Skip to main content

" คุณพ่อขายาว" : ยาสามัญประจำบ้านของผู้เดินทางตามหาฝัน

คอลัมน์/ชุมชน

ระเบียงโมกข



ทุกคนมีความฝันและฉันก็เชื่อว่าเพราะความฝันนี่แหละ ที่ทำให้คนเราใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง พร้อมจะก้าวเดินไปให้ถึงสิ่งที่ฝันไว้ แต่เส้นทางแห่งความฝันใช่ว่าจะราบเรียบและโรยด้วยกลีบกุหลาบหอมกรุ่นเสมอไป ตรงข้ามบางครั้งเราก็สะดุดหินก้อนโตล้มลง มีบาดแผลจนต้องหาวิธีเยียวยาให้หายเพื่อที่จะได้ก้าวเดินต่อไป


ฉันเองก็สะดุดก้อนหินล้มลงหลายครั้ง (บางทีเดินอยู่ดี ๆ ก็มีคนขัดขาให้ล้มเสียได้) ครั้งไหนเจ็บตัวไม่มากก็ลุกขึ้นปัดฝุ่นเช็ดเนื้อตัวให้สะอาดแล้วเดินต่อไป แต่ถ้าครั้งไหนเจ็บมากหน่อย ฉันก็จะเล่าอาการเจ็บปวดให้ คนที่เป็นแรงบันดาลใจ หรือผู้จุดประกายความฝันของฉันฟัง ฉันว่ามันเป็นวิธีเยียวยาบาดแผลที่ได้ผลดีทีเดียวนะ


" จูดี้" หรือ " เจอรูชา แอ๊บบอท" หญิงกำพร้าวัย 18 แห่งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจอห์น เกรีย ผู้ซึ่งมีความสามารถด้านการเขียนก็คงคิดเหมือนฉัน เพราะเธอจะเขียนจดหมายเล่าเรื่องราวทั้งทุกข์และสุขถึง " คุณพ่อขายาว" ผู้เป็นที่รักของเธอเสมอ ด้วยจูดี้ระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า ความฝันของเธอจะไม่ได้รับการสานต่อเลยหากไม่มีคุณพ่อขายาวเป็นผู้อุปการะส่งเสียให้เธอเล่าเรียนในวิทยาลัย


อย่าเพิ่งงงนะคะ ฉันไม่ได้พร่ำเพ้อถึงเพื่อนหรือคนรู้จัก แต่ฉันกำลังพูดถึงวรรณกรรมโรแมนติกคลาสสิกเรื่อง " คุณพ่อขายาว" ของจีน เว็บสเตอร์ ( Jean Webster )


ความจริงคุณพ่อขายาวของจูดี้มีชื่อว่า " คุณเจอวิส" แต่เขาให้จูดี้จ่าหน้าซองจดหมายถึงเขาว่า " จอห์น สมิธ" และมีเงื่อนไขว่าเธอจะต้องไม่เรียกร้องที่จะพบหน้าเขา แม้ว่าจูดี้จะรู้สึกอึดอัดแต่เธอก็ยังคงเขียนจดหมายถึงเขาอย่างสม่ำเสมอเพราะเธอยึดเขาเป็นที่พึ่งทางใจ โดยไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วคุณพ่อขายาวของเธอก็คือคุณเจอวิส อาของเพื่อนเธอนั่นเอง ซ้ำเธอยังเคยพบเขาบ่อย ๆ แถมยังคุยกันถูกคอจนพัฒนาเป็นความรัก แต่จูดี้ก็ปฏิเสธเมื่อเจอวิสขอเธอแต่งงาน โดยให้เหตุผลว่าเด็กกำพร้าเช่นเธอไม่คู่ควรกับชายผู้มีชาติตระกูล ถึงพร้อมด้วยการศึกษาและมีฐานะร่ำรวยอย่างเขา


ฉันว่าที่จูดี้ปฏิเสธคุณเจอวิสไม่ใช่เพราะเหตุผลข้างต้นหรอก แต่เป็นเพราะเธอมีความผูกพันทางใจกับคุณพ่อขายาวของเธอมากกว่า ที่สำคัญเธอต้องการสานฝันให้สำเร็จเสียก่อนเพื่อไม่ให้คุณพ่อขายาวรู้สึกว่า เธอเป็นเด็กอกตัญญู ไม่ใช้วิชาความรู้ที่เขาส่งเสียให้เล่าเรียนไปทำประโยชน์ แต่กลับแต่งงานหลังจากเรียนจบ


ฉันไม่บอกตอนจบหรอกนะคะว่า จูดี้จะรู้ความจริงว่าคุณพ่อขายาวของเธอกับคุณเจอวิสเป็นคน ๆ เดียวกันหรือเปล่า เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ฉันจะพูดถึง คอหนังสือก็คงไม่ชอบใจนักถ้าจะมีคนมาเล่าตอนจบให้ฟัง


ที่ฉันอยากพูดถึงคือ เรื่องที่จูดี้เขียนจดหมายถึงคุณพ่อขายาวของเธอต่างหาก ฉันว่านี่เป็นวิธีที่จูดี้ใช้เพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บจากการสะดุดก้อนหิน เพราะกว่าที่จะได้ตีพิมพ์ งานเขียนของเธอก็ถูกขยำลงตะกร้าหลายครั้ง บางครั้งก็ถูกบรรณาธิการวิจารณ์จนแทบหมดกำลังใจ ถ้าไม่มีคุณพ่อขายาวเป็นที่ระลึกถึงล่ะก็ ฉันว่าจูดี้อาจหมดแรงท้อเอาได้ง่าย ๆ


ฉันก็มี " คุณพ่อขายาว" เหมือนกับจูดี้ เขาไม่ได้เป็นผู้อุปการะส่งเสียฉันเรียนหรอกนะคะ แต่เป็นผู้เปิดโลกกว้างทางความคิดและเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันมุ่งมั่นที่จะสานฝัน บางครั้งเวลาที่ฉันท้อแท้หรือเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่ทำอยู่ ถ้าเพียงได้เขียนไดอารี่เล่าเรื่องราวให้เขาฟัง ฉันก็จะรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าประหลาด


ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็ไม่เคยได้อ่านหรือรับรู้เรื่องราวที่ฉันเขียนแม้แต่น้อย ไม่เหมือนคุณพ่อขายาวของจูดี้ที่แม้จะเจ็บป่วยก็ยังอ่านจดหมายของเธอ


นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกว่าจูดี้โชคดีกว่าฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้น้อยใจหรอกนะคะ กลับรู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าอีกหลายคนที่ยังค้นหาสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจไม่พบด้วยซ้ำ


คุณล่ะ เจอแรงบันดาลใจแห่งความฝันหรือยัง