Skip to main content

"เดียวดาย"

คอลัมน์/ชุมชน








เรื่องและภาพโดย...บัณฑิต



 




ตอนเด็ก ๆ ช่วงก่อนโรงเรียนปิดเทอม มักมีคำถามว่า " ปิดเทอมนี้จะทำอะไร" เพื่อนของผมหลายคนจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า " กลับบ้านนอก" โดยหมายถึงบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดนั่นเอง คนที่อยู่รายรอบตัวผมจำนวนไม่น้อย มาจากต่างจังหวัด เข้ามาเรียนหนังสือ แล้วเลยใช้ชีวิตต่อในกรุงเทพฯ เรื่อยมา


ผมเคยอิจฉาเพื่อน ๆ เหล่านี้อย่างมาก เพราะผมเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดและโตที่นี่ พอโรงเรียนปิดเทอมทีก็ไม่เคยมีบ้านไหนจะให้กลับ นอกจากบ้านเช่าเก่า ๆ เล็ก ๆ ในตลาดสด แต่นั่นก็เนิ่นนานมากแล้วจนผมไม่ได้คิดถึงมันอีก กระทั่ง ได้คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง เรื่องราวแบบนี้ก็เวียนกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง


มีรุ่นน้องคนหนึ่งเป็นคนอีสาน ทำค่ายเยาวชนในภาคเหนือมาด้วยกัน พี่คนหนึ่งถามว่ารู้สึกอย่างไรหลังจบค่าย เขาตอบว่า ดีใจที่ได้ไปสัมผัสชนบท ทำให้คลายความคิดถึงบ้านลงบ้าง เพราะอยู่กรุงเทพฯ ต้องดิ้นรน ทุกอย่างต้องแย่งกัน เหนื่อย อยากกลับไปอยู่บ้าน เช่นเดียวกับที่ผมได้ยินจากรุ่นน้องอีกคนหนึ่งมาจากสุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ คิดถึงบ้าน ต้องโหนรถไฟกลับบ้านทุกอาทิตย์ รู้สึกแปลกแยกจากกรุงเทพฯ


ผมจำได้ว่า หนังไทยหลายเรื่องนำเสนอกรุงเทพฯ ในทำนองว่ามีขุมทรัพย์และความมั่งคั่งรอให้มาขุดเอาไป ตัวเอกของเรื่องจึงฝันที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาหางานทำ เช่นเดียวกับคนจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางเข้ามาเสี่ยงดวง หรือแสวงโชคในเมืองใหญ่แห่งนี้ โดยทิ้งบ้านเกิดที่แสนจะไม่พัฒนาและแร้นแค้นไว้เบื้องหลัง ซึ่งก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สมหวัง มาร่ำรวยเอาที่นี่ คล้ายนิยาย กระยาจกจีนโพ้นทะเลที่ใช้แรงใจแรงกายและสติปัญญาขับเคี่ยวตัวเอง จนกลายมาเป็นเจ้าสัวใหญ่ในแผ่นดินสยาม โดยลืมไปเลยว่า มีกุลีจีนรุ่นเดียวกันอีกไม่น้อยทีเดียวที่เขยิบฐานะตัวเองขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อย


อาจจะเกินเลยไปหน่อย หากกล่าวว่า ชีวิตในกรุงเทพฯ ทำให้ความมีน้ำจิตน้ำใจของคนแห้งเหือดไป แต่การเรียนรู้ที่จะอยู่รอด การมีพื้นที่จำกัด และการแข่งขันที่ไม่มีใครอ่อนข้อให้ ทำให้แต่ละคนต้องขับตัวเองให้โดดเด่น ดึงดูด น่าสนใจ เป็นเป้าและตัวเลือก ปัจเจกบุคคลจึงต้องใส่ใจเรื่องราวของตัวเองให้มากขึ้น ๆ กระทั่งเป็นธรรมดาที่จะละเลย มองไม่เห็น หรือไม่รับรู้เรื่องราวแวดล้อมอื่นใด ข่าวสารบ้านเมือง ความทุกข์อื่น ๆ ของคนร่วมสังคม ก็กลายเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยว ไม่เข้าใจ และไร้สาระไปโดยสิ้นเชิง มีคนสรุปให้ฟังว่า ในกรุงเทพฯ คนข้างบ้านหายไป 3 วัน ยังไม่รู้เลย กว่าจะรู้ก็ขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นเสียแล้ว


ความคิดถึงบ้านของรุ่นน้องคนนั้น แม้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่ก็เป็นความรู้สึกร่วมกันกับคนจำนวนไม่น้อย ที่บางครั้งเหนื่อย เหงา และแย่ กับกรุงเทพฯ เมืองที่ไม่ยอมหลับใหล เมืองที่มีแสงไฟประชันกันในยามค่ำคืน


ผมว่า คนที่โชคดีคือ คนที่ยังมีบ้านจริง ๆ ให้คิดถึง มีบ้านให้กลับ กลับไปหาความไออุ่นที่แม้อยู่ไกล แต่สามารถจินตนาการได้ และสัมผัสถึง


 


ต่างจากคนกรุงเทพฯ ที่บางครั้งรู้สึกอยากกลับบ้าน


แต่...ไม่มีบ้านจะให้กลับ






"ผมชอบท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ และชอบที่จะบันทึกเรื่องราวส่วนใหญ่ไว้ในภาพถ่าย เพื่อเวลาผ่านไป จะได้หยิบขึ้นมารำลึกความทรงจำสักครั้ง เช่นเดียวกัน ภาพถ่ายของหลายคนคงมีเรื่องราวเก็บซ่อนอยู่ในตัวมันเอง และกำลังตั้งหน้าตั้งตารอให้เจ้าของหยิบมันขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาอีกครั้ง".............บัณฑิต