวายด้วยวิธีอื่น แต่เพราะไม่มีความพยายามที่จะปฏิบัติตามเกณฑ์อย่างเคร่งครัด การณ์กลับกลายเป็นว่าคนรวยที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการฟอกเลือด ส่วนคนจนหรือคนชายขอบที่อยู่ในเกณฑ์กลับไม่ได้รับการฟอกเลือด เช่นนี้จึงกระทบต่อถุงเงินรวมของระบบสุขภาพและชวนให้ถกเถียงได้อีกว่าเช่นไรจึงเป็นสุขภาพพอเพียง


คนรวยที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ฟอกเลือดสมควรรับการรักษาด้วยวิธีอื่น เพื่อเก็บเงินไว้ฟอกเลือดคนจนที่อยู่ในเกณฑ์จะดีกว่าหรือเปล่า หรือคนรวยมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าคนจน หรือเพราะนิ้วมือคนเราไม่เท่ากันจะหวังให้ระบบสุขภาพเท่าเทียมได้อย่างไร


เพื่อให้เข้าใจ (หรืออาจจะสับสนมากยิ่งขึ้น) จะยกตัวอย่างความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ล้ำหน้ายิ่งกว่ายาต้านมะเร็ง ยาต้านไวรัสเอดส์ หรือการล้างไต (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีการผ่าตัดและการรักษาอีกนับสิบชนิดที่กำลังดำเนินการกับคนรวยโดยเฉพาะอยู่แล้ว)


เช่น การตรวจทางพันธุกรรมให้แก่ทารกในครรภ์เพื่อป้องกันและรักษาโรคบางชนิด การปลูกถ่ายเซลต้นตอเพื่อรักษาโรคบางชนิด หรือบริการธนาคารรับฝากรกเพื่อหวังนำเซลเม็ดเลือดในรกกลับมาใช้รักษาทารกคนนั้นในเวลายี่สิบปีให้หลัง เป็นต้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกิจกรรมล้ำยุคราคาแพงที่กำลังพัฒนาและมีแต่คนรวยได้รับบริการ


ถึงแม้เงินที่จ่ายไปกับกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นเงินส่วนตัวของคนรวยหรือสถาบันวิจัยใด ๆ แต่เงินเหล่านี้ก็ไปจากทรัพยากรทางสุขภาพของส่วนรวมด้วย ถึงแม้ถุงเงินจะมีจำกัด ก็อาจจะไม่สมควรที่เราตั้งคำถามถึงเรื่องนิ้วมือทำไมไม่เท่ากันในกรณีเช่นนี้


คำถามที่สร้างสรรค์กว่าและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าจึงเป็นว่าอย่างไรถึงเป็นสุขภาพพอเพียง