Skip to main content

เรื่องของพื้นที่

คอลัมน์/ชุมชน

เรื่องและภาพ : วาดวลี


 


"หนูเป็นนักข่าวหรือเปล่าจ๊ะ"


หญิงชราถามขณะวางชามพลาสติกไว้ตรงหน้า


ฉันลดกล้องถ่ายรูปลง แล้วยิ้ม มองข้าวร้อนๆ ที่คุณยายเอามาเสิร์ฟ


ในร้านธรรมดาริมถนน มีทั้งข้าวแกงและอาหารตามสั่ง


เวลานี้ไม่มีลูกค้า เพราะเลยเวลาเที่ยงมากว่าสองชั่วโมงแล้ว


แดดจัดจ้านระบายตัวเองอยู่ในอากาศ หลังจากเพิ่งสั่งลาเม็ดฝนไปเมื่อเช้า


 


"ไม่ใช่หรอกจ้ะยาย แค่ชอบถ่ายรูปเท่านั้นเอง"


"เหรอ ยายเห็นถ่ายไปเรื่อยๆ นึกว่าจะเอาไปลงหนังสือ"


ยายว่าโดยไม่หันมามอง หมูสับจากถังแช่ใบเล็กๆ ถูกหยิบขึ้นมา


ใบกระเพราที่ดูออกว่าปลูกเอง มีเด็กน้อยอีกคนช่วยนั่งเด็ด


"รอหน่อยนะ ของที่เตรียมไว้มันหมด"


"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบเบาๆ ไล่สายตามองไปทั่วร้าน


เลยฝั่งถนนออกไปอีกด้านเป็นทุ่งนา


ดูเหมือนเพิ่งถูกกลบรอการไถหว่าน


เลี้ยวหันกลับมา ยายหยิบหนังสือพิมพ์มาวางไว้ให้อ่านรอ


 


"ขอบคุณค่ะ ยาย"


ไล่สายตาไปตามหน้าหนังสือพิมพ์ ข่าวหน้าหนึ่งพาดหัวคดีฆ่าคน


พร้อมรูปศพถูกยิงเลือดสาดอยู่ริมถนน


หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่คุ้นเคยชื่อดี เปิดไปเรื่อยๆ จึงได้รู้ว่า


ในเมืองนี้ กำลังจะมีการรับปริญญา มีการสัมมนาว่าด้วยเรื่องการประกอบธุรกิจขนาดเล็ก


มีร้านอาหารเปิดใหม่สามแห่งที่ให้เปิดเหล้าได้ฟรีตลอดเดือน


มีพริตตี้คนใหม่เป็นดาวของวงการ ไว้รอบริการลูกค้าถึงเที่ยงคืน


มีคนดังไปร่วมแสดงความยินดีกับพิธีเปิดบริษัทรถยนต์


และโฆษณาว่าด้วยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ หน้าต่อหน้า พร้อมโฆษณาคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียครบครัน


 


"ที่ยายถามว่าเป็นนักข่าวหรือเปล่า ยายมีเรื่องจะเล่าน่ะ"


ยายมาพร้อมผัดกระเพรา แล้วถอยออกไปนั่งอยู่ห่างๆ


"มีอะไรคะยาย"


 


"คือที่ตรงนี้ปีที่แล้วมันเคยน้ำท่วมนะ  เขาก็เลยเอาดินมาถมถนน แต่เห็นไหม มันเป็นหลุมเป็นบ่อ"


ยายชี้ไปยังถนนตรงหน้า ร่องรอยคอนกรีตที่แตกร้าว ผสมกับลูกรังสีแดง เศษก้อนหินเกลื่อนไปทั่ว


"ตอนหน้าฝนน้ำมันจะขัง ใครขับรถเร็วๆ น้ำมันก็กระเด็นมาเข้าร้าน ส่วนเวลาหน้าร้อน ฝุ่นมันเยอะเหลือเกิน


ยายกับหลานก็เลยเอาน้ำมารดให้มันเปียกๆ กลัวคนเขาจะมองว่าอาหารริมทางสกปรก"


 


"อืม ค่ะ แล้วยายเคยแจ้ง อบต. หรือผู้ใหญ่บ้านอะไรไหม"


"แจ้งตลอดน่ะแหละ แต่เขาก็บอกว่าทำเรื่องแล้ว ต้องรอก่อน เราก็รอไปเรื่อยๆ"


"อืม.."


 


เหมือนมีอะไรจะพูด แต่ฉันก็ได้แต่อ้ำอึ้ง มองออกไปยังทุ่งนาฝั่งตรงข้าม


รอยไถหว่านที่พรุ่งนี้คงจะมีคนมาปลูกข้าว วันถัดไปเมื่อข้าวโตแล้ว ก็คงจะมีคนมารอเก็บเกี่ยว


ภาพผ่านชีวิตของคนธรรมดาในอำเภอห่างไกล ซึ่งก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


หรือน่าสนใจในสายตาคนอื่น และภาพผ่านเหล่านี้ก็ไม่เคยมีปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์


หรือบางทีก็อาจจะมี เพียงแต่อยู่ในกรอบเล็กๆ ที่อาจผ่านสายตาไปโดยไม่ได้อ่าน


 


"ยายก็เลยนึกว่า ถ้าหนูเป็นนักข่าว จะได้ช่วยกันเอาไปลงหนังสือบ้าง"


"ยายอยากให้ลงหนังสือเหรอคะ"


"ใช่ ทำนองว่าคอลัมน์ร้องทุกข์แบบนี้น่ะ มีไหม"


ยายยิ้มน้อยๆ สลับกับหันไปดูเด็กๆ ที่ช่วยตักพริกน้ำปลาใส่ถุง


ฉันกินข้าวเสร็จแล้ว หยิบเงินส่งให้ยาย พร้อมพับหนังสือพิมพ์ที่กางไว้ ให้กลับคืนสภาพเดิม


 


"ไปนะคะยาย ไว้ถ้าเจอนักข่าวจะช่วยบอกเขาให้นะ"


ยายยิ้ม ก้มลงเก็บจานบนโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยทักทายลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามา


ยายหยิบหนังสือพิมพ์เล่มเก่าส่งให้ แล้วไปเตรียมอาหารที่เขาสั่ง


 


ฉันมองออกไปยังทุ่งนา เหนือขึ้นไปเป็นท้องฟ้าสีสด


ขับรถออกมา ริมถนนมีคนชรามุ่งหน้าหาของเก่าขาย


ชีวิตธรรมดาที่ราวกับว่าเป็นส่วนประกอบเล็กน้อย และพวกเขาสบายดี


เป็นภาพผ่านที่ไม่มีประเด็นน่าสนใจ พอจะถูกหยิบยกไปไว้ในพื้นที่หนังสือพิมพ์


 


ยิ่งคนจนเหลือน้อยเท่าไหร่ในหน้ากระดาษ


เราก็จะเชื่ออย่างที่เขาประกาศ – ประเทศเราไม่มีคนจนแล้ว


 


ประโยคนี้แว่วมาในความคิด สลับกับการนึกถึงบทสนทนา ที่ได้ยินก่อนออกมาจากร้านยายเมื่อครู่นี้


คนหนุ่มสองคน จากรถกระบะคันใหม่สีน้ำเงินเข้ม


เขาคุยกันว่า จะเลือกโทรศัพท์รุ่นไหนดี ที่ถ่ายรูปได้ชัดกว่ากัน