Skip to main content

ตอน 1 : บทนำ

คอลัมน์/ชุมชน

ตอน 1 : บทนำ


แดดยามสายของวันธรรมดา ๆ ในช่วงต้นฤดูร้อน แม้ว่ามันจะไม่ได้ร้อนอย่างโหดร้ายอย่างแดดตอนเที่ยงตรง แต่กระนั้นมันก็แรงพอจะคั้นเหงื่อจากร่างกายได้เกือบชุ่ม ๆ ตัว


ผมนั่งรถเมล์สาย 47 เพื่อเตรียมตัวมาทำงาน แต่ในขณะที่นั่งมาถึงบริเวณสี่แยกคอกวัว มองไปที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ แล้วก็พบว่าอนุสรณ์สถานเปลี่ยนไปจากที่ผมเคยเห็น


จากเดิมที่เคยดูเหมือนเป็นกล่องทึบ ๆ ก็ดูโล่งขึ้นด้วยกำแพง 2 ข้างที่ถูกทุบไป ทำให้ตัวอนุสรณ์สถานดูโปร่งขึ้น


ผมจึงตัดสินใจลงจากรถ มาดูอนุสรณ์สถานเต็ม ๆ แล้วก็พบว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารที่เปลี่ยนหน้าที่จากสำนักงานของอนุสรณ์สถานและห้องประชุม กลายเป็น "พิพิธภัณฑ์ 14 ตุลาฯ"


ส่วนที่ชั้นบนก็โล่งขึ้นมาก และเป็นที่ตั้งของ "นิทรรศการหมุนเวียน" ที่จะมีการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ในส่วนของชั้นล่าง ก็เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ถาวร ที่แสดงประวัติศาสตร์ 14 ตุลาฯ จากสายตาของสามัญชนธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้มาจากแต่มุมของ "ผู้นำนักศึกษา" แต่ฝ่ายเดียว


ระหว่างที่ผมเดินดูนิทรรศการอยู่นั่นเอง ก็เห็นเด็กมัธยมปลาย 2-3 คน เดินตรงเข้าไปในห้องอีกห้องนึง ผมเห็นป้ายห้องนั้นเขียนว่า "ศูนย์สารสนเทศ" ผมเลยลองเดินตามเข้าไปดู ก็พบว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยเอกสารและหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ รวมทั้งมีฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์สำหรับสืบค้นด้วย ผมมองเห็นน้องมัธยมสองคนนั้นค้นข้อมูลอย่างขะมักเขม้น คาดว่าเธอคงต้องทำรายงานเรื่องนี้แน่ ๆ


นอกจากนักเรียนกลุ่มนี้ ยังมีอีกหลายกลุ่มที่มาที่นี่ ทั้งที่โรงเรียนพามาทัศนศึกษา และมาหาข้อมูลทำรายงานกันเอง นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่หลุดมาจากถนนข้าวสารมาเที่ยวด้วย


ผมเดินดูนิทรรศการได้พักใหญ่ แม้จะรู้สึกว่าตัวพิพิธภัณฑ์จะโอเคก็ตามที แต่ผมก็ยังเสียดายที่ส่วนของห้องประชุมที่หายไป เพราะห้องประชุมแห่งนี้เป็นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ อันหลากหลาย ตั้งแต่เสวนา ดนตรี หนังสั้น และอื่น ๆ อีกมากมาย (แม้ว่ามันจะอับไปหน่อยก็ตามทีเถอะ) ผมบ่นในใจพลางเดินออกไปด้านหลัง เพื่อกินซ่าหริ่มเจ้าประจำแถว ๆ นั้น


แล้วผมก็พบว่า ทั้งหอประชุมและสำนักงานของอนุสรณ์สถานก็ย้ายไปยังตึกแถวด้านหลังอนุสรณ์สถาน ที่ได้รับการตกแต่งใหม่จนดูดีกว่าเดิมมากโข ทั้งห้องประชุมก็ไม่อับจนหายใจแทบไม่ออกเหมือนกับแต่ก่อน


ผมเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่ว่า เราได้แหล่งความรู้ทางประวัติศาสตร์ภาคประชาชนที่น่าสนใจอีกแหล่งหนึ่งแล้ว...


@#@#@#@#@


"คอกวัวค่ะ คอกวัว..." เสียงกระเป๋ารถเมล์ตะโกนเรียกผู้โดยสาร ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาตรงนั้น


อ้าว...แล้วที่ผมเห็นเมื่อตะกี้เป็นความฝันหรอกเหรอ? ผมจึงลองมองไปที่อนุสรณ์สถาน...ก็พบว่ามันยังคงเหมือนเดิม


แต่ภาพที่ผมพูดถึงนั้น กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้...เพราะขณะนี้ทางอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ก็มีโครงการจะสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ 14 ตุลาฯ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2548 และ "ประชาไท" จะพาท่านผู้อ่านไปดูการค่อย ๆ ก่อร่างของพิพิธภัณฑ์ไปตามลำดับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


โปรดติดตามต่อไปด้วยใจระทึก...