Skip to main content

มองไปข้างนอก

คอลัมน์/ชุมชน

จิรกาล


เมื่อเกิดความเครียดขึ้น เราก็คงมีทางออกแตกต่างกันไป อาทิตย์ก่อน ช่วงที่การทำงานครั้งแรกของฉันดูเหมือนจะมีปัญหา ทีแรกฉันแก้ด้วยการไปเดินเล่นแถวท่าพระจันทร์ ดูเสื้อผ้า กระเป๋า โปสการ์ดทำมือ ไปเรื่อยเปื่อย จนมาถึงร้านหนังสือร้านประจำก็แวะเข้าไปดู ทำให้ฉันได้พบกับ "รักพลิกล็อก" หนังสือการ์ตูนของนักเขียนรุ่นเก๋าอย่างอ.อาดาจิ มิซึรุ ที่สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจนำมาพิมพ์ใหม่ (เรื่องนี้อ.เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1991) ด้วยความที่ชอบการ์ตูนของเขาอยู่แล้ว จึงซื้อมาทีเดียวทั้งสองเล่ม


"รักพลิกล็อก" เป็นเรื่องของคิชิโมโต้ คาซึมิ เด็กหญิงอายุ 15 ปีที่ย้ายเข้ามาอยู่กับป้าของเธอ เนื่องจากเดินทางไปโรงเรียนใหม่ของเธอได้สะดวกกว่า แต่แล้วชีวิตที่เธอคาดว่าจะสงบสุขก็หายไป เมื่อเธอพบว่า ป้าของเธออนุญาตให้เด็กผู้ชาย 4 คนมาเช่าพักอยู่ด้วย ทั้ง 4 คนมีบุคลิกแตกต่างกันไป คนหนึ่งคือ ทากาซึกิ ยูซากุ เด็กผู้ชายที่ชอบให้กำลังใจผู้อื่นอยู่เสมอ อาริยาม่า ทาคาชิ รูปไม่หล่อ แต่ว่ามีจิตใจดี มิกิโมโต้ ชิน หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ออกจะลามกสักหน่อย มาโคโต้ คนแปลก ๆ ที่ชอบเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยแล้วก็หายไป ความวุ่นวายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในบ้านเท่านั้น แต่เกิดขึ้นในโรงเรียนด้วยเพราะทุกคนเรียนอยู่ที่เดียวกันหมด


ตอนหนึ่งที่ฉันชอบมากในเรื่องนี้ก็คือ ตอนที่คาซึมิและยูซากุถูกซากาโมโต้ หัวหน้าชมรมเชียร์ซึ่งใคร ๆ ก็ลือว่าเป็นคนเกกมะเหรกเกเรเรียกตัวไปคุยด้วย (จากการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมา ภาพลักษณ์ของชมรมเชียร์ในญี่ปุ่นจะออกแนวบ้าดีเดือด ไม่ก็นักเลง ๆ หน่อย-ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยในความรู้น้อยด้วยค่ะ) เคย์โกะ ซึ่งเป็นเพื่อนของทั้งสอง จึงไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายของเธอ


แต่ก็ถูกเขาถามว่า "รู้จักซากาโมโต้ด้วยรึ"
เธอตอบว่า "ไม่รู้ค่ะ... แต่ว่าทุกคนบอกว่าเขาเป็นคนใจร้าย เป็นคนไม่ดี"
"ทุกคนน่ะกี่คนกัน" เขาถามกลับ


เมื่อพี่ชายไม่ยอมช่วย เธอจึงต้องออกโรงเอง พอไปถึง ปรากฏว่า ทั้งคาซึมิและยูซากุปลอดภัยดี ซากาโมโต้เพียงแค่ต้องการขอให้ทั้งสองช่วยนำของไปคืนให้เพื่อนเก่าที่เลิกคบเขาเพียงเพราะกลัวว่าภาพพจน์ดี ๆ ของเธอจะเสียไป ส่วนเรื่องที่ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่า เขาเป็นคนไม่ดี ก็เพราะว่าเขาเป็นคนตัวใหญ่ แข็งแรง ซ้ำยังหน้าตาน่ากลัว บางคนจึงกลัวเขา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้จัก บางคนที่อยากได้ชื่อว่าเจ๋งจึงไปท้าเขาต่อยตี ก็เท่านั้นเอง


น่าแปลกที่แค่คำพูดของคนไม่กี่คน ประกอบกับภาพในหัวว่าถ้าคนลักษณะอย่างนี้ ต้องมีนิสัยอย่างนี้ ทำให้เราเชื่อตามที่สายตาเห็น หรือที่หูได้ยินไปเสียก่อนแล้ว


หลังจากอ่านจบ ฉันพยายามเตือนตัวเองว่า อย่ารีบตัดสินใครเร็วเกินไปนัก เพราะนั่นอาจทำให้เราพลาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป


สุดท้ายแล้ว เคย์โกะก็ได้รู้ว่า ซากาโมโต้เป็นเพียงคนธรรมดา ๆ ที่ไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน จะว่าไป การ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ได้เสนอทางออก หรือวิธีแก้ปัญหาเรื่องการทำงานให้ฉันหรอก แต่ว่าพอได้อ่านแล้วจิตใจที่ว้าวุ่นก็กลับสงบลงได้ บางทีอาจเพราะการอ่านทำให้ฉันไม่ต้องมองแต่ตัวเองมากเกินไปนักก็อาจจะเป็นได้