จิตวิญญาณของรัฐวิสาหกิจ
คอลัมน์/ชุมชน
ในกรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของวุฒิสภา ได้มีการแสดงความกังวลใจต่อการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของประเทศไทย ซึ่งอำนาจการผูกขาดที่รัฐวิสาหกิจมีอยู่ยังคงสภาพเหมือนเดิมก่อนแปรรูป
ผลก็คือ ยังคงมีการใช้อำนาจผูกขาดกำหนดราคา โดยไม่เกิดการแข่งขันที่แท้จริง รัฐวิสาหกิจไหนที่มีอำนาจผูกขาดเยอะ กำไรก็จะเยอะ รัฐวิสาหกิจไหน อำนาจผูกขาดน้อย หรือมีการแข่งขันสูง กำไรก็จะน้อย
เช่น การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย กำไรปีละหลายหมื่นล้าน เพราะมีอำนาจกำหนดค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย
ส่วนการบินไทยกำไรจะน้อย เพราะมีการแข่งขันจากสายการบินต่างประเทศ และการบินแบบโลว์คอส
ก่อนการแปรรูปเป็นบริษัท จิตวิญญาณในการบริหารงานจะมีการทำงานเพื่อบริการ ไม่ใช่มุ่งเน้นเรื่องของกำไร แต่ถ้ามีการแปรรูปเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ จะมุ่งแต่ผลกำไรสูงสุด จิตวิญญาณแห่งการบริการจะหายไป
สิ่งที่วุฒิสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ได้แสดงจุดยืน และแนะนำรัฐบาลว่า หากมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต้องมีองค์กรกลางเพื่อกำกับดูแลอำนาจการผูกขาดก่อนมีการแปรรูป
ไม่ใช่เร่งรีบแปรรูปโดยไม่มีองค์กรอิสระในการควบคุมการผูกขาด เช่น ต้องมีองค์กรกำกับดูแลในการกำหนดอำนาจการผูกขาดคิดค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
ต้องมีองค์กรกำกับดูแลในการกำหนดราคาไฟฟ้า ประปา เพื่อพิจารณาการคิดค่าไฟฟ้า ประปาให้เป็นธรรม ไม่ให้ใช้อำนาจผูกขาดไปเรียกค่าน้ำค่าไฟตามอำเภอใจ
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก เพราะมีการแข่งขันจากเอกชนหลายแห่งทำให้ค่าโทรศัพท์ต้องแข่งขันทางด้านราคาอยู่แล้ว แต่รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีองค์กรอิสระในการดูแลคลื่นความถี่ซึ่งถือเป็นทรัพยากรของรัฐ
องค์กรของรัฐที่เป็นอิสระในการจัดสรรคลื่นความถี่ในการส่งวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ และวิทยุคมนาคม ก็คือ คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.)
หน้าที่อย่างหนึ่งของ กทช. ที่จะทำก็คือ ต้องให้มีการเชื่อมสัญญานคลื่นอย่างเป็นธรรม ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการเก็บค่าผ่านการใช้คลื่นของเครือข่ายอย่างที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ต่างเครือข่ายก็มีการเรียกเก็บค่าผ่านเครือข่าย จะมีปัญหาเรื่องโทรศัพท์ไม่ติด หรือติดยากในขณะนี้
งานที่สำคัญของ กทช.ในขณะนี้คือการจัดสรรคลื่นความถี่ ให้สามารถรองรับกับการให้งานของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นเดียวกับการที่จะมีวิทยุชุมชนในประเทศมากขึ้น ไม่เหมือนในอดีตที่คลื่นวิทยุจะต้องผูกขาดในหน่วยงานของรัฐเท่านั้น
หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องของวิทยุและโทรทัศน์ก็คือ กสช. ซึ่งวุฒิสภาจะทำการเลือกกรรมการ กสช.ในเร็ว ๆ นี้
รูปแบบขององค์กรอิสระในการควบคุมอำนาจการผูกขาดจะมีลักษณะที่แตกต่างกันแล้วแต่รัฐวิสาหกิจ ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้ยินเรื่องขององค์กรอิสระอย่างนี้มากนัก แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้กำหนดองค์กรอิสระเพื่อประชาชนมากขึ้น นอกจากในเรื่องของทรัพยากรสื่อสารของชาติแล้ว ในอนาคตเราจะได้เห็นองค์กรอิสระในการกำหนดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
ผมเล่าให้ท่านฟังในสัปดาห์นี้ก็เพื่อจะเน้นให้ท่านทราบว่า ในวุฒิสภาได้ทำหน้าที่เป็นกระจกให้กับฝ่ายบริหารทราบว่า การมุ่งแต่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นมีปัญหา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเร่งรีบแปรรูปโดยไม่มีองค์การกำกับดูแลควบคุมอำนาจการผูกขาดจะทำให้เกิดการคิดค่าใช้จ่ายอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค รัฐควรจะมุ่งเน้น ความมีประสิทธิภาพในการแข่งขันของรัฐวิสาหกิจก่อนที่จะมีการแปรรูป
เราก็ต้องติดตามดูว่ารัฐบาลจะฟังสิ่งที่วุฒิสภาเป็นห่วงหรือไม่ และผมจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป